คงไม่เอาไปใช้เก็งกำไรค่าเงินแบบ จอร์จ โซรอสนะครับ:)

ขอเวลา 2-3  วัน พิจารณาก่อนครับแล้วจะมาบอก หรืออาจจะเขียนในบทความสัปดาห์นี้ก็ได้ครับ

ไม่มีเงินมากพอและไม่มีความรู้ทางการเงินใดๆเลยค่ะ  ถามด้วยความสุจริตค่ะ  เพราะถ้าเทียบกับทางยุโรปแล้วไม่ไหวจริงๆ   อเมริกาน่าจะดีกว่า   จะติดตามและอ่านบทความของอาจารย์ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะขออนุญาตเข้ามา Join กระทู้ เนื่องจากทำงานด้านบริหารเงินตราต่างประเทศ และต้องเกี่ยวข้องกับค่าเงินสกุลต่างๆ แต่ประเด็นสำคัญที่สุด เนื่องจากดิฉันเคยเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์วิโรจน์ เรียนโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนกับอาจารย์เมื่อกว่า 7 ปี ที่แล้ว ยังคงสนใจศาสตร์นี้และติดตามเป็นระยะๆ  เห็นความก้าวหน้าจนมี Website ที่เกี่ยวกับ Uranion ในประเทศไทย  และกระทู้ถามตอบที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ก็ชื่นใจมากๆ เห็นแล้วอยากกลับไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์อีกวาระ...ขอกราบแสดงความเคารพอาจารย์วิโรจน์ มานะที่นี้นะคะ

      สำหรับคุณศรีพรรณ  ขอให้มุมมองในเชิงวิชาการด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากนักวิเคราะห์ทั้งไทยและต่างประเทศที่ดิฉันได้มีโอกาสเสวนาด้วย ในเรื่องนี้ขอแยกเป็น 2 ประเด็นนะคะ

1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินบาท ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 32.98 บาท/ดอลลาร์ ในตลาดซื้อขายในประเทศ ขณะที่อัตราซื้อขายในตลาด offshore หรือต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 30 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นกลไลตลาดที่ถูกบิดเบือนไปเนื่องจากนโยบายสำรอง 30% ซึ่งหากนโยบายนี้ยกเลิกเมื่อไหร่ อาจทำให้ค่าเงินบาทลดลงไปอยู่ที่ระดับ 30 บาท/ดอลลาร์ได้

2. ปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากปัญหาหนี้ที่เรียกว่า Sub Prime หรือ ลูกหนี้ที่เครดิตมีปํญหา จะส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และภาคการธนาคาร,การลงทุน จนอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ หากมาตรการการเงินของสหรัฐที่ออกมาไปไม่สามารถแก้ปัญหาได้ (ตั้งแต่ต้นปี 2551 สหรัฐลดดอกเบี้ยมาแล้ว 1.25% และอาจต้องปรับลดลงอีกในการประชุมครั้งต่อไป)   

หากพิจารณาทั้ง 2 ปัจจัย ถ้าส่งลูก-หลานไปเรียนก็ต้องคิดหนักๆๆ เพราะค่าเงินที่ดูเหมือนจะจ่ายน้อยลง แต่เศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่ดี ภาคธุรกิจแย่ โดยเฉพาะนักเรียนไทยที่ต้องอาศัยชั่วโมงทำงานในสหรัฐ เพื่อจ่ายค่ากินค่าที่พัก อาจไม่ได้งาน (เพราะคนสหรํฐก็ตกงาน) และเงินที่ส่งไปถ้าไม่สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ ก็เครียดกันหมดทั้งคนเรียน ทั้งคนส่งเสีย

แต่ถ้าคุณมีเงินสำรองมากพอต่อการรองรับต่อเหตุการณ์เศรษฐกิจที่อาจแย่มาถึงเงินในกระเป๋า และลูก-หลานคุณได้มหาวิทยาลัยที่ดี มีชื่อเสียง และคณะที่เป็นที่ต้องการของตลาดงานในอนาคต (ไม่ใช่มหาวิทยาลัยห้องแถว) ดิฉันก็คิดว่าการลงทุนต่อการศึกษาย่อมคุ้มค่าแน่นอนค่ะ