เห็นคำถามลักษณะนี้บ่อยๆ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้เริ่มเรียน แต่ก็มีไม่น้อยกับผู้ที่แม้จะเรียนมานานแล้วก็ยังไขว้เขวได้

หลักการของการอ่านดวงชะตา ไม่ว่าจะใช้อ่านในพื้นดวงชะตา ดวงจร ทุกลักษณะ จะใช้วิธีการอ่าน หรือผสมความหมายเช่นเดียวกัน คือ

การอ่านที่หมายถึงตัวบุคคลจะต้องมีจุดเจ้าชะตา สัมพันธ์กับดาวพระเคราะห์ ทุกครั้ง จึงจะมีอิทธิพลต่อบุคคล

เช่น ศุกร์กำเนิด ทำมุม 45 องศากับ ลัคนากำเนิด

        เสาร์จร ทำมุม135 องศากับอาทิตย์กำเนิด

        จันทร์จร หรือจันทร์ V1  = พฤหัสกำเนิด

กรณีที่ดาวพระเคราะห์ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพระเคราะห์ ไม่ใช่เรื่องหรือเหตุการณ์ของบุคคล หรือเจ้าชะตา ดังเช่นคำถามที่ตั้งมา และจะไม่มีผลใดๆด้วย ประการสำคัญจะต้องตรวจโครงสร้างอื่นๆประกอบด้วยว่ามีปัจจัยอื่น เช่น อังคารจร หรือเสาร์จร สัมพันธ์กับจุดเจ้าชะตาด้วย นั่นคือปัจจัยที่มีผลต่อเจ้าชะตา

การแปลความหมายขอจุดอิทธิพลต่างๆนั้น

1. ไม่จำเป็นต้องแปลทุกจุด ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องการรู้ สิ่งสำคัญคือ 

2. การเลือกคำแปลตามคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ ซึ่งเป็นปัญหาที่นักศึกษาหลายคน และผู้ที่มีประสการณ์ไม่มาก คือ  แปลความหมายไม่ถูก เลือกคำแปลมาใช้ไม่เป็น

3. การฝึกอ่านความหมายที่ดีคือ การเอาเหตุการณ์ในอดีตของตนเองมาลองฝึก โดยการเอาวันที่เคบเกิดเหตุการณ์ใดๆมาพิจารณากับพื้นดวงกำเนิด  แล้วหาคำตอบของเหตุการณ์ว่า เกิดอะไรขึ้น และมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น การฝึกบ่อยๆจะช่วยให้เราเห็นสมการที่แตกต่างกัน เช่น ดูเรื่องความรัก บางครั้งอาจจะเจอปัจจัยสัมพันธ์กับศุกร์ แต่บางครั้งไม่ใช่ศุกร์ นั่นคือสิ่งที่เราต้องมาวิเคราะห์ต่อไปว่า ความรักของแต่ละกรณีนั้น เจ้าชะตามีอาการ หรือความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

4. ฝึกบ่อยๆ แล้วจะเจอ และเข้าใจปรัชญาของโหราศาสตร์

เพราะงี้ไงคะ ถึงยาก...

ดวงชะตาชีวิตของคน หรือของเหตุการณ์ เป็นเรื่องที่อาจจะหมายถึงความเป็นความตาย ความเสียหาย โอกาส ของเจ้าชะตา ดังนั้น การใช้วิชาโหราศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นโหราศาสร์ แขนงใดก็ตาม ไม่มีอะไรง่ายหรอกครับ เพราะชีวิตของคนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ การเป็นนักโหราศาสตร์ที่ดีจะต้องคำนึงถึง ความเหมาะสม ความถูกต้องตามหลักวิชา ไมใช่ถูกใจ

โหราศาสตร์ยูเรเนียนตามแนวทางที่อาจารย์ประยูรสอนและเผยแพร่ จะเน้นการใช้หลักปรัชญาค่อนข้างมาก จึงทำให้ดูเหมือนยาก

ในโลกนี้ เรามักคิดว่าสิ่งที่เราไม่รู้ สิ่งที่เรายังไม่เคยรู้ ล้วนเป็นเรื่องยากทั้งสิ้น

แต่ลองคิดดูว่า ในความเป็นจริงแล้วในโลกนี้ไม่มีอะไรยาก เพราะสิ่งที่ยากนั้นคือสิ่งที่ยังไม่ปรากฎ หรือยังไม่มีการค้นพบ สิ่งใดที่มีผู้ค้นพบ หรือนำมาใช้แล้ว ย่อมไม่ใช่เรื่องยากทั้งสิ้น ไม่เช่นนั้นจะมีผู้รู้ได้อย่างไร เช่นเดียวกับวิชาโหราศาสตร์ หากเป็นเรื่องยาก ก็คงไม่มีใครจะสืบทอดมาได้จากอดีต จนถึงปัจจุบันได้ และจะยังคงดำรงต่อไปถึงอนาคตได้ด้วย