"ถ้ายังมีชีวิตอยู่ จุดดับและจุดเกิดเป็นจุดเดียวกัน"

ประโยคนี้มาจากการบรรยายของอาจารย์อารี สวัสดี ซึ่งผมถือว่าอาจารย์ได้กรุณาให้เคล็ดวิชาสำคัญอันหนึ่งกับผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่าน อาจารย์อารีได้ยกตัวอย่างประกอบเรื่องนี้ว่า วันนี้ (วันบรรยาย) คือวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ย. ถ้าเราย้อนหลังไปตอนเที่ยงคืน ถามว่า ณ ขณะนั้นเป็นวันที่เท่าไหร่

(a) เวลา 23:59:59 น. เป็นวันที่ 15 ก.ย.
(b) เวลา 24:00:00 น. เป็นวันที่ 15 ก.ย.
(c) เวลา 00:00:00 น. เป็นวันที่ 16 ก.ย.
(d) เวลา 00:00:01 น. เป็นวันที่ 16 ก.ย.

ลองพิจารณาที่ข้อ (b) และ (c) จะเห็นว่าเป็นเวลาเดียวกัน แต่กลับเป็นคนละวันกัน นั่นล่ะครับ "จุดดับ (ของวันเก่า) และจุดเกิด (ของวันใหม่) เป็นจุดเดียวกัน"

สำหรับลูกศิษย์ของอาจารย์วิโรจน์แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะอาจารย์วิโรจน์จะสอนเรื่องนี้ทุกครั้งเมื่อสอนถึงปรัชญาของแต่ละราศี แต่การได้มาฟังอีกครั้งหนึ่งจากอาจารย์อารี ก็ทำให้เข้าใจได้ลึกขึ้น เพราะอาจารย์อารีมีวิธีเน้นเรื่องที่สำคัญให้ฝังเข้าไปในสมองของเราโดยไม่ต้องจดในสมุดบันทึก

ผมเชื่อว่า เคล็ดวิชานี้สามารถนำไปปรับใช้ได้มากมาย หากสนใจจะสอบถามจากอาจารย์อารีเพิ่มเติม ก็อาจจะสอบถามอาจารย์ได้โดยตรงในห้องเรียนวิชา "ดารา-โหราศาสตร์" ที่อาจารย์อารีท่านได้จัดเวลามาสอนให้ที่มูลนิธิสมาคมโหรฯ เริ่มสอนในวันอาทิตย์ที่ 14 ต.ค.นี้

    อิติ   อิมัสมิง  สะติ  อิทัง นะ โหติ
อิมัสสะ  อุปาทา  อิทัง  อุปัชชะติ
    อิติ  อิมัสมิง  สะติ  อิทัง  นะ  โหติ
อิมัสสะ  อุปาทา  อิทัง  นิรุชชะติ

    เอวัง  วาที มหาสมโณ..นะโยม

คัมภีร์สูตรเรือนชะตา

หน้า 178

..... เมื่อสิ้นสุดราศีมีน ก็จะเริ่มต้นราศีเมษทันที อันหมายถึง การเกิดใหม่ในทันทีที่ หายไป หรือจุดเกิด กับจุดตายเป็นจุดเดียวกันนั่นเอง .....

เข้าใจว่าคำถามของคุณ Rainbow จะเป็นเรื่องของโหราศาสตร์ไทย ตัวผมเองมีความรู้โหราศาสตร์ไทยไม่มากนัก จึงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อไปค้นดูในกระทู้ของอาจารย์วรกุลแห่งเว็บไซต์ Horathai.com ก็พบว่า เคยมีคนถามเรื่องนี้และอาจารย์ได้ตอบดังนี้ครับ

"ความเห็นที่ 15 (222901)
 
ตอบ 13   คุณวีริศราพร.........เรื่องที่ว่า  ลัคนาอยู่ราศีพิจิก  ยกเว้นไม่มีวินาสน์นั้น  เป็นคำที่กำกวม    ขึ้นอยู่กับว่าจะแปลวินาสน์ว่าอย่างไร   ในกรณีนี้   ราศีตุลย์ เป็นเรือน วินาสน์  ความหมายคือ แตกสลาย   ลับๆ  หรือ ชั่วคราว   แต่ทางโหราศาสตร์ไทย  เป็นเกษตรเรือนเดียวกับ เรือนปัตนิ  ที่ราศีพฤศภ     เรือนปัตนินั้น  ปกติเราแปลว่า เพศตรงข้าม  คู่ครอง  หรือ ผู้ร่วมงาน ก็ได้   อีกความหมายหนึ่งทางปรัชญา หมายถึง  ความเปิดเผย  เห็นได้ง่าย   อยู่ร่วมกับเรา   ดังนั้น   ความหมายที่เป็นเรือน  แตกสลาย  ลับๆ  หรือ ชั่วคราว  จึงไม่เกิดขึ้น    จึงอาจจะพูดได้ว่า  ยกเว้นวินาสน์   แต่ดาวเจ้าเรือนวินาสน์นั้นยังนำเอาความหมายเกษตรทั้ง ปัตนิ และวินาสน์ติดไปกับตัวมันอยู่ทั้งสองเรือนเท่ากับเรือนอื่นเช่นกัน    ดังนั้น  ยังต้องอ่านวินาสน์ที่เจ้าเรือนวินาสน์อยู่ตามปกติ    แต่ถ้าเหตุผลเพียงเท่านี้  ลัคนา ราศีพฤษภ ก็มี ปัตนิ - วินาสน์ในลักษณะเดียวกัน   ทำไมไม่ยกเว้นด้วย  ทั้งนี้ก็เพราะ  ราศีตุลย์นั้น  เป็นปัตนิของลัคนาโลกที่ราศีเมษด้วย   ดังนั้น จึงย้ำความเป็นปัตนิให้แก่ลัคนาราศีพิจิกนั่นเอง

      เรื่องกีฏะ  คือ ราศีพิจิกนั้นมีความพิเศษอีกหลายอย่าง    ไม่เหมือนราศีอื่น  เช่น   คนในราศีนี้ มักจะมีอะไรพิเศษ    ทำอะไรหากจะดังก็ดังมาก  ทั้งทางดีหรือ เลวได้ทั้งสองทาง   บางคนก็หนังเหนียว  ปลุกพระขึ้นดี    ในโหราศาสตร์ทางธาตุเราจะรู้ว่า  เป็นจุดที่เป็นเหมือนวังน้ำวน   ธาตุจะหมุนรอบตัวในราศีนี้ก่อนที่จะจรต่อไปเสมอ    ดังนั้น  ราศีพิจิกของใคร เป็นเรือนอะไร  ก็จะพบว่า  เรือนนั้นมักจะมีเรื่องวนๆ     เช่น  ราศีพิจิกเป็นเรือนปุตตะ   เคยเป็นเด็กมา  พอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว กลับไปเล่นเป็นเด็กอีก   บางทีก็ไปเล่นแข่งรถกับเด็ก เพราะนึกสนุกก็มี   อันนี้เป็นเรื่องทำนายกันเล่น  อย่าไปถือเป็นจริงจังนัก

ผู้แสดงความคิดเห็น วรกุล วันที่ลงประกาศ 12-09-2005 04:40:32 "

ลองอ่านกระทู้ฉบับเต็มได้ตาม link นี้ครับ http://www.horathai.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=horathaicom&thispage=6&No=84137

หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ

"ราศีพฤศจิก ไม่มีวินาศน์" ใช่หรือไม่?

1.
"...นักปราชญ์สมัยโบราณ ว่าท่านคิดงานทางโหราศาตร์มาอย่างไร เมื่อนักโหราศาสตร์แบ่งจักรราศี ออกเป็น 12 ส่วน แต่ละส่วน คือ "ราศี" แล้ว ก็พยายามสังเคราะห์เพื่อทราบว่าแต่ละส่วนมีอิทธิพลหรือตรงกับ ชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ ในตอนใด ภายใต้กฎ "อาตมัน ปรมาตมัน" อันอมตะที่ว่า "โลกเป็นอย่างไร ฟ้าก็เป็นอย่างนั้น ฟ้าเป็นอย่างไร โลกก็เป็นอย่างนั้น" ซึ่งท่าน เฮอเมส ตรีมิจิสโตส ได้ตราเอาไว้อันเป็นกฎที่ใช้เป็นมูลฐาน และในที่สุด ก็พบว่า จักรราศีอาจเทียบเคียงกับชีวิตทั้งหลายได้โดยวิธีกำหนดให้ "จุดเกิด" ตรงกับ "ราศีเมษ" ........... จนกระทั่งขั้นสุดท้ายของชีวิต คือ "การสูญสิ้นไป" ตรงกับ "ราศีมีน" อันเป็นราศีสุดท้าย เป็นที่สุด"

"...ตามเทคนิคของวิชาโหราศาสตร์เมื่อกำหนดได้ว่า อิทธิพลของราศีเมษซึ่งเป็นราศีเริ่มต้น และอิทธิพลของราศีมีนซึ่งเป็นราศีสุดท้าย คือ "เกิด" กับ "ดับ" การทราบอิทธิพลของราศีต่าง ๆ ที่อยู่กลางจึงไม่ใช่งานยากเพียงนำเอาพัฒนาการชีวิตช่วงสำคัญ ๆ มาลำดับ ตั้งแต่ "เกิด" จน "ดับ" ช่วงสำคัญ ๆ ของชีวิตตอนใดน่าจะตรงกับราศีใด ธรรมชาติหรือพฤติกรรมของชีวิตในตอนนั้น ๆ ก็จะเป็น "อิทธิพล" หรือ "ธรรมชาติ" ของราศีนั้น..."
คัมภีร์สูตรเรือนชะตา ตอนที่ 1 จักรราศี หน้า 106-107

จะเห็นได้ว่า "เกิด หรือ การเกิดขึ้น" กับ "ดับ หรือ การสูญสิ้นไป" นั้นเป็นหลักปรัชญาแรก ๆ ก่อนที่จะนำไปพัฒนาหาความหมายของราศีอื่น ๆ

ดังนั้นเราจึงใช้วิธีหลักปรัชญานี้พิจารณาได้ว่า

สรรพสิ่ง เมื่อมี "เกิด" ก็ต้องมี "ดับ" ดังนั้น
เมื่อมี "เกิด" ที่ "เมษ (1)" ก็ต้องมี "ดับ" ที่ "มีน (12)" ได้
เมื่อมี "เกิด" ที่ "พิจิก (1)" ก็ต้องมี "ดับ" ที่ "ตุล (12)" ได้เช่นเดียวกัน

เมื่อลองเทียบเคียงกับความหมายอื่น ๆ เช่น

พิจิก "ดับหรือสิ้นสุดที่" ตุล
อังคาร "ดับหรือสิ้นสุดที่" ศุกร์ (เกษตรของทั้งสองราศี)
ต่อสู้ "ดับหรือสิ้นสุดที่" รัก สงบ
ทะเลาะ "ดับหรือสิ้นสุดที่" สมานฉันท์
เสียสละ "ดับหรือสิ้นสุดที่" ปราถนา (อยากได้)
โทสะ "ดับหรือสิ้นสุดที่" เมตตา (อโทสะ) (ดังพุทธสุภาษิตที่ว่า "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร")

จะเห็นได้ว่าเข้ากันได้กับธรรมชาติของโลกหรือคำสอนของศาสนาพุทธเป็นอย่างดี

2. "...สูตรการพยากรณ์ที่มีการใช้ราศี (นิรายนะ) มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ผิดอย่างขาวเป็นดำ (นักศึกษาอาจทดสอบได้เอง) ที่ถูกต้องจริง ๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็นสูตรที่ไม่ใช้ราศี...."
คัมภีร์สูตรเรือนชะตา ตอนที่ 1 จักรราศี หน้า 106

สรุป
คำถามที่ว่า "ราศีพฤศจิก ไม่มีวินาศน์" ใช่หรือไม่? จึงได้คำตอบว่า "ไม่ใช่" 

เนื่องจากไม่ได้เรียนโหราศาสตร์ไทยจึงไม่ทราบเรื่อง "ราศีพฤศจิก ไม่มีวินาศน์"

เท่าที่ทราบ คือ "ราศีพิจิก ไม่มีอุจจ์"

จากเอกสารการสอน ร.ร.โหราศาสตร์กรุงเทพ

"ดาวพระเคราะห์ในตำแหน่ง อุจจ์ หมายถึง การที่ดาวพระเคราะห์สถิต หรือ โคจรมาสถิตในราศีซึ่งอิทธิพลของดาวพระเคราะห์นั้น ๆ มีธรรมชาติ  ส นั บ ส นุ น  อิทธิพลของราศีนั้น"

"ร า ศี พิ จิ ก  มีอิทธิพลสำคัญคือ หมายถึง ความตาย อิทธิพลนี้ มีความแรงอย่างที่สุดอยู่แล้ว และไม่อิทธิพลของดาวพระเคราะห์ใดที่จะสามารถสนับสนุนได้ ราศีพิจิกจึงไม่เป็นตำแหน่งอุจจ์ของดาวพระเคราะห์ใด ๆ "

คุ้น ๆ ว่าในทฤษฎีการพยากรณ์บอกว่า ราศีที่ 1 จะนำพลังงานไปถ่ายทอดในราศีที่ 8 ของตนเองเสมอ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ไปสิ้นสุดในราศีที่ 8 ตามกฎการดับแห่งราศี ครับ

แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ