Astrostory: ดาวทิพย์ในภาพยนตร์ “สงครามมหาเทพประจัญบาน” เนื่องจากในวันสงกรานต์ที่หยุดยาวทำให้ผู้เขียนได้มีเวลาพักผ่อนหลายวัน เลยเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เขียนเองจะได้อยู่กับครอบครัวอย่างเต็มที่ หลังจากที่ทุ่มเทกำลังให้กับการงานจนเหน็ดเหนื่อยและความวุ่นวายทางการเมืองที่ปวดสมอง จึงตัดสินใจเดินทางร่วมกับครอบครัวไปที่โรงภาพยนตร์ที่อยู่ใกล้บ้าน เมื่อมาถึงบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ ผู้เขียนเองพบว่ามีหนังที่เข้าใหม่ในช่วงเทศกาลและกำลังจะเข้าฉายหลายเรื่องที่หน้าสนใจทีเดียว แต่แล้วสายตาก็ต้องหยุดกับแผ่นป้ายภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเข้าที่ชื่อ “สงครามมหาเทพประจัญบาน (Clash of the Titan)” ผู้เขียนจะขอบรรยายเนื้อเรื่องไว้คร่าวๆก่อนเนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเข้าฉายอยู่ในช่วงนี้ (เมษายน 2553) “เพอเซอุส”เด็กน้อยครึ่งเทพผู้เผชิญชะตากรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยง จากไฟสงครามของมนุษย์ผู้คิดต่อกรกับทวยเทพผู้หยิ่งใหญ่ เหตุเกิดจากนักรบผู้หนึ่งคิดอาจหาญที่จะเอาชนะเหล่ามหาเทพ ได้ยกพลกรีฑาทพใหญ่ไปปิดล้อมเทือกเขาโอลิมปัสอันเป็นที่พักพิงของ“มหาเทพเซอุส” เซอุสเองจึงคิดที่จะสั่งสอนนักรบผู้นี้ให้รู้สำนึกถึงอำนาจที่มิอาจต่อกร โดยการแปลงร่างเป็นนักรบผู้อาจหาญเข้าไปในห้องนอนแล้วเสพสมกับภรรยานักรบผู้นั้น ในเวลาเดียวกันผู้เป็นสามีก็ได้กลับมาพบเห็น จึงโกรธแค้นเทพเซอุสและสาปแช่งภรรยาของตนว่าคบชู้สู่ชาย เหตุการณ์บานปลายไปกันใหญ่เมื่อนักรบออกคำสั่งให้ประหารภรรยาพร้อมบุตรในท้อง โดยการจับใส่โรงศพแล้วนำไปถ่วงน้ำให้ตายทั้งเป็น แต่แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นเมื่อเด็กน้อยครึ่งเทพรอดชีวิตแล้วถูกชาวประมงนำไปเลี้ยงดู หลายปีต่อมา เพอเซอุสเติบใหญ่เป็นเด็กหนุ่มที่แข็งแรง ชีวิตก็ต้องพบการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งเมื่อในบริเวณที่ออกหาปลา มีกลุ่มทหารได้ไปทำลายรูปปั้นมหาเทพเซอุสที่เชิงเขา ทำให้ “เทพฮาเดส” ปรากฎกายขึ้นพร้อมกับส่งลูกสมุนออกมาจัดการเหล่าทหาร จนทำให้ครอบครัวชาวประมงโดนลูกหลงจากพลังของเทพฮาเดส เพอเซอุสไม่อาจช่วยเหลือครอบครัวชาวประมงไว้ได้ จึงเครียดเค้นเทพฮาเดสเป็นการส่วนตัว จากจุดเริ่มต้นของการสูญเสีย เพอเซอุสเด็กหนุ่มผู้เป็นมนุษย์ครึ่งเทพ ยินยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะแก้แค้นให้กับครอบครัวชาวประมง “ไม่ใช่ในฐานะเทพแต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง...เท่านั้น” เนื้อเรื่องที่ผู้เขียนได้นำเสนอมา มีดาวทิพย์ที่สำคัญอยู่ 2 ดวง คือ ดาวเซอุสและดาวฮาเดส ในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอให้แตกต่างกันอย่างมาก กล่าวคือ เซอุสปกครองสวรรค์ และฮาเดสปกครองนรก ประวัติของ เทพเซอุส เทพเซอุสเป็นลูกของโครโนสและแร โคโนสไม่รู้ว่ามีลูกคนนี้อยู่ แรคลอดเซอุสและซ่อนไว้ในถ้ำลึกลับแห่งหนึ่ง เซอุสถูกเลี้ยงดูโดยแม่นมไกอาซึ่งเลี้ยงด้วยนมแพะ เทพเซอุสเติบโตมาด้วยความสงบ เมื่อเซอุสมาสัมผัสกับโลกภายนอก เขามีความรู้สึกของความชอบธรรม สิทธิที่ได้รับ ทำให้เขามีความรู้สึกที่ต้องต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมทั้งหลาย การกดขี่ ความเป็นหนุ่มที่ไม่ยอมใคร เซอุสได้ก่อสงครามกับผู้ปกครองและชาวไททัน ซึ่งปกครองด้วยความโหดร้าย ความเกลียด และมีแต่ทำลาย เขาสัญญากับคนของเขาว่าพวกเขาต้องอยู่ด้วยกันหลังจากโค่นล้มผู้ปกครองคนปัจจุบัน สงครามได้ยืดเยื้ออยู่ 10 ปี ในที่สุดเทพเซอุสก็ฆ่าโครโนสพ่อของเขาได้ ประชาชนได้ออกเสียงให้เขาเป็นเจ้าแห่งเทพทั้งหลาย ฟิลลิป เมทแมนเขียนไว้ว่า “ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองเขาโอลิมปัส ในฐานะที่เป็นเจ้าแห่งแสงสว่างและเป็นหนุ่มตลอดกาล เทพเซอุสได้มีชัยชนะต่อความมืดมิดที่มีแต่ความอึดอัด ความโหด***ม กดขี่ เพราะเหตุนี้ เทพเซอุสเป็นผู้นำโลกมาอยู่ได้ดี พ้นจากความชั่ว พ้นจากการฆ่าฟัน” เทพเซอุสเป็นเทพแห่งการมีผัวเดียวเมียเดียว แต่ก็มีโอกาสที่เทพเซอุสได้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อมาสมสู่กับหญิงชาวโลกหรือมาเพื่อหาแม่ให้ลูกของเขา เขาทำอย่างนั้นเพราะต้องการมีทายาท เทพเซอุสต้องการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เขามีเป้าหมายมีพลังและมีความคิดที่ดีทำให้เขาทำงานเสร็จในที่สุด สายฟ้าและไฟมีไว้ทำลายความคิดใหม่! ที่ไม่เข้าท่า เขามีใจกว้างพอสำหรับความคิดใหม่ๆ และยอมรับอย่างระมัดระวัง ถ้าเราเปรียบเทียบอิทธิพลของดาวทิพย์ดวงอื่นๆ ดาวทิพย์เซอุสจะให้อิทธิพลในทาง : เริ่มต้น, การกระตุ้น, การระเบิดออกของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ, ซึ่งมีเป้าหมายที่แน่นอน ไฟหรือการยิงสามารถใช้ได้ในกรณีนี้ ความสำคัญของดาวทิพย์เซอุสมักจะนำไปสู่ความสำเร็จเสมอ สัญลักษณ์ของดาวทิพย์เซอุส เป็นลูกศรตั้งอยู่บนกากบาท ความทุกข์ย่อมหายไปเมื่อเราทำให้หายและเราจะได้เห็นความจริงที่อยู่เหนือขึ้นไป ประวัติของ เทพฮาเดส ดาวทิพย์ฮาเดสเป็นตัวทำให้เสื่อมลง เช่นความวิตกกังวล เศร้าโศก เปล่าเปลี่ยว และผุพัง ในเทพนิยาย ฮาเดสเป็นลูกของโครโรสและแร เป็นพี่ชายของเซอุส โพไซดอน เฮรา ดีมีเตอร์ และเฮสเตียเป็นสามีของเพอเซพโฟน ฮาเดสเจ้าแห่งนรกและความตาย ท่านวิทท์กล่าวไว้ว่า “อิทธิพลของดาวทิพย์นี้ไม่ค่อยดีต่อมนุษย์ เหมือนพระจันทร์ข้างแรม (black moon) มีมนดำที่ปราศจากแสงจันทร์ “ สัญลักษณ์ของฮาเดส ประกอบด้วยเส้นกากบาทอยู่ในพระจันทร์ข้างแรม เป็นภาพที่แสดงถึงวิญญาณของฮาเดส ซึ่งถูกทดสอบโดยเพอเซพโฟน ในฐานะที่เป็นเทพ ฮาเดสให้เพอเซพโฟนกินผลไม้จากต้นทับทิมเพื่อให้หล่อนตกอยู่ในอำนาจของฮาเดส และมนต์มีผลกับฮาเดสอย่างไร? ในเวลาแต่งงานหล่อนได้จุดเทียนเพื่อที่จะได้เห็นคนรัก(อีรอส)ในเวลาหลับ หล่อนอ้อนวอนขอความมืด อีรอสสดุ้งตื่นเพราะน้ำตาเทียนแล้วหนีไป มนต์นั้นยังคงตามหาอีรอสอยู่ ในขณะเดียวกัน เพอเซพโฟนได้พบ อโพรไดท์และขอคำแนะนำจากอโพรไดท์ แต่อโพรไดท์อิจฉาความสวยของเพอเซพโฟน เธอลังเลอยู่พักหนึ่ง แล้วอโพรไดท์ก็เห็นทางที่จะเอาชนะมนต์นั้นได้และส่งเธอไปยังเทพฮาเดส มนต์ถูกเก็บไว้ในกล่องมิดชิดที่มีความหลับบรรจุอยู่ และเพอเซพโฟนคงอดไม่ได้ที่จะเปิดดู เมื่อเปิดหล่อนจะหลับ ภายหลังมนต์ถูกปลุกโดยอีรอสและได้รับอนุญาตให้กลับไปภูเขาโอลิมปัสพร้อมกับเทพองค์อื่นๆ และอีรอส ทอมเซนเขียนไว้ว่า “วิญญาณที่บริสุทธิ์จะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมและไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป และจะได้ไปอยู่บนชั้นที่เหนือขึ้นไป ไปอยู่กับฮาเดส” เราเห็นได้ว่าแม้แต่เทพฮาเดสก็มีการพัฒนา ผู้คนในสมัยปิทากอรัสเชื่อว่า “วิญญาณจะตื่นขึ้นเมื่อร่างกายหลับ” ความฝันมักแก้ปัญหาที่เราคิดไม่ออกเสมอ ในเรื่องนี้ฮาเดสจะมีส่วนสำคัญ เมื่อเราเศร้าโศกหรือตกต่ำหรือบางครั้งฝันร้าย เรามักจะได้รู้จักความรู้สึกกลัวที่ต้องมาก่อนเสมอ อนึ่ง หากจะกล่าวถึงความหมายดาวทิพย์ทั้ง 2 ในโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนนั้น คงไม่อาจแบ่งแยกเป็น ขาวดำอย่างชัดเจนดังที่กล่าวไว้ในประวัติของเทพทั้งสองได้ เนื่องจากโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนตีความจากอิทธิพลดวงดาวที่ส่งผลมายังโลก ไม่ได้อ้างอิงหรือนำอิทธิพลมาจากตำนานเทพพระเจ้าของกรีกโบราณ ดวงดาวบนฟ้าไม่มีดีและร้าย เช่น Zeus (เซอุส) ด้านบวก คือ การอำนวยการ การประดิษฐ์ ภาวะผู้นำ ทำให้เป็นจริง บรรลุเป้าหมาย เป้าหมายระยะยาว พลังงาน ผลผลิต เป็นต้น ด้านลบ คือ ความคาดหวังที่เกินจริง กิจกรรมที่มีแบบแผนสมบูรณ์เกินไป เอาแต่ใจตน เอง อยากเป็นนายหรืออยากเจราอย่างนาย เป็นต้น Hades (ฮาเดส) ด้านบวก คือ ความเก่าแก่ ของโบราณ ความขลัง ประสบการณ์ในการแก้ปัญหา ศาสตร์ลึกลับ การซ่อมแซมของเก่าๆ เป็นต้น ด้านลบ คือ ความเปล่าเปลี่ยว ความขาดแคลน ความสกปรก ความยากจน ความไม่ราบรื่น ขยะมูลฝอย เป็นต้น บทสรุปของสงครามมหาเทพจะเป็นเช่นไร? มนุษย์จะสามารถอาจหาญสู้มหาเทพได้หรือไม่? ผู้เขียนเองใคร่อยากเสนอให้ท่านผู้อ่านได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางการศึกษาและการตีความให้กว้างขวางมากขึ้น http://uranian.igetweb.com/index.php?mo=17