ถ้าคุณ Ping หมายถึง ดวงเมืองที่อยู่คอลัมน์ซ้ายของหน้าเว็บ บทความเหล่านั้นเป็นบทความที่ อ.วิโรจน์เคยเขียนลงในหนังสือต่างๆเมื่อ 1-2 ปีก่อน เป็นการพยากรณ์ไปข้างหน้าทั้งนั้นล่ะครับ เพียงแต่เวลาผ่านไป บทความเหล่านี้ก็กลายเป็นของเก่า รวมถึงตอนนี้อาจารย์ก็เลิกเขียนไปประมาณปีนึงแล้ว เลยไม่มีบทความเพิ่มเติมครับ

ที่บทความยังค้างในเว็บเพจอยู่ ก็เพราะว่าอาจมีนักศึกษาโหราศาสตร์สนใจอ่านบทความเก่า แล้วแกะตามดูว่า อ.วิโรจน์พยากรณ์มาจากอะไรครับ พวกผมเองตอนเรียนก็แกะรอยวิธีพยากรณ์ของอาจารย์ตามบทความเหล่านี้ครับ

ตอนนี้ อ.วิโรจน์ ไม่ได้เขียนดวงเมืองเศรษฐกิจเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนแล้ว มีแต่เขียนเป็นบทความนานๆครั้ง ตามโอกาสที่เห็นว่ามีประเด็นที่น่าสนใจ ในบทความเหล่านั้น ก็จะมีทั้งการย้อนอดีตเพื่อให้เห็นปัจจัยทางโหราศาสตร์ที่ส่งผล และการพยากรณ์ไปข้างหน้าอยู่แล้วครับ ลองอ่านดูในคอลัมน์ โหราศาสตร์บ้านเมือง ดูครับ

คิดไปมาแล้ว หากทำให้คนที่เพิ่งเข้าเว็บนี้ เห็นแล้วงงๆ สงสัยพวกผมต้องจัดกลุ่มบทความเหล่านี้ไปอยู่ในคลังบทความเก่าๆแยกต่างหากอีกทีมังครับ

ผมได้จัดกลุ่มบทความใหม่แล้วนะครับ ใครสนใจดูคำพยากรณ์ดวงเมืองเศรษฐกิจรายเดือนหรือรายสัปดาห์ที่อ.วิโรจน์เคยเขียนช่วงปี 2550-2552 ก็เข้าไปดูได้ที่ "คลังบทความดวงเมืองเศรษฐกิจ 2550-2552" ดูที่เมนูในคอลัมน์ทางซ้ายมือก็ได้ อยู่บรรทัดสุดท้ายของกลุ่มบทความครับ

ขออธิบายเพิ่มจากที่ Pallas ได้อธิบายไว้ ดังนี้ครับ

แต่เดิมมีความคิดที่จะเขียนให้ได้ต่อเนื่องตลอดเวลา แต่ระยะหลังที่ห่างหายไป เนื่องจาก เห็นว่า ลูกศิษย์และมีผู้ที่สนใจท่านอื่นๆก็เขียนกันบ้างแล้ว และอยากให้คนรุ่นหลังได้แสดงความสามารถกันบ้าง เป็นการเปลี่ยนแนวทางการเขียนให้หลากหลาย และอีกประการหนึ่ง ช่วง 2 ปีที่แล้ว บรรยากาศของประเทศ ผมเห็นว่าอยู่ในช่วงที่มีปัญหาอ่อนไหว เหมือนอย่างเช่นที่เห็นในปีนี้ ดังนั้นจึงงดเขียน ด้วยเหตุผลของความเหมาะสมแก่สถานการณ์ แต่ถ้าผู้ที่เข้ามาอ่าน ได้อ่านบทความต่างๆที่ผมเขียนเอาไว้ แม้กระทั่ง เมื่อผมไปบรรยายในโอกาสพิเศษ ก็มีการนำมาเขียนไว้บ้างก็พอจะเป็นแนวทางบางประการได้ และบางเรื่องเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างอ่อนไหว จึงไม่เขียนดีกว่า

ต่อข้อสงสัยของผู้ตั้งกระทู้ ในประเด็น "แต่ว่าอย่างน้อยก็พอจะรู้ทิศทาง  หากว่าอยากจะลงทุน หรือทำธุรกิจอะไรที่ต้องสัมพันธ์กับดวงเมือง และการเมืองเศรษฐกิจค่ะ" นั้น ขอแนะนำว่า หากคุณเป็นผู้ที่ต้องการลงทุนอย่างจริงๆจังๆแล้ว ผมขอไม่แนะนำให้นำเอาความเห็นจากบทความเหล่านี้นำไปประกอบการพิจารณา เพราะการเขียนบทความดวงเมืองนั้นเป็นการเขียนถึงภาพรวม ซึ่งไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่ดวงชะตาของผู้ใด และอาชีพใดๆ เพราะในอาชีพเดียวกัน ถ้าเจ้าชะตาดวงดี ก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าดวงไม่ดี โอกาสเสียหายก็มีมากกว่า เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ ผมขอแนะนำว่า ควรปรึกษานักโหราศาสตร์ที่คุณเชื่อถือจะดีกว่าครับ

อาจารย์ วิโรจน์ ก็มีความกรุณา ให้ "ลูกศิษย์และมีผู้ที่สนใจท่านอื่นๆเขียนกันบ้าง"

แต่พวกเขาจะเขียน ในภาษาที่ใช้ศัพท์ทางด้านศาสตร์นี้มากเกินไป จนผู้อ่านที่ไม่ได้ศึกษาด้านนี้ อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง ทำให้เขาโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม

ดังนั้น น่าจะ มีสรุปสักประโยค เป็นภาษาชาวบ้าน ก็จะทำให้ท่านที่เข้ามา เยี่ยมชม ประทับใจได้บ้างบ

การเรียนรู้นั้น เราต้องเรียนทั้งผิด และถูก เพื่อจะได้รู้ว่า ถ้ารู้ว่าผิดแล้วก็จะได้แก้ไข  และประการสำคัญจะช่วยให้ผู้อื่นได้รู้ด้วยว่า สิ่งใดผิด หรือถูก และจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง ไม่นำสิ่งที่ผิดไปใช้อีก และนำสิ่งที่ถูกต้องไปพัฒนาใช้ต่อไป นี่คือข้อแตกต่างระหว่างคนในประเทศที่พัฒนาแล้วกับคนในประเทศที่ยังไม่พัฒนา คือ คนในประเทศที่พัฒนาแล้วจะนำความรู้ที่ถูกต้องไปพัฒนาต่อ เพราะมีการบันทึกข้อมูลความรู้ทั้งที่ถูกต้องและความรู้เรื่องความผิดพลาดมาใช้ศึกษา เขาถึงสามารถพัฒาไปได้ไกลซึ่งแตกต่างกับประเทศที่ด้อยกว่า เพราะคนขาดความรู้ทั้ง 2 ด้านมาศึกา และพัฒนา

นักโหราศาสตร์ กับนักศึกษาโหราศาสตร์ก็ต้องเรียนรู้ ผมเองก็ยังต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่า เป็นอาจารย์สอนแล้วจะไม่ต้องเรียนรู้เพิ่ม ในความเป็นจริงแล้ว ผมเรียนรู้ตลอดเวลา เรียนรู้ทุกสาขาวิชา เพื่อให้ตัวเองได้พัฒนาทันกับการเปลี่ยนแปลงไปด้วย

วิธีการนำเสนอบทความ ความเห็นของหลายๆคนที่ปรากฎในเวบบอร์ดต่างๆก็เป็นการแสดงความเห็นของแต่ละบุคคลที่เราต้องเคารพความเห็นของผู้นั้นด้วย  ความเห็นหรือข้อเสนอของคุณ pisit เป็นความเห็ที่น่าสนใจครับ การที่นักโหราศาสตร์หรือนักศึกษาโหราศาสตร์มาเสนอข้อคิดเห็นใดๆน่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง

อาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์ ท่านสอนเสมอว่า เวลาที่คนมาให้เราตรวจดวงชะตานั้น สิ่งที่ผู้พยากรณ์จะต้องกระทำคือ แปลภาษาดาวให้เป็นภาษาคน เพราะผู้ที่มารับคำพยากรณ์ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องของโหราศาสตร์ ภาษาดาวเป็นเรื่องของโหร แต่โหรามีหน้าที่แปลความหมายของดาวให้คนทั่วไปรู้และเข้าใจ ปัญหาประการหนึ่งของผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์ ก็คือ การเลือกใช้ความหมายของดวงดาวให้เป็นภาษาที่คนเราใช้กัน เพราะปัจจัยทางโหราศาสตร์สามารถแปลความหมายได้หลากหลาย  แต่ ทุกความหมายนั้นจะต้องอยู่ในหลักปรัชญาของดวงดาวนั้นๆ

ประการสำคัญ การเคารพความเห็นของกันและกัน นักโหราศาสตร์ก็เหมือนบุคคลในวิชาชีพอื่นๆที่ แม้จะเรียนในวิชาเดียวกัน แม้แต่เรียนมาจากอาจารย์คนเดียวกัน แต่เมื่อแปลความหมาย ก็ยังเลือกใช้ความหมายที่แตกต่างกัน และสิ่งสำคัญที่สุด คือตัวของนักโหราศาสตร์เอง มีแนวคิดพื้นฐาน มีความเข้าใจในบริบทของเรื่องนั้นๆเป็นอย่างไร เช่น หากจะมีคำถามเรื่องความรัก ว่าจะเลือคนไหนดี  หรือเลือกจะแต่งงานหรือไม่แต่งงานดี  หมอดูบางคนก็เอาประสบการณ์ที่เลวร้ายของตนเองมาชี้แนะเลยว่า อย่าแต่งงานเลย เดี๋ยวจะเจอความทุกข์ แต่ถ้าไปถามหมอดูอีกคนหนึ่งที่ยังไม่แต่งงาน ก็อาจจะได้คำตอบที่แตกต่างกัน

ก็ยกตัวอย่างมาเท่านี้ก่อนครับ

....แกะดอกออกแล้วอ๋อ     คนทึ่ง
..เดินหน้ามึนล้มตึง            เงื่อนเพียบ
..ทายถูกคนตะลึง             ชมเก่ง
..พลาดมาฟ้ากินเรียบ         ก่นว่า   เสี่ยงเอา?