ไม่เข้าใจคำถามครับ เลยตอบไม่ถูก ลองถามยาวๆ บอกที่มาที่ไปได้มั้ยครับ

พีชหยิลมาจากปะโนคนี้ค่า  คุณพี่พลัลล้าส ข๋า.. ..อ่านแล้ง.ไม่เข้าใจน่าค้า 

ภาวะฟองสบู่ในราคาสินทรัพย์   /  ราคาสินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในปี 2552 จากสภาพคล่องในระบบที่อยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นมานั้น ได้ปรับสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็น และอาจจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฟองสบู่แตกหรือไม่

(แอบเม้น   แถวนี้ อากาสเปลี่ยน เปลี๊ยนไป๋ บ้อยบ่อย  มาคุ มาคุ  ซีรัส จังเรยอ่า    แบบว่า น่ากัว จังค้า  จะโดนเชือดนิ่มๆ ไหมน้า)

เออ..ขำๆ แฮะ

เอาตลกๆ บ้าง ก็ดีนะ

ผมเดาเอาว่า คุณพีชถามในแง่โหราศาสตร์ใช่มั้ยครับ

ปี 2552 มีปรากฏการณ์ฟ้าสำคัญ คือ การกุมกันของพฤหัสและเนปจูน 3 ครั้ง และการสลับเรือนของดาวเกษตรในราศีกุมภ์และมีน ได้แก่ มฤตยู พฤหัส และเนปจูน ผลปรากฏว่า ผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะบุคคลแห่งปีของ Time คือ เบน เบอนังเก้ ตัดสินใจใช้นโยบาย Quantitative Easing คือปั๊มเงินดอลลาร์เข้าระบบจนท่วมระบบเศรษฐกิจโลก เงินตราที่เข้าระบบมากขนาดนั้นแต่ยังไม่มีภาคเศรษฐกิจจริงรองรับ จึงไหลไปในตลาดสินทรัพย์ต่างๆ ได้แก่ ตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้น ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (โดยเฉพาะทองคำและเงิน) ตลาดอสังหาฯ ทำให้ราคาของสินทรัพย์เหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นไปตามความหมายของพฤหัสเนปจูน คือเศรษฐกิจขยายตัวแบบไม่จริง

สิ่งที่เกิดในปี "52 เป็นบทเรียนทางโหราศาสร์ที่ดี เพราะพฤหัส-เนปจูนนั้น แปลความหมายได้หลายอย่าง ทั้ง เงินที่หามาได้โดยง่าย หรือ การขาดแคลนเงิน แต่เมื่อผู้กำหนดนโยบายระดับโลก อย่าง เบน เบอร์นังเก้ (มีโครงสร้าง Grand Cross ของ Su = Mo = Ju = Ap) ตัดสินใจพิมพ์เงินมหาศาลเข้าระบบ ความหมายของพฤหัส-เนปจูนจึงกลายเป็น เงินที่หามาได้โดยง่าย

ปี 2553 แม้ว่าอิทธิพล พฤหัสกุมเนปจูน จะยังคงมีผลบ้าง เนื่องจากกุมกันในวันปีใหม่โหร (22 ธ.ค. 52) พอดี แต่ปัจจัยฟ้าอื่นเริ่มส่งอิทธิพลแรงขึ้น เริ่มตั้งแต่ เนปจูนตั้งฉากกับแอดเมตอส ในเดือนมกราคม "53, เสาร์ฉากพลูโต ในเดือน ก.พ. และมีอีกหลายโครงสร้าง จนไป Climax ที่กลางปีเมื่อเกิดโครงสร้าง Grand Cross ที่ราศีทวารของโลก แม้ว่าฟ้าจะส่งสัญญาณมาอย่างนี้ แต่การถอดความเป็นเหตุการณ์จริงไม่ง่ายนัก เพราะปัจจัยแต่ละปัจจัยต่างก็มีหลายความหมาย การตัดสินใจของผู้กำหนดนโยบายก็มีผลสำคัญมากที่ทำให้ผลลัพธ์ต่างออกไป (แต่ภายใต้ปรัชญาดาวเดียวกัน) อย่างไรก็ตาม พอจะสรุปได้ว่า เศรษฐกิจโลกน่าจะไปสู่ภาวะตึงเครียดอย่างมากในช่วงกลางปีหน้า

คราวหน้ากลับมาสู่คำถามว่า ภาวะฟองสบู่ของราคาสินทรัพย์ อาจเกิดภาวะฟองสบู่แตกได้หรือไม่นั้น จากปัจจัยฟ้า เราพอจะคาดการณ์ได้ว่า เป็นไปได้สูง แต่คำถามต่อมาคือ แล้วฟองสบู่ของสินทรัพย์ใดจะแตกออก อันนี้ต้องใช้ความรู้เศรษฐศาสตร์และการลงทุนมาประกอบครับ

สำหรับทองคำนั้น ผมได้ลองศึกษาการนำโหราศาสตร์มาพยากรณ์ทองคำมาซักพักใหญ่แล้ว ปัญหาที่พบคือ สไตล์การลงทุนของผมคือ การลงทุนระยะกลางถึงยาว แต่ปัจจัยโหราศาสตร์ที่นำมาใช้พยากรณ์ทองคำนั้นเป็นปัจจัยที่โคจรเร็ว ทำให้ช่วงเวลาพยากรณ์กับสไตล์การลงทุนไม่สอดคล้องกัน คิดว่า คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าผมจะหาปัจจัยฟ้าที่พยากรณ์วงรอบใหญ่ของทองคำได้ดี ตอนนี้การลงทุนในทองคำของผมใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจมากกว่าโหราศาสตร์ครับ

ถ้าถามว่า ฟองสบู่ทองคำจะแตกมั้ย? ก็ต้องถามก่อนว่า ราคาทองคำตอนนี้เป็นฟองสบู่แล้วหรือยัง คำตอบในทางเศรษฐศาสตร์การเงินยังไม่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับว่า ใครมองมุมไหน แต่ละคนต่างก็มีทฤษฎีมาอธิบายแนวคิดตนเองมากมาย ผมเองอยู่ในฝั่งที่เชื่อว่า ทองคำยังขึ้นได้อีกสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงยาว ถ้าจะให้อธิบายเหตุผลคงอีกยาว สรุปสั้นๆคือ ผมเชื่อว่า การปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจโลกกำลังดำเนินการไปอย่างเข้มข้น (พลูโตทำงานอยู่ครับ) เงินดอลลาร์สหรัฐฯไม่น่าจะรักษาฐานะเงินสกุลหลักสกุลเดียวของโลกได้ ในขณะที่โลกยังคิดเงินสกุลใหม่ที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศแทนดอลลาร์ไม่ได้ ทองคำยังเป็นสินทรัพย์สำคัญในการรักษาความมั่งคั่งของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน ส่วนคำอธิบายยาวๆขอติดไว้เล่าในโอกาสหน้าก็แล้วกัน

กลยุทธ์การลงทุนในทองคำที่ผมแนะนำสำหรับคนทั่วไป คือ ลงทุนในทองคำจริง (ไม่ใช่ฟิวเจอร์) ประมาณ 10-15% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด

เขียนไปเขียนมา รู้สึกว่า ไม่ได้เขียนเรื่องโหราศาสตร์สักเท่าไหร่ และไม่รู้ว่า ตอบตรงคำถามคุณพีชหรือเปล่า เลยขอจบตรงนี้ดีกว่า :)  

ขอบคุณ พี่ พัลล้าส ที่น่ารักค่ะ

อ่านไปมาหลายรอบเหมือนกัน เพราะไม่ค่อยมีความรู้เรื่อง การลงทุน ค่า  เหวอไปเลยฮ่า   ฟองสบู่ แปลว่าอะไร ค๊ะ  เหมือนคุ้นๆว่า ฟองสบู่ใช้กับสภาวะเศรษฐกิจ  ที่แปลว่า มูลค่าของสินทรัยพ์ในคลังเงิน เกินมูลค่าแท้จริง และทำให้กระแสเงินสดไม่ต่อเนื่อง  เลยเศรษฐกิจพัง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช่ไหมค๊ะ    แล้วพอ คำว่า ฟองสบู่ อันนี้มาใช้กับทองคำ  ก็เลย แป่วค่า   ไม่รู้แปลว่า มูลค่าทองคำถูกปั่นให้เกินมูลค่าแม้จริงหรือไงค๊ะ แปลแบบนี้ถูกไหมค้า    ส่วนปัจจัยทองคำคือ ศูนย์รังสีดาวลาภการเงิน+ดาวรักหลง   หรือควรจะดาวสีทอง +ดาวอัดก้อนค๊า  หรือคือ ดาวน้ำมัน+ดาวพลังงาน หรือ ฯลฯ ค๊า    

ความหมายของ ฟองสบู่ ที่ใช้ทั่วไป ก็เหมือนที่คุณพีช บอกล่ะครับว่า ภาวะที่ราคาสินทรัพย์แพงกว่ามูลค่าที่แท้จริง

ส่วนกระแสเงินสดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยังไงทองคำก็เป็นสินทรัพย์ที่ไม่สร้างกระแสเงินสดระหว่างที่เราถือครองคล้ายๆกับที่ดินเปล่าที่ไม่ได้พัฒนาอะไรครับ ทองคำจะสร้างกระแสเงินสดรับเมื่อเราขายออกไปครับ การลงทุนในทองคำจึงคล้ายกับการเลี้ยงวัวเนื้อที่เลี้ยงเพื่อขายเอาเงิน ต่างจากการลงทุนบางประเภทที่คล้ายเลี้ยงโคนมคือเลี้ยงเพื่อรีดนมไปขาย แต่ตัวโคยังอยู่

ส่วนปัจจุบัน ทองคำเกิดภาวะฟองสบู่หรือเปล่า ผมตอบไปแล้วว่า ผมคิดว่า ทองคำยังแพงกว่านี้ได้อีก โดยนัยก็คือ ราคายังไม่แพงกว่ามูลค่าที่แท้จริงในปัจจุบัน อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ

ส่วนปัจจัยทางโหราศาสตร์ของทองคำนั้น โหรยูเรเนียนส่วนใหญ่ก็ใช้ ศุกร์/พฤหัส ครับ แต่โหรสาขาอื่นก็มีสูตรต่างๆกันไป

ขอบคุณ พี่พัลล้าส ค่า    เลยได้ความรู้อีกแบบนึงค่า