ReadyPlanet.com
dot


เว็บไซต์หน้าเดียว ปิดการขายรวดเร็วในSalepage


 

Marketing Automation การตลาดอัจฉริยะแบบอัตโนมัติ

Marketing Automation หรือ การตลาดแบบอัตโนมัติ คือการใช้เครื่องมือDigitalและSoftware เข้ามามีบทบาทในธุรกิจเพื่อทำการตลาดออนไลน์โดยอัตโนมัติ เช่นวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ยกตัวอย่าง การเข้าเยี่ยมชมธุรกิจ การปิดการขาย จนถึงลูกค้าที่มีความสนใจในธุรกิจและพฤติกรรมการบริโภคที่คล้ายกัน
อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์และเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ทำให้การตลาดออนไลน์แข็งแกร่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น ผ่านทาง
Social Media หรือ แคมเปญโฆษณา มีประสิทธิภาพที่สูงมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญนั้นข้อมูลหรือDatabaseทุกอย่างถูกเก็บข้อมูลไว้เป็นส่วนตัว โดยความสำคัญของ Database ที่ได้มานั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจของคุณได้หลากหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น การยิง Ads โฆษณา จากการ RE-Target , Lookalike Audience หรือนำ Database และพฤติกรรมต่างๆของลูกค้ามา Custom Audience ได้อีกต่างหาก และนี่คือเหตุผลที่ควรเปลี่ยนแปลงธุรกิจของคุณให้กลายเป็น Marketing Automation  จะทำให้ทุกอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และง่ายขึ้น

การตลาดแบบอัตโนมัติกับแนวคิดธุรกิจในยุคปัจจุบัน

เนื่องจากปัจจุบันปัจจัยหลักในการค้าขายหรือทำธุรกิจออนไลน์นั่นก็คือความสะดวกสบาย ความเข้าใจง่าย และที่สำคัญนั่นก็คือ การโปรโมทและการโฆษณา สร้างแบรนด์ให้ผู้คนเห็นและสนใจมากขึ้น ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้การทำโฆษณาโปรโมทให้กับธุรกิจนั้น ยังคงมีความเข้าใจผิดอยู่บ้างสำหรับเรื่องนี้ บางธุรกิจยังคงเน้นและโฟกัสแค่โฆษณาอย่างไรให้คนเห็นเยอะ เช่นการยิง Ads โฆษณา Facebook ซึ่งบางท่านไม่ได้เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย หรือ เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย แบบพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้เห็นสินค้าและธุรกิจเยอะจริง แต่การที่จะมี % Purchase นั้นไม่ Balance กับ จำนวนคนที่เข้าถึงโฆษณาเอาเสียเลย เพราะฉะนั้นจำนวนไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่อย่างใด แต่ความสำคัญนั้นขึ้นอยู่กับ ความแม่นยำ และ ผลลัพธ์ การตลาดแบบอัตโนมัติหรือ Marketing Automation นี้มีจุดเด่นและประสิทธิภาพสูงที่จะช่วยเก็บพฤติกรรมต่างๆของลูกค้า และ กลุ่มที่ใกล้เคียงกัน เพื่อนำมาโปรโมทให้กับโฆษณาธุรกิจของคุณ อย่างแม่นยำ โดยไม่สูญเสียต้นทุนไปเปล่าๆ ซึ่งทุกอย่างถูกคำนวณด้วยระบบอัตโนมัติ และ มีผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ นี่คือเหตุผลที่ธุรกิจในยุคปัจจุบัน Marketing Automation นั้นได้เปรียบมากกว่าเสมอ ทั้งเรื่องผลลัพธ์ ความแม่นยำ และสิ่งที่ทุกธุรกิจนั้นต้องมีอยู่เสมอนั่นก็คือ ต้นทุนในการทำธุรกิจ ด้วยความที่เป็นระบบอัตโนมัตินั้นเปรียบเสมือนว่าลงทุนแค่เพียงครั้งเดียว  แต่ระบบนี้จะอยู่ตลอดไปโดยมีแต่พัฒนาขึ้นไม่มีความด้อยลง ยกตัวอย่างเช่น การที่คุณมี Salepage หนึ่งหน้าโดยมี Content ที่ละเอียด กระชับ เข้าใจง่าย และดึงดูดความน่าสนใจทำให้ลูกค้าเกิดความอยากได้หรืออยากจะใช้สินค้าหรือบริการนั้นๆ โดยเมื่อลูกค้ากดสั่งซื้อนั้น จะทำให้ระบบอัตโนมัติที่ติดตั้งไว้ทางหน้าเซลเพจ แจ้งเตือนออเดอร์ผ่านเข้าไลน์ และไม่ใช่เพียงแค่นั้น!!! ทาง Salepage ยังมี feature ที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น Upsell คล้ายกับว่าเวลาที่รำไปซื้อของที่เซเว่นแล้วมีประโยคหนึ่งที่พูดขึ้นมาว่า รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มไหมคะ/ครับแต่การตลาดแบบอัตโนมัตินั้น เรามีพร้อมทันทีโดยที่ไม่ต้องมาเชียร์ขายเอง หรือ เสียต้นทุนในการจ้างพนักงานตอบไลน์ตอบแชทหรือเชียร์ขายสินค้า ก็สะดวกสบาย เรียกได้ว่าเหมือนรอลูกค้าเข้ามาเองเท่านั้น

อีกระดับของการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า โดย CRM

Customer Relationship management นั่นก็คือ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในวงการธุรกิจหรือกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อให้เกิดการเชื่อถือและภักดีต่อธุรกิจของเรามากขึ้น เช่น การดูแลฐานลูกค้าเดิมเอาไว้โดยไม่ให้กลุ่มลูกค้าของเราหันไปใช้บริการของคู่แข่ง ทำให้กลุ่มลูกค้าของเรานั้นเกิดการซื้อซ้ำ หรือการหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยที่เป้าหมายของการทำ CRM ไม่ใช่แค่เพียงแต่เน้นการขายและการบริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าและความต้องการของลูกค้าอีกด้วย จากนั้นสามารถนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาและปรับปรุงแผนการตลาด สินค้าหรือบริการได้อีกด้วย 

หลักการทำงาน 4 ส่วนของ CRM

1.identify Customers Segment – ระบุลักษณะลูกค้า

ขั้นตอนการระบุลักษณะของลูกค้า หรือขั้นตอนการเก็บข้อมูลว่าลูกค้าของบริษัทหรือธุรกิจเป็นใครได้บ้าง อยู่ในกลุ่มประเภทไหน  หรือก็คือ  “Customer Segment” ชื่อลูกค้า ตำแหน่ง ข้อมูลสำหรับติดต่อกับลูกค้า ระดับของลูกค้า ความชอบ/ความถูกใจ พฤติกรรมและความถี่ในการสั่งซื้อ ประเภทสินค้าหรือช่วงเวลาที่สั่งซื้อเป็นประจำ รวมไปถึงโปรโมชั่นที่มีผลต่อการตัดสินใจและทำให้เกิดการปิดการขายได้ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีระบบ CRM ที่ให้บริการในการเก็บข้อมูลเหล่านี้อย่างแม่นยำ

2.Differentiate our Customers – แบ่งกลุ่มลูกค้า

ขั้นตอนแยกความแตกต่าง หรือการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและจัดแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มตามคุณค่าที่กลุ่มลูกค้ามีต่อแบรนด์,ธุรกิจหรือองค์กร รวมไปถึงลำดับขั้นของลูกค้าหรือการตัดสินใจซื้อของลูกค้า 
หรือ Custom Funnel เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงจุด เช่น กลุ่มที่ซื้อสินค้าเป็นประจำมากกว่า 4 ครั้งต่อเดือน กลุ่มที่เป็นลูกค้าประจำในแต่ละ Campaign ที่เราโปรโมทหรือยิง Ads โฆษณา Facebook ออกไป เป็นต้น

 

3.Interact with Customers – การมีส่วนร่วมกับลูกค้า

การ Communication หลังจากเราสามารถแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มๆ ได้แล้วขั้นตอนต่อไปก็คือ การโต้ตอบกับลูกค้า ซึ่งก็คือการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อเรียนรู้ซึมซับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม และเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าจะมีกลยุทธ์ที่ต้องการสื่อสารถึงลูกค้าที่มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละ Stage หรือ Level ของลูกค้าที่อยู่ใน Customer Funnel เพื่อผลลัพท์และความแม่นยำที่มากยิ่งขึ้น

4.Customize Strategy – พัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์

ขั้นตอนการปรับปรุง หรือการปรับแต่งกลยุทธ์และนำเสนอสินค้าหรือบริการของธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณรวมไปถึงวิธีการนำเสนอที่มีความเหมาะสมเฉพาะตัวกับลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อให้เกิดความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือเพื่อเพิ่มความภักดีของลูกค้าที่มีต่อธุรกิจของเราหรือในตัวแบรนด์สินค้าหรือและบริการขององค์กร และเป็นลูกค้าขององค์กรเราต่อไปในระยะยาว รวมถึงไม่ตัดสินใจไปใช้สินค้าบริการของคู่แข่งหรือสินค้าทดแทน ซึ่งถ้าเราสามารถรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ได้นั้นเราจะมีสามารถมีรายได้เพิ่มอีก 2 ทางคือ การซื้อซ้ำหรือบริการส่วนเสริม และ การแนะนำบอกต่อ

สิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีในการทำการตลาดแบบอัตโนมัติ

แน่นอนว่าทุกการลงทุนหรือทำธุรกิจนั้นต้องมีต้นทุนและสิ่งที่จำเป็นต้องมีเสมอไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหน้าร้านหรือธุรกิจออนไลน์บางทีอาจจะทำควบคู่กันไปก็มี แต่ทางเราจะทำให้ธุรกิจออนไลน์ได้มีการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นถึงขั้นสูงสุด ด้วยการตลาดแบบอัตโนมัติหรือ Marketing automation โดยทางเราจะแนะนำ สิ่งที่ต้องมีในการทำการตลาดแบบอัตโนมัติ ได้แก่

1.Salepage

เซลเพจ (Salepage) หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือเว็บไซต์ที่ย่อขนาดมาเป็นเว็บไซต์หน้าเดียวเพื่อช่วยในการตัดสินใจและปิดการขายได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกทั้ง Salepage ในปัจจุบันยังมี Feature ที่หลากหลาย ที่พร้อมจะซัพพอร์ตในเรื่องการตลาดออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook pixel ที่ช่วยเก็บพฤติกรรมลูกค้าและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายต่างๆและระบบการแจ้งเตือนออเดอร์เข้าไลน์ที่ทันสมัยอย่าง Line notify ที่ใช้ Line Token ในการติดตั้ง

 

 

 2.Facebook Fanpage

แฟนเพจสิ่งที่ทุกๆธุรกิจต้องมีเพื่อลงรูป ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น หรือ รีวิวต่างๆ  อีกทั้งยังใช้ในการยิงAds โฆษณา บน Facebook อีกด้วย และเป็นแหล่ง Social media และ marketplace ชั้นดี ที่สามารถใช้ควบคู่ไปกับ Salepage และ facebook pixel อีกด้วย

3.Database หรือ ฐานข้อมูล

นับได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่ต้องมีมากๆ สำหรับ Database หรือ ฐานข้อมูล ซึ่งในทุกๆธุรกิจถ้าเราขาดในสิ่งนี้ไปไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหน้าร้าน หรือ ธุรกิจออนไลน์ จะทำให้ทำการตลาดได้ยากมากๆ ซึ่งถ้าเราไม่มีฐานข้อมูล เราจะไม่มีทางทราบได้เลยว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประเภทไหน อายุเท่าไหร่ มีพฤติกรรมเช่นไรในการเลือกซื้อสินค้าหรือใช้บริการซึ่งตรงส่วนนี้เป้นส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุดไม่ว่าจะเป็นการ Re-Target Custom Audience หรือ lookalike จากการที่เราเก็บ Pixel ต่างๆ และนำมาเป็นฐานข้อมูล หรือ Database นั่นเอง

4.CRM (Customer relationship management)หรือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

พูดถึงการสร้างความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจแล้วหลายคนคงนึกถึงบริการหลังการขาย การเอาใจใส่ลูกค้า ในขณะเวลานั้น แต่สำหรับการตลาดแบบอัตโนมัติแล้วนั้น เราจะทำอย่างไร แน่นอนว่าเรามีทางออกให้สำหรับคุณ CRM คือการที่เรามาวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าต่างๆว่าอยู่ในระดับไหน อายุเท่าไหร่ มีพฤติกรรมอย่างไร และเก็บฐานข้อมูลนั้นเพื่อมาบรอดแคสต์ หรือ ยิงAds เพื่อบอกโปรโมชั่น หรือ Campain ที่เรามีนั่นเอง

 

 

 

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ zxcv :: วันที่ลงประกาศ 2020-11-13 23:23:38 IP : 119.76.31.150


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.