อริญชัย ภวรัญชนากุล

อริญชัย ภวรัญชนากุล
เรียน ท่านอาจารย์ทางโหราศาสตร์ที่เคารพ ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษท่านที่ต้องสละเวลาอันมีค่ามาอ่านข้อเขียนของครูตัวเล็กๆคนหนึ่ง ซึ่งท่านไม่รู้จัก มาก่อน แต่ต้องขอยกย่องท่านยอมสละเวลาเพื่อตอบข้อข้องใจอันเป็นวิทยาทานอันสูงส่งขอชื่นชมท่านมา ณ ที่นี้ ดิฉันได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต ด้วยความเกื้อกูลของบิดามารดาของศิษย์ ขอยอมรับอย่าง ไม่อายว่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต ประเทศที่ไปเยือน คือ ประเทศอังกฤษ เมื่อ วันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ สิ่งที่พบ และประทับใจมากเป็นที่สุดของชีวิตที่เกิดมา คือ ได้พบคนจริงที่สามารถพิสูจน์ ความลี้ลับในเรื่องของพลังจิตให้ เห็นเป็นรูปธรรมที่สัมผัสได้ ต้องขอขอบพระคุณ คุณเอก ( ขอสงวนนามสกุล ) ที่ชักนำให้ไปพบกับท่านผู้นี้ ซึ่งมี ชื่อเสียงเรียงนามว่า ดร. อริญชัย ภวรัญชนากุล คุณเอกเรียกท่านว่าท่านอาจารย์ทุกคำ สิ่งที่ดิฉันได้พบเห็น คือ ดร. อริญชัย ครั้งแรกที่พบมองภายนอกนึกว่าเป็นพวกคลั่งลัทธิไสยศาสตร์ ดิฉันนึกในใจว่า “ ขออธิษฐานว่าขออย่าให้เป็นคนไทยเลยอายต่างชาติเขา ” ซึ่งภายหลังจบการอธิษฐาน ดร. อริญชัย หันมาจ้องมองหน้าดิฉันแล้วยิ้มให้ จากนั้นเดินมาทักดิฉันทันทีท่านกล่าวว่า “ ขอโทษนะครับที่ทำให้คำอธิษฐาน ไม่เป็นความจริง ผมเป็นคนไทยเหมือนกัน ” ดิฉันขนลุกไปทั้งตัวท่านเดินมาเจาะจงพูดกับดิฉันอย่างนี้จริงๆ เกิด มาอายุ ๔๗ ปี แล้ว ไม่เคยเลยในชีวิตจะเจอคนอ่านใจได้จริงเช่นนี้ ต่อจากนั้นดิฉันขออนุญาตเข้ากลุ่มวิทยาศาสตร์ ทางจิต ซึ่งมีจำนวนประมาณ ๓๐ – ๓๕ คน มีชาวต่างชาติร่วมอยู่ด้วยประมาณ ๒๐ คน ซึ่งไม่ควรเรียกว่ามาเรียน รู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพราะตลอดเวลาทุกคนถามคำถาม ดร.อริญชัย เพียงคนเดียว สิ่งที่ประทับใจดิฉันมาก ที่สุดในการเข้าชมครั้งนี้ คือ ดร.อริญชัย อธิบายความข้องใจในปัญหาศาสนาพุทธได้อย่างมีเหตุผลและไม่สามารถ ที่จะโต้แย้งท่านได้เลยทุกคน หลังจากฟังคำอธิบายข้อข้องใจในเรื่องศาสนาพุทธแล้ว ทุกคนขอให้ท่านแสดงพลัง อันมีผลมาจากการฝึกฝนปฏิบัติทางสมาธิมานานถึง ๓๘ ปี โดยท่านไม่รับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ท่านกล่าวว่าถ้าท่านเป็นนักบวชการแสดงอย่างนี้พระพุทธองค์ตรัสห้ามไว้ แต่เนื่องจากท่านยังไม่ได้บวชจึง แสดงอุตริได้ ท่านขอแสดงผลแห่งการฝึกสมาธิแบ่งออกเป็น ช่วยเหลือ เกื้อกูลจิต พิจารณาอนาคต ปลดทิฐิ สื่อเจ้า กรรมนายเวร เป็นเรื่องแปลกแต่จริง คือ การช่วยเหลือท่านใช้มือลูบไปตามร่างกายฝรั่งคนหนึ่ง เมื่อผ่านมาถึงกลางหลังท่านหยุดมือแล้วบอกว่าจุดดังกล่าวนี้เป็นจุดชัก ในวัยเด็กฝรั่งถูกเพื่อนใช้ไม้แหลมพุงกระแทกกลางหลัง โดน จุดสำคัญของร่างกายทำให้มีอาการชักเมื่อมีใครตบหลังแรงๆ ฝรั่งงงมากยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ดร.อริญชัย จึงตบหลังฝรั่งเกิดอาการชักอย่างรุนแรง หลายคนเข้ามาช่วยจับไว้ ดร.อริญชัยใช้นิ้วชี้จี้ตรงจุดดังกล่าวเพ่งอยู่ไม่ถึง ๒๐ วินาที ฝรั่งหยุดชักทันที ทุกคนสงสัยกันหมดฝรั่งที่ชักก็สงสัยว่าทำไมแค่จี้นิ้วตามตำแหน่งที่บอกไว้จึงหยุดชักได้ ดร.อริญชัย บอกว่าฝรั่งคนนี้หายชักแล้วไม่ว่าใครตบหลังแรงก็จะไม่ชักอีก ฝรั่งให้คนอื่นลองตบหลังแรงๆก็ไม่ชัก ดร.อริญชัย บอกว่าฝรั่งหมดกรรมจึงได้มาเจอกัน ขอถามว่า “ วิชานี้เรียกว่าวิชาอะไร ทำไมจึงตรวจพบและอธิบาย ได้ถูกต้อง และ ยังรักษาให้หายได้ ” อย่างนี้เรียกวิชามารหรือเปล่า ในเรื่องการเกื้อกูลจิตท่านหันไปหาแหม่มผมทอง ถามว่าอนุญาตให้ท่านแก้ไขจิตใจให้หรือไม่ แหม่มคิดอยู่ สักครู่คงอยากลองจึงอนุญาต ดร.อริญชัยกล่าวว่าแหม่มคิดวกวนอยู่กับเรื่อง Sex ที่ถูกข่มขืนมาตั้งแต่เด็กว่า ไม่รู้ เป็นเรื่องชอบหรือเป็นเรื่องที่น่ากลัว ท่านขอสอนว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ การถูกข่มขืนเป็นเรื่องของจิตใจไม่ยอมรับ แต่การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ธรรมชาติสร้างมาให้ จะชอบหรือไม่ชอบแหม่มก็มี Sex มาตลอด หลังจากมีก็คิด ชั่งว่าชอบหรือกลัว ท่านขอบอกว่าแหม่มชอบ Sex แน่นอนไม่ต้องทบทวน แหม่มท่านนั้นร้องไห้โฮเลยบ่นแต่ว่า รู้ได้อย่างไร พอหยุดร้องไห้ยอมรับว่าชอบ Sex มากจริง ต่อไปนี้จะไม่คิดแล้ว “วิชานี้เรียกว่าวิชาอะไร ทำไมรู้ใน ใจเขา พูดถูกใจดำถึงกับร้องไห้ ” อย่างนี้เรียกวิชาเดาถูกหรือไม่ เรื่องพิจารณาอนาคต ดร.อริญชัย วางมือบนมือฝรั่งผิวดำที่อยู่ด้านขวาท่าน บอกว่าการจะเข้าร่วมค้าขายของ ผิดกฎหมายอย่าทำเป็นอันขาด เพราะฝรั่งผิวดำจะติดคุกถึง ๑๕ ปี ตัวเองก็ฝันร้ายมาตลอด เป็นลางสังหรณ์ที่ชัด ว่าไม่ควรทำ ฝรั่งผิวดำตกใจเหงื่อไหลออกมาทันที ร้องไห้แล้วบอกว่าจะไม่ทำแน่นอน ขอบคุณที่เตือนสติเขา ต่อมา ดร.อริญชัย หันมาทางดิฉันถามว่าดิฉันเป็นครูที่มีทิฐิมากหรือไม่ ดิฉันตอบว่าไม่มีแน่นอน ย้อนถามไปว่า รู้ได้อย่างไรว่าดิฉันเป็นครู ท่านตอบว่ารู้จากทิฐิที่ติดตัวมา ดิฉันเถียงว่าไม่มีทิฐิแม้แต่น้อย ท่านเล่าเรื่องดิฉันว่ามี ทิฐิเกิดขึ้นมาตั้งแต่เล็ก เพราะต้องการเอาชนะคุณพ่อที่พยายามตักเตือน มองไปว่าคุณพ่อหมิ่นน้ำใจ จึงไม่ชอบ ผู้ชายในโลกนี้จึงอยู่เป็นโสดตลอดมา ดิฉันตกใจมากทำไมผู้ชายคนนี้จึงรู้เรื่องดิฉันกับคุณพ่อทั้งหมด ไม่รู้ตัวว่า น้ำตามันไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ “ วิชานี้เรียกว่าวิชาอะไร ทำไมจึงเข้าไปรู้เรื่องในอดีตคนอื่นได้”อย่างนี้เรียกว่าวิชา เสียมารยาทใช่หรือไม่ เรื่องสื่อเจ้ากรรมนายเวรเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะว่าน่ากลัวก็น่ากลัว จะว่าไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อแล้ว ดร.อริญชัย ท่านหลับตาลงประมาณ ๓๐ วินาที ท่านบอกว่าในที่นี้มีบางท่านฆ่าแมลงสาปอย่างโหดร้ายมาก โดยใช้เข็มที่มี ปลายแหลมปักแมลงสาปไว้ จากนั้นจึงใช้ใบมีดโกนหนวด ค่อยๆแร่เนื้อที่ละส่วนของแมลงสาปพยายามให้บางมากที่สุด พอแมลงสาปตายดีใจยิ้มอย่างมีความสุขทุกครั้ง แล้วจึงเหยี่ยวรดศพแมลงสาปที่ฆ่าไว้ ทำอย่างนี้ติดต่อมาประมาณ ๒๐ ปี ขณะนี้เจ้ากรรมนายเวรตามไปทุกหนแห่ง เกิดปัญหากับอวัยวะเพศของเขา คือ หนังปลาย อวัยวะเพศจะลอกออกบางๆ ฉี่ทุกครั้งจะเจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดแทบทนไม่ได้ พอ ดร.อริญชัย พูดจบมี ผู้ชายหน้าตาดีมากร้องไห้ออกมาดังมาก หน้าตาบอกชัดว่าเป็นลูกครึ่ง บ่นว่ามันเจ็บปวดจริงๆเจ็บปวดมากขณะ นี้ก็ยังเจ็บอยู่เป็นไปตามที่ ดร.อริญชัย บอกทุกประการ เขามาที่นี่หวังว่าจะมีคนช่วยเขาได้ ดร. อริญชัย บอกว่า ถ้าช่วยได้ก็เป็นเพียงหนังยังลอกอยู่แต่จะหายเจ็บปวด แต่ต้องทำตามที่ท่านบอกทุกอย่างด้วยความจริงใจ เขาว่า ให้ทำอะไรทำได้ทุกอย่าง ดร.อริญชัยให้เขานั่งคุกเข่าแล้วเงยหน้าสู่ด้านบน กล่าวนำว่าผมจะไม่ฆ่าสัตว์อื่นใด อีกต่อไป ผมรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่สร้างไว้กับผู้อื่นแล้ว ขอแมลงทั้งหลายโปรดเมตตายกโทษให้กับคนเลวที่มี จิตใจโหดร้ายอย่างผมด้วย หากผมมีภรรยาขอเชิญท่านมาเป็นลูกผมผมจะเลี้ยงดูอย่างดี กล่าวจบเขาหันมามอง ดร.อริญชัย เขาบอกว่าความเจ็บปวดมันหายแล้ว หายจริงๆ “ วิชานี้เรียกว่าวิชาอะไร ความเจ็บปวดมันหายได้ เพียงกล่าวตามคนๆหนึ่งเท่านั้นหรือ ” ทุกๆคนที่มาร่วมกันดิฉันยืนยันว่าไม่มีการเตรียมกันมาก่อนแน่นอน กรุณาอธิบายให้ทราบด้วย เพราะเคยสอนนักเรียนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะเป็นจริง ตอนนี้ไม่รู้จะพูดว่าอย่าง ไรดี เพราะไปพบด้วยตาของตนเอง ถามตัวเองเสมอทุกวันนี้ คนไทยคนนี้เก่งมากทำไมไม่ประกาศตัว นางสาว อรนิตย์ อมรวรเดชกุล amorndedkul@hotmail.com
ผู้ตั้งกระทู้ อรนิตย์ อมรวรเดชกุล :: วันที่ลงประกาศ 2007-09-24 18:07:37 IP : 124.121.111.140

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (773181)

กระทู้นี้คุ้นๆว่าจะได้ไป post ที่เว็บไซต์คุณโรจน์เมื่อวันก่อน มีการแสดงความเห็นไปพอสมควรเหมือนกัน และก็เห็นปรากฏอยู่ในเว็บไซต์อื่นๆด้วย มีเนื้อหาคล้ายๆกัน แต่ชื่อผู้ตั้งกระทู้ต่างกันออกไป เช่น คุณมารศรี, คุณสรเทพ ฯลฯ ทำให้รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ดี ไหนๆคุณอรนิตย์ได้ post ในเว็บไซต์นี้แล้ว ผมก็ขอแสดงความเห็นของผมดู

เรื่องราวที่คุณเล่ามา จริงๆแล้วไม่ถือว่าเป็นโหราศาสตร์ครับ น่าจะจัดอยู่ในพยากรณ์ศาสตร์ประเภทของพลังจิตมากกว่า ที่บอกว่าไม่เป็นโหราศาสตร์เพราะไม่ได้ใช้ปัจจัยบนท้องฟ้าและเวลามาเป็นพื้นฐานในการพยากรณ์ เรื่องนี้อาจารย์วิโรจน์เคยอธิบายไว้ในกระทู้หนึ่งในเว็บไซต์แห่งนี้แล้ว ส่วนตัวผมเองไม่มีพลังจิตที่จะไปรับทราบเรื่องราวของคนอื่น และไม่มีความสนใจที่จะพัฒนาพลังจิตเช่นนี้ จึงไม่สามารถบอกได้ว่า ดร.อริญชัย ท่านนี้ทราบเรื่องราวต่างๆที่คุณเล่ามาได้อย่างไร อีกอย่างเรื่องราวเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่ประการใดเลย ตั้งแต่เด็ก ผมก็เคยได้ยินปาฏิหาริย์เหล่านี้อยู่ทุกๆปี เรื่องราวคล้ายๆกัน ต่างกันแต่ชื่อบุคคล และรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน ผมคิดว่าเราสามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุขได้ด้วยการปฏิบัติตามธรรมะของพระพุทธองค์ ไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาอาจารย์ที่ไหนมาช่วยแก้กรรมให้กับเรา เพราะมนุษย์มีกรรมเป็นของๆตน จะไปหวังผู้อื่นช่วยคงไม่ได้ผลอะไรมากนัก ดีไม่ดีไปเจอคนหลอกลวง ทำให้เสียรู้ เสียทรัพย์ หรือเสียอย่างอื่นจนเกิดทุกข์มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

อันที่จริง เท่าที่ผมอ่านสิ่งที่คุณอรนิตย์เขียนมา ก็ดูเหมือนว่าไม่ได้ตั้งใจจะต้องการคำอธิบายในทางโหราศาสตร์ซักเท่าไหร่ แต่อยากจะเล่าประสบการณ์หรือเรื่องราวที่คิดว่าเป็นปาฏิหาริย์ให้คนอื่นได้รับทราบมากกว่า

ครั้งหนึ่ง เคยมีคนถามอาจารย์วรกุล ในเว็บไซต์มูลนิธิสมาคมโหรฯ เรื่อง องค์ใน ผมเห็นว่า เป็นคำตอบที่ดี จึงขอยกมาไว้ ณ ที่นี่ ดังนี้ครับ

<ตอบคุณ ice (ความเห็นที่ 51)............ปกติคนมี “องค์ใน” เขาไม่มาโฆษณาหรอกครับ เพราะโฆษณาแล้วจะไม่ได้ผล “องค์ใน” บางอย่างก็คือตัวเรา หรือ ผลของกรรมของเราในอดีต ตัวเราที่เกิดมา มีกรรมและผลกรรมหลายอย่างที่ติดมา หรือ บางอย่างก็เป็นสิ่งภายนอกที่เราไปมีคุณสมบัติตรงกัน โดยเฉพาะคุณธรรมที่ตรงกัน เช่น สมมุติเราเป็นคนชอบทำบุญ ก็จะมี “จิต” หรือ วิญญาณ ที่มีคุณธรรมเดียวกัน มาสัมผัสได้ คนอื่นจะไม่ได้ อะไรประมาณนี้ ที่หมอดูว่ามีสัมผัสที่ 6 หากไม่ได้หลอก ก็เป็นได้ แต่ก็มีอยู่หลายแบบ เช่น เป็นชั่วคราว เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง หรือ เป็นมาก แต่ไม่มีใครเป็นตลอดเวลา แม้แต่คนทรง และถ้าหากมีองค์ในที่เป็นทางอื่น เช่น เกี่ยวกับ “ศิลปะ” ก็จะพยากรณ์ได้จำกัด ไม่ใช่รู้ไปทุกเรื่อง และส่วนมากจะรู้เพียงเรื่องที่เห็นได้ เช่น ที่บ้านมีอะไรตั้งอยู่ แต่ไม่รู้อนาคต ไม่รู้ยารักษาโรค อะไรประมาณนั้น

ดังนั้น วิธีดูจึงยุ่งยากหลายชั้น แล้วแต่ประเภท ต้องสอบถามเจ้าชะตาเป็นส่วนตัวก่อน โดยทั่วไป พวกเรือนและดาว อริ มรณะ วินาสน์ ปัตนิ ศุภะ ตนุ ดาว มฤตยู เกตุ จันทร์ ราหู ประ นิจ มูละ กาลกิณี จะเกี่ยวข้องกับพวกสัมผัสที่ 6 ได้ แต่อธิบายยากอยู่ ต้องดูดวงชะตารวมว่ามีกรณีที่เกี่ยวกับอะไร เช่น บางคนเห็นอะไรแปลกๆ บางคนก็มีพรายกระซิบ หรือ บางคนก็เห็นมโนภาพ เหมือนฝัน ดูลูกแก้วได้ หรือ กำวัตถุไสยศาสตร์อะไรแล้วรู้ได้ก็มี อะไรแบบนี้ มีตั้งหลายสิบแบบ ดังนั้นดวงชะตาก็จะต่างกันไป

ผู้แสดงความคิดเห็น วรกุล วันที่ลงประกาศ 23-02-2007 16:39:54>

สำหรับ ดร.อริญชัย ภวรัญชนากุล ที่คุณกล่าวถึงนั้น ผมไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกับ อริญชัย ภวรัญชนากุล ตัวแทนกลุ่ม Get Rich ที่วางแผนจะผุดคาสิโน "Las Vegas in Thailand" ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิหรือเปล่า? ถ้าใช่ ก็คงรู้สึกแปลกๆว่า นักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันจะเปลี่ยนท่าทีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังจิตและช่วยเหลือคนด้วยธรรมะ ลองอ่านข่าวตาม link นี้ดูนะครับ http://www.bangkokbiznews.com/2006/04/06/e007_68927.php?news_id=68927
http://www.phrathai.net/news/detail.php?catid=10&groupid=1&ID=3704

นอกจากนี้ หากลองค้นหาคำว่า "อริญชัย ภวรัญชนากุล" ใน Google ก็จะพบเรื่องราวแปลกๆอยู่พอสมควรเหมือนกัน ผมจึงคิดว่า เรื่องราวที่คุณอรนิตย์เล่ามา ทุกท่านต้องใช้ความระมัดระวังในการเชื่อถือนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Pallas วันที่ตอบ 2007-09-25 16:08:07 IP : 61.90.143.87

ความคิดเห็นที่ 2 (776287)
ผมได้อ่านกระทู้เรื่องนายอริญชัยหลายกระทู้ ผมเป็นคนหนึ่งที่สงสัย และ ผมได้แสดงความคิดเห็นไปหลายกระทู้แล้วว่า ผมอยู่สหรัฐอเมริการัฐนิวยอร์กเมื่อพบเรื่องกล้อง Aura ผมก็สอบถามไปยังผู้ผลิตและขายกล้อง Aura จนในที่สุดผมพบว่านายอริญชัยซื้อกล้อง Aura มาจากตัวแทน นาย กาย ค๊อกจิ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้นนายกายยังมีเทปบันทึกการอ่านแสง Aura บันทึกโดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 นายกายยืนยันว่านายอริญชัยมีความสามารถและลึกซึ้งในการอ่านแสง Aura นอกจากนั้นเขายืนยันว่านายอริญชัยซื้อกล้อง Aura เป็นคนแรกของประเทศไทยและมียอดซื้อแบตเตอร์รี่มากที่สุดของประเทศด้วย ผมเป็นคนไม่ชอบวิจารณ์ใครโดยยังไม่พิสูจน์ เพราะถ้าเราตกเป็นเครื่องมือของคนอื่นเราจะกลายเป็นคนไม่ดี ผมค้นหาตาม link ที่คุณแนะนำ ต้องยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่น่าสนใจ เช่น เรื่องในหนังสือพิมพ์ในความคิดของผม ผมชื่นชมบุคคลที่พยายามนำนักลงทุนเข้ามาในประเทศ เรื่อง casino ผมว่าเป็นการสร้างจุดสนใจให้คนสนใจโครงการที่จะเกิดขึ้น เป็นหลักการทางการขายและโฆษณา ในเรื่องของทางธรรมผมว่านักโหราศาสตร์นักปฏิบัติธรรมหลายคนก็ยังดื่มเหล้าพร้อมกับบรรยายธรรม โดยอ้างว่าเข้าสังคม แต่ในพระธรรมจริงเขาไม่มีข้อยกเว้นนะครับ ผมอ่านพบว่านายอริญชัยเคยสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรษ์ได้คะแนนมากกว่า 25,000 คะแนน แสดงว่าต้องมีดีคนจึงลงคะแนนให้มากขนาดนั้น ส่วนเรื่องพิทักษ์ทรัพย์ผมเห็นเป็นเรื่องธรรมดา อ่านพบคนรวยมากกว่านายอริญชัยก็มีชื่อถูกพิทักษ์ทรัพย์ คนเคยเป็นนายกก็ถูกพิทักษ์ทรัพย์ ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของนักธุรกิจ คนเขียนกระทู้หลายท่ายก็ต้องเคยบ้างถูกพิทักษ์ทรัพย์ ทราบมาว่าคนล้มละลายหนี้เป็นร้อยล้านพันล้านไม่ต้องใช้ แสดงว่ากฎหมายฉบับนี้ช่วยฟอกคนเป็นหนี้สิน ผมตรวจข่าวการปรากฏตัวของนายอริญชัยหลายแห่ง โดยสอบถามจากเพื่อนที่มีภูมิลำเนา เขายืนยันว่ามีการเปิดถ่ายภาพ Aura ตามกระทู้จริง ผมขอแสดงความคิดเห็นเพียงเท่านี้ คนไทยหลายคนในสหรัฐฝากถามว่า ถ้าโหราศาสตร์ของไทยแน่จริง ทำไมไม่แสดงให้ต่างชาติยอมรับ เพราะเขาเปิด Web ท้าทายและเสนอเงินมากมาย ช่วยหนุนนักโหราศาสตร์สร้างชื่อด้วยครับ อย่าให้อายฝรั่ง
ผู้แสดงความคิดเห็น พลัม วันที่ตอบ 2007-09-29 11:45:19 IP : 58.136.206.229

ความคิดเห็นที่ 3 (776379)
ผมว่าเปิดเป็นสถาบันรับสอนรับบริการถ่ายภาพตรวจสอบวัตถุมงคลแบบของ ดร.ณภัทรดิศhttp://www.phd-hypno.com/ดูจะแจ้งดีนะครับคุณข้าวโพด
ผู้แสดงความคิดเห็น สงกะสัย วันที่ตอบ 2007-09-29 17:08:14 IP : 117.47.148.88

ความคิดเห็นที่ 4 (776384)

ที่เว็บนู้นเห็นคนที่มีอีเมล์กับไอพีแอดเดรสคล้ายๆ กันนี้ พยายามบอกว่ามีแผนจะให้โหราศาสตร์กับออร่าผิดใจกัน พอมาที่นี่กลายเป็นมาปกป้องออร่าและโจมตีโหราศาสตร์

คล้ายกับว่ากองหน้าพยายามล่อหลอกให้หลวมตัว กะว่าตอบทางไหนก็ขยายผลได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง อย่างที่นี่พอถูกตีเข้าให้ก็ส่งกองหลังมาอ้างว่าปกป้องคนถูกรังแก

คนโหราศาสตร์ในเมืองไทยเขาก็ทำเว็บกันมามากแล้ว เป็นธุรกิจบ้าง วิทยาทานบ้าง ส่วนเรื่องแสงออร่าเห็นยังพอใจเป็นแค่บทความย่อยตามเว็บธรรมะ แต่ก็มีโอกาสในการพัฒนาได้ถ้าตั้งใจจริงและใช้วิธีการที่ถูก

ตัวแม่ทัพเองกลับไปทบทวนดีกว่า อยากมีชื่อเสียงก็แค่แสดงผลงานให้ชาวบ้านเขาเห็น ดีกว่ามาเสียเวลาวิ่งลอกทะเลาะชาวบ้านแบบนี้

ส่วนเจ้าของเว็บนี้คุณลองใช้กูเกิ้ลหาคำว่า "แสงออร่า" ดูบ้าง คนใช้ศาสตร์นี้ไม่ต้อง "มีองค์" อย่างที่คุณเข้าใจ ขอให้ "มีกล้อง" และรู้วิธีการดู ส่วนเรื่องตัวคนพอเผลอไปแตะเข้าเลยเข้าทางเขาพอดี คงต้องระวังอีกนิด

ผู้แสดงความคิดเห็น เลิกแล้วต่อกันเถอะ วันที่ตอบ 2007-09-29 17:21:57 IP : 124.120.178.189

ความคิดเห็นที่ 5 (776605)

อ่านความเห็นของคุณพลัมและคุณเลิกแล้วต่อกันเถอะ แล้ว รู้สึกว่าจะเข้าใจความเห็นที่ผมได้แสดงไว้คลาดเคลื่อนไปจากที่ผมตั้งใจ เลยคิดว่าต้องอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจน ขออนุญาตแยกเป็นประเด็นๆ นะครับ

ประเด็นที่ 1 พลังจิตหรือศาสตร์แห่งแสงออร่า

ที่ผมตอบไปในครั้งแรกนั้นว่า สิ่งที่คุณอรนิตย์เล่ามา เป็นพยากรณ์ศาสตร์ประเภทพลังจิต ไม่ใช่โหราศาสตร์ โดยผมไม่ได้พูดเรื่องแสงออร่าเลยนั้น เป็นเพราะว่าสิ่งที่คุณอรนิตย์ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์แห่งนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องแสงออร่าเลยครับ ลองกลับไปอ่านสิ่งที่คุณอรนิตย์เล่ามาสิครับ เป็นเรื่องการอ่านใจล้วนๆ ส่วนเรื่องศาสตร์แห่งแสงออร่าเป็นเรื่องที่ท่านอื่นไป post ในเว็บไซต์อื่น ไม่ใช่ในเว็บนี้ ผมเลยไม่พูดถึงเรื่องแสงออร่าเลย เพราะไม่อยากนอกประเด็นจากที่คุณอรนิตย์ถามมา

สำหรับเรื่องแสงออร่านั้น ผมได้ยินครั้งแรกเมื่อปี 2530-2531 ในหนังสือมิติพิศวง ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะเรียกเครื่องถ่ายภาพแสงเหล่านี้ว่า เครื่องถ่ายภาพเคอร์เลียน (เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ หากผิดพลาดต้องขออภัยด้วย) ตอนนั้นผมตั้งใจจะทำเป็นโครงการวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำ แต่ไม่มีอาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนที่พอจะให้คำปรึกษาเรื่องนี้ได้เลย จึงต้องล้มเลิกความตั้งใจไป จนผ่านไป 19 ปี ก็กลายเป็นว่ามีคนมาพูดเรื่องนี้ในเว็บไซต์นี้ <หรือจะเป็นวงรอบเมโทนิค :) > เพราะฉะนั้น ผมไม่ได้บอกว่า แสงออร่าเป็นเรื่องพลังจิตนะครับ ด้วยความรู้ที่ผมมีเกี่ยวกับเรื่องแสงออร่าเพียงเล็กน้อย ผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการพยายามนำเครื่องไม้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ไปตรวจสอบคลื่นพลังบางอย่างของมนุษย์ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆ ดังนั้น ศาสตร์แห่งแสงออร่าไม่น่าจะเป็นเรื่องของพลังจิตโดยตรง เพียงแต่ว่า ผู้ศึกษาหลายท่านมักจะสนใจเรื่องของพลังจิตด้วยเท่านั้นเอง อย่างไรก็ดี หากผมเข้าใจผิด ก็ต้องขออภัยด้วย

ประเด็นที่ 2 ช่วยหนุนนักโหราศาสตร์ไทยสร้างชื่อด้วย อย่าให้อายฝรั่ง??

อ่านความเห็นของคุณพลัมแล้ว เข้าใจว่าคุณพลัมบอกว่า ทำไมเราไม่ช่วยหนุนนักโหราศาสตร์ไทย อย่าให้อายฝรั่ง?? เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างมากเช่นกัน ผมขออธิบายแยกออกเป็น 3 เรื่องย่อย ดังนี้

เรื่องแรกก็คือ สิ่งทีคุณอรนิตย์เล่ามานั้น ผมยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่โหราศาสตร์ เพราะไม่ได้ใช้ปัจจัยบนท้องฟ้ามาพยากรณ์ (โหรา แปลว่า เวลา จึงแปลว่า ศาสตร์เกี่ยวกับเวลา ส่วนภาษาอังกฤษใช้คำว่า Astrology มาจาก Astro ดวงดาว + Logos ศาสตร์ จึงแปลว่า ศาสตร์เกี่ยวกับดวงดาว ดังนั้น โหราศาสตร์จึงมีความหมายรวมเฉพาะศาสตร์ที่ใช้ปัจจัยบนฟ้าและเวลาเท่านั้น ซึ่งมีความหมายแคบกว่าพยากรณ์ศาสตร์ที่หมายรวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับการพยากรณ์) ดังนั้น ความสามารถของคุณอริญชัยที่คุณอรนิตย์เล่ามาจึงไม่เกี่ยวกับอะไรกับโหราศาสตร์ไทยเลย

เรื่องที่สอง ทำไมไม่หนุนนักโหราศาสตร์ไทยนั้น สิ่งที่คุณอรนิตย์เล่ามา เป็นการใช้พลังจิตเพื่อรู้อดีต พยากรณ์อนาคต ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ เกิดขึ้นทุกประเทศ ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไรที่จะสามารถทำให้ต่างชาติยอมรับได้ ในอินเดียก็มีคุรุมากมายที่ตั้งเป็นสำนักและมีสานุศิษย์จากนานาประเทศจำนวนมาก เช่น ท่านสัตยาไสบาบา เป็นต้น สำหรับบ้านเรานั้น เรื่องอำนาจจิตที่หยั่งรู้อดีตอนาคตนั้น ก็มีพระภิกษุสายปฏิบัติหลายๆรูปที่มีชื่อเสียงในด้านนี้ รวมไปถึง แม่ชี ฤาษี ฯลฯ ที่มีลูกศิษย์ลูกหาอยู่มากมาย จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ

เรื่องที่สาม ผมเห็นว่า โหราศาสตร์หรือพยากรณ์ศาสตร์ไม่ใช่เรื่องชาตินิยมครับ ความรู้ทั้งหลายเป็นสากล เป็นภูมิปัญญาที่มนุษย์พัฒนาอย่างต่อเนื่องมาแต่โบราณ ไม่ได้แยกเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ โหราศาสตร์ไทยเองก็ไม่ใช่ของไทยแท้ เป็นศาสตร์ที่รับมาจากต่างประเทศตั้งแต่โบราณกาลทั้งนั้น แต่มีการพัฒนาประยุกต์แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ศาสตร์ใดถ้าหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่มีการสังคายนา ก็ย่อมจะความรู้ประเภทเปลือกกระพี้เข้ามาปกคลุมแก่นแท้จนทำให้ศาสตร์นั้นเสื่อมถอยไปเอง ดังนั้น เรื่องความรู้นี้ ผมอยากให้ทำใจให้เป็นสากลครับ แล้วเราจะได้ประโยชน์มากกว่าการยึดติดกับชาตินิยมเพียงเท่านั้น

ประเด็นที่ 3 ธุรกิจคาสิโน

เหตุผลที่ผมได้นำข่าวเกี่ยวกับเรื่องความพยายามจะทำธุรกิจคาสิโนมาลงนั้น เพราะว่า คุณอรนิตย์เล่าว่า ดร.ท่านนี้เป็นผู้ที่สามารถอธิบายความข้องใจในศาสนาพุทธได้อย่างมีเหตุผลและไม่สามารถที่จะโต้แย้งได้เลย รวมถึงได้ฝึกสมาธิมากว่า 38 ปีและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิดด้วย ทำให้ผู้อ่านอาจจะเข้าใจได้ว่า เป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด ดังนั้น เมื่อผมอ่านข่าวเรื่องธุรกิจคาสิโนแล้ว จึงรู้สึกแปลกๆ เพราะพระพุทธเจ้าทรงสอนว่า การพนันคืออบายมุข เป็นทางสู่ความเสื่อมอย่างชัดเจน ดังนั้น ผมจึงอยากให้ผู้อ่านกระทู้นี้ได้รับข้อมูลครบทุกด้าน แล้วใช้ดุลยพินิจของตนเองในการตัดสินใจที่จะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไร

ส่วนเรื่องที่บอกว่า นักโหราศาสตร์นักปฏิบัติธรรมยังดื่มเหล้าพร้อมกับบรรยายธรรม ผมว่า แยกนิดนึงครับว่า นักโหราศาสตร์ไม่เกี่ยวอะไรกับการบรรยายธรรม แต่นักโหราศาสตร์หลายท่านก็สนใจศึกษาธรรมะ ส่วนนักปฏิบัติธรรมที่บรรยายธรรมแล้วยังดื่มเหล้านั้น ก็เป็นดุลยพินิจของผู้ฟังว่าจะเชื่อสิ่งที่ผู้บรรยายธรรมคนนั้นสอนธรรมะหรือไม่ครับ

ประเด็นที่ 4 การลงสมัครผู้แทน

การลงสมัคร ส.ส. และได้รับเสียงเลือกกว่า 25,000 คะแนนนั้น เป็นเครื่องบอกว่าได้รับความนิยมจากประชาชนในพื้นที่นั้นกว่า 25,000 คน ที่เชื่อว่าสามารถเป็นผู้แทนของเขาได้ (ซึ่งคะแนนส่วนหนึ่งก็ย่อมมาจากความนิยมในตัวพรรคการเมืองด้วย) แต่เช่นเดียวกัน เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่คุณอรนิตย์ถามมาอยู่ดีครับ ผมจึงไม่ได้หยิบยกมาในตอนแรก

ประเด็นที่ 5 การพิทักษ์ทรัพย์

การพิทักษ์ทรัพย์เป็นการบอกว่าคนๆนั้นมีปัญหาทางการเงินกับเจ้าหนี้ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งไม่ได้บอกว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี และที่สำคัญก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณอรนิตย์ถามมาอยู่ดี

สรุป

เรื่องราวพลังวิเศษในตัวคนเป็นเรื่องที่ได้ยินมาทุกยุคทุกสมัย หลายครั้งเป็นเรื่องจริง หลายครั้งเป็นเรื่องหลอกลวง เมื่อมีผู้มาถามในเว็บไซต์แห่งนี้ซึ่งผมเป็น webmaster อยู่ ผมก็อยากให้คนอ่านได้รับทราบข้อมูลหลายๆด้าน และนำไปพิจารณาดูว่าจะเชื่อหรือไม่ สังเกตได้ว่าคำตอบของผมนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าคุณอรนิตย์ที่เป็นเจ้าของกระทู้ต้องการถามความเห็นในแง่ของโหราศาสตร์ ผมก็เลยแสดงความเห็นในแง่โหราศาสตร์ไป พร้อมให้ข้อมูลด้านอื่นๆเพิ่มเติม ผมอยากให้ทุกท่านใช้หลักกาลามสูตรที่พระพุทธองค์สอนไว้ (โดยรวมคืออย่าเชื่ออะไรง่ายๆ) สุดท้ายแล้วผู้ตัดสินใจจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ที่แต่ละคนเองครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Pallas วันที่ตอบ 2007-09-30 00:54:41 IP : 202.91.19.205

ความคิดเห็นที่ 6 (776611)

เห็นจากกระทู้ของเวปหนึ่ง คล้ายๆกันเลย

http://www.thamnaai.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=thamnaaicom&thispage=1&No=250298

=======================

ขอต้อนรับกลับบ้านครับ

Your IP Address is 58.8.11.225
inetnum:      58.136.206.0 - 58.136.206.255
netname:      csloxinfo-th
country:      TH
descr:        reassign to "CSLOXINFO ADSL"
descr:        contact "domaster@csloxinfo.net"
admin-c:      LIA1-AP
tech-c:       LIA1-AP
status:       ASSIGNED NON-PORTABLE
changed:      domaster@loxinfo.co.th 20051104
mnt-by:       LOXINFO-IS
source:       APNIC

ผู้แสดงความคิดเห็น MoonStone วันที่ตอบ 2007-09-30 01:18:11 IP : 58.8.11.225

ความคิดเห็นที่ 7 (1776440)
ทำไมชื่อเหมือนครูหนูจัง อยากทราบความหมาย
ผู้แสดงความคิดเห็น ศรัญญา คำเรียง วันที่ตอบ 2008-06-17 18:08:26 IP : 203.172.199.254

ความคิดเห็นที่ 8 (1929883)
อริญชัย ภวรัญชนากุล พบเห็นข้อความใน web อื่น ว่า เขาเสียชีวิตแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นความจริงเพียงใด เพราะเมื่อมีความ สามารถน่าที่จะหาทางแก้ไขได้ หรือ เขาแก้ได้แต่ไม่อยากแก้ หรือ เข้าไปถึงคำว่า ชีวิตต้องเกิดอีกถ้ายังไม่นิพพาน คงมั่นใจ ว่าตนเองจะลึกชาติได้ ผมเป็นทนายความเพิ่งเห็นคำสั่งศาลเพิกถอนล้มละลาย พอชื่อเลิกล้มละลายกลับเป็ยกายต้องละลายไป เป็นขี้เถ้า ความตายนี้ยุติธรรมมากกว่าความยุติธรรมใดๆ คนดี คนชั่ว ล้วนต้องตายเหมือนกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น panuhello วันที่ตอบ 2009-04-25 23:18:55 IP : 125.25.120.58

ความคิดเห็นที่ 9 (2155022)
คำสั่งสอนต่างๆที่เราได้รับมาตลอดเป็นเพียงแนวเขตที่ผู้รู้ได้ให้เราระวังตัวเองไม่ให้ล้ำออกนอกเขตไปพบกับอะไรก็ตามที่เข้ามารุมเร้าให้เราทำอะไรบางอย่างที่เราเองเฝ้าปลอบใจเข้าข้างตัวเองมาตลอดเมื่อออกมานอกเขตว่า ไม่เป็นไร บาปก็บาปนิดหน่อย คำว่าเมตตาที่พระพุทธองค์ทรงมอบให้เรามีนั้นเป็นอะไรที่มหาศาลมากอยากจะเรียนให้ทราบว่าฝรั่งขณะนี้ก้าวหน้ามาก เศษๆของพระธรรมเขาเอามาสร้างเป็นหนังให้เราดูกัน ตัวแก่นแท้ทางวาติกันรวบรวมไว้เรียบร้อยแล้วโดยอารธนาพระระดับแนวหน้าจำนวนหกรูปไปตีความพระไตรปิฏกแล้วประยุกต์เข้ากับจุดเด่นของศาสนาอื่นๆปรากฎว่าคำสวดบางบทเหมือนระหัสสื่อสารทางวิทยาศาสต์คือสามารถสร้างอะไรบางอย่างที่อาจเรียกได้ว่า ปฏิหาร คนมีกรรม รับ กรรมไป ทางโลก ติดคุก ทางนรก ติด นรก ความมีเมตตาไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ช่วยผู้อื่นที่เดือดร้อน ความมีความละเอียดอ่อนในการมีเมตตาต่อชีวิตที่เล็กที่สุดจนใหญ่ที่สุดแค่นี้เองเราก็ไม่จำเป็นต้องเข้าวัดไปแย่งที่คนอื่น ก็เพียงระวังตัวเราเองเถอะอย่าไปเสียดสีโดนผู้อื่นเป็นพอ เมตตาเข้าทะลุสามโลกนั้นเป็นที่สุดของพุทธศาสนา เคยนั่งฝึกสมาธิ เห็นตัว ทุ สะ นะ โส คือคาถาผีเปรต นรก พร้อมเห็น ตัว ซึนามิ ก็คือ ทุ สะ TSU นา NA มิ MI โส น่ะตัวมัน มิ น่ะ ตัวเรา อย่าลืมมี เมตตา นะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ทำบุญทำเมตตา วันที่ตอบ 2011-02-21 08:54:53 IP : 183.89.123.60

ความคิดเห็นที่ 10 (2288991)
การกระทำใดๆที่ชั่วๆของนายอริญชัยน่ะ ของจริง ที่ทำออโร่ง ออร่า นะ ของปลอม
ผู้แสดงความคิดเห็น กัสสมะ วันที่ตอบ 2012-07-24 11:33:40 IP : 171.101.106.26

ความคิดเห็นที่ 11 (2290121)
พวกที่ชอบเห็นเว็บบอร์ดชาวบ้านเป็นสื่อโฆษณาฟรีดูไว้เลย คิดแต่จะสร้างกระแส ดูถูกคนอ่าน ไม่ให้เกียรติเจ้าของเว็บ ตายไปแล้วยังถูกประณามไม่จบสิ้น
ผู้แสดงความคิดเห็น อนิจจา วันที่ตอบ 2012-07-28 21:01:41 IP : 124.122.182.169

ความคิดเห็นที่ 12 (3738540)
คนที่ด่าท่านอาจารย์ใหญ่ดร.อริญชัยโปรดรับทราบข้อเท็จจริงไว้ว่าบัดนี้คนที่ใส่ร้ายและพยายามที่จะให้ท่านอาจารย์ใหญ่ดร.อริญชัยตายทุกวิถีทางนั้นบัดนี้ท่านเหล่านั้นได้ดับสูญชีวิตเกือบหมดแล้วคนใหญ่คนโตเช่นท่านนายพลเอกวันชัยและภรรยานามสกุลจิตตฺ์จำนงค์ท่านทั้งสองลาโลกไปแล้วดูwww.mesati.comเป็นหลักฐานท่านอาจารย์ใหญ่ยังไม่ตายครับบารมีมันผิดกันกับบุคคลทั้งหลายที่พยายามใส่ร้ายท่านเงินทองที่พยายามจะแย่งเอาไปจากท่านมันกำลังกลับมาสู่เจ้าของแล้วคนที่พยายามคิดฆ่าท่านใส่ร้ายท่านทุกคนกำลังมีอันเป็นไปผมถามท่านอาจารย์ท่านบอกอโหสิกรรมให้ทุกคนหมดแล้วครับสาธุสาธุสาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนเพิ่งทราบข่าว (freefreefree-at-yahoo-dot-co-dot-th)วันที่ตอบ 2014-11-23 00:11:51 IP : 171.96.245.182

ความคิดเห็นที่ 13 (3916037)
จะติดต่ออาจารย์ได้ที่ไหน ใครรู้กรุณาบอกด้วยค่ะเพราะยี่สิบปีเคยไปหาท่านค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น สุขอยู่ในทาน วันที่ตอบ 2015-12-18 14:17:39 IP : 10.147.196.181

ความคิดเห็นที่ 14 (3948141)
ท่านทั้งหลายที่อยากแส่หาเรื่องใส่ตัวและอยากจะติดต่อกับเรา-ดร.อริญชัยเราเปลี่ยนชื่อแล้วเป็นนายพฤฒิชัยเจิดสลัดเราเปิดสำนักดูหมอที่มีชื่อว่าวิมุตติดยาจะเอาเบอร์ไหมล่าเข้ากูเกิ้ลหรือมึงเกิ้ลก็ได้เรื่องของมึงเจอกุแน่
ผู้แสดงความคิดเห็น หมัน อารมย์ วันที่ตอบ 2016-02-21 00:13:51 IP : 110.77.182.169

ความคิดเห็นที่ 15 (3948144)
ท่านทั้งหลายที่อยากแส่่หาเรื่องใส่กะบาลตัวเองอาฮ้าอยู่ดีไม่ว่าดีก็ลองเข้าไปในกูเกิ้ลหรือมึงเกิ้ลก็ได้เรื่องของมึงมึงเจอกูแนแน่กูเปลี่ยนชื่อแล้วเป็นชื่อเดิมกูคือนายพฤฒิชัยเจิดสลัดหืรือที่เขาเรียกกูว่าวิมุติดยาไงเล่าจะเอาเบอร์โทรไหมล่ามึงพอใจยัง
ผู้แสดงความคิดเห็น หมัน อารมย์ วันที่ตอบ 2016-02-21 00:22:03 IP : 110.77.182.169

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล