วิโรจน์ กรดนิยมชัย
24 ตุลาคม 2552
บทความนี้ ผมนำเสนอเป็น 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 เป็นข้อความบางส่วนจากหนังสือ ตาดูดาว เท้าติดดิน ของ วัลยา สำนักพิมพ์ มติชน เพื่อนำเสนอสิ่งที่ ทักษิณ ชินวัตรเคยให้ข้อมูลเอาไว้ก่อนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เห็นแนวความคิดของคนๆหนึ่งที่เหมือนบุคคลทั่วๆไปที่มีจิตใจรักประเทศ และมีเจตนาดีต่อประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง สำหรับอ่านประกอบเพื่อขยายความในส่วนที่ 2
ส่วนที่ 2 จะเป็นการวิเคราะห์ดวงชะตาตามหลักโหราศาสตร์ยูเรเนียน โดยพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน และที่กำลังจะเป็นไปในอนาคต บทความนี้จะไม่มีข้อสรุป แต่ทว่า เนื้อหาของบทความจะสรุปโดยตัวเองอยู่แล้ว
ส่วนที่ 1 ข้อความบางส่วนจากหนังสือ ตาดูดาว เท้าติดดิน
บทเกริ่นนำ
แม่ : แม่บ้านชนบทธรรมดาคนหนึ่ง ชีวิตเรียบง่าย ไม่ได้เรียนหนังสือสูงนัก โลกของแม่มีเพียงครอบครัวเท่านั้น สำคัญที่สุด
จำไว้นะลูก ถ้าฐานะยังไม่ดีจริงๆ อย่าเล่นการเมือง
เล่นการเมืองต้องเสียสละมาก
ดูอย่างพ่อสิ ต้องเสียทั้งเงิน ทั้งเวลา แล้วยังเดือดร้อนครอบครัวอีก
ปีนั้นเป็นปี 2513 เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินคำเตือนเกี่ยวกับเรื่องการเมืองจากแม่ของผม ซึ่งแม่เป็นแม่บ้านชนบทธรรมดาคนหนึ่ง ชีวิตเรียบง่าย ไม่ได้เรียนหนังสือสูงนัก โลกของแม่มีเพียงครอบครัวเท่านั้น สำคัญที่สุด
แม่บอกกับผมคราวที่ไปเยี่ยมบ้านที่เชียงใหม่ช่วงปิดเทอม ราวจะพยายามชี้ให้ผมเห็นอีกด้านหนึ่งของตำแหน่งผู้แทนฯอันโก้ของพ่อ ฮีโร่ของผม ผู้ซึ่งเพิ่งได้เป็น สส. เชียงใหม่หมาดๆ จากการเลือกตั้งครั้ง 10 กุมภาพันธ์ 2512 สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี
บางทีเงินไม่พอ ต้องกลับมาเอาที่บ้านอีกนะลูก แม่ต้องแอบๆไว้บ้าง เพราะไม่อย่างนั้น จะไม่มีเงินส่งให้ลูกเรียน
แม่เคยเขียนจดหมายมาระบายกับผม ภายหลังพ่อสอบเป็นผู้แทนฯสมัยที่สอง และผมกำลังเรียนปริญญาโทอยู่ต่างประเทศ
ผม ไม่ค่อยสบายใจนัก คำเตือนของแม่จึงฝังใจมาถึงทุกวันนี้
พ่อ : ฮีโร่ และต้นแบบการดำเนินชีวิต
การทำธุรกิจในแบบของพ่อมีช่องโหว่มากเกินไป
พ่อวิ่งไปข้างหน้าแต่ลืมข้างหลัง ไม่ทันได้คิดสร้างทายาทขึ้นมารับช่วงต่อ
ไม่มีคนคอยดูแลรายละเอียดในสิ่งที่พ่อบุกไว้ และวิ่งเร็วเกินไปจนไม่มีใครฉุดอยู่
เหมือนรถไฟที่เครื่องมันแรงเกิน พอไปถึงทางโค้งรั้งไว้ไม่ไหว มันก็ตกราง
ในที่สุดไม่ถึง 10 ปี กิจการของพ่อก็ค่อยๆลดลง
จนเหลือแต่โรงหนังศรีวิศาล และที่ดินนิดหน่อย
กระทั่งวัยล่วงเลยมากว่า 70 ปี
ผมเห็นว่าพ่อเหนื่อยมามากแล้วควรพักบ้าง
จึงชวนพ่อมาอยู่บ้านสวนนนทบุรี ซึ่งผมจัดไว้ให้
พ่อดูมีความสุขมาก เพราะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ
ทำสวน ปลูกดอกไม้ ตามความชอบของพ่อ และสิ้นลมอย่างสงบเมื่อปี 2540
จากไปโดยไม่ทิ้งทรัพย์สินเงินทองไว้ให้ ไม่มีกิจการใหญ่โตให้ลูกหลานสืบช่วงต่อ
เหลือไว้แต่มรดกทางความคิด และจิตวิญญาณ ซึ่งดูเหมือนผมจะได้รับมากกว่าใคร
บทที่ 3 นักเรียนนายร้อย หน้า 53
1. ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ 2. ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้
3. ตายเสียดีกว่าละทิ้งหน้าที่
หนทางไปสู่เกียรติศักดิ์จักประดับดอกไม้หอมหวนชวนจิตไซร้ ไป่มี
..... เป็นปรัชญาซึ่งผมยึดมั่น และสำนึกเสมอว่า
เป็นคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับ
จากชีวิตนักเรียนเตรียมทหาร กับ นักเรียนนายร้อยตำรวจ
ความเป็นปึกแผ่นของนักเรียนทหาร ตำรวจ ไม่ว่าในหมู่เพื่อนหรือกลุ่มพี่น้อง จะถูกหลอมรวมโดยอุดมการณ์สุดยอดคือ เสียสละ พลีชีพ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งมิใช่เพียงปฏิญาณท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่มีประสบการณ์ภาคสนาม แสนทรหด เป็นเบ้าหลอมชั้นดี
แนวทางแก้ปัญหาของผมคือ ทำเป็นตัวอย่าง ถึงลูกตอนอืดอาดอิดออดเพียงไร เราในฐานะหัวหน้าต้องลุย ทำให้เห็นก่อนเสมอ
หมากตัวแรก : ซื้อใจ
......... ความจริงการเป็นหัวหน้าตอนจะได้รับสิทธิพิเศษบ้างคือ อยู่ดึกได้ จัดเวรได้ สั่งการลูกตอนได้ในระดับหนึ่ง แต่ผมไม่นิยมอำนาจ ผมว่าวิธีที่ดีที่สุดน่าจะเป็น ซื้อใจ หรือช่วยเหลือเพื่อนเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะให้ลอกการบ้าน การติว หรือจิปาถะอื่นๆ
นักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกับผมก็มี วันชัย ศรีนวลนัด, วงกต มณีรินทร์, สุรสิทธิ์ สังขพงษ์, เสวก ปิ่นสินชัย, จุมพล มั่นหมาย เป็นต้น
ต่อมาผมเป็นประธานสโมสรของรุ่น การเกื้อกูลเพื่อนก็ทำได้มากขึ้น เช่น โรงเรียนนายร้อยจะมีการจัดหนังมาฉายให้นักเรียนดูทุกวันพุธ แทนที่จะใช้หนังเดิมๆ ผมจะคอยวิ่งไปหาหนังดีๆ ใหม่ๆ มาฉายให้เพื่อนดูเสมอ โดยอาศัยประสบการณ์ และสายสัมพันธ์ ตั้งแต่ครั้งช่วยพ่อดูแลโรงหนังศรีวิศาล ........ และตำแหน่งของผม สามารถออกนอกโรงเรียนได้ ขณะที่เพื่อนนักเรียนทั่วไปออกไม่ได้
การวิ่งรอกไปมา ซื้อขายของนี่เองเป็นเหตุให้ผมได้รับสมญาใหม่ว่า ไอ้ตั้ง ซึ่งผมได้ยินทีไรจะฉุนทันที เพราะเพื่อนๆมันดันล้อเลียนว่าคล่องเหมือนอาแป๊ะคนหนึ่งชื่อตั้ง ที่รับจ้างถ่ายรูปในโรงเรียน และเดี๋ยวนี้ถ้ามาเรียกอีก ผมก็คงจะโกรธเหมือนเดิม ฉะนั้น จึงประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า อย่าลองดีดีกว่านะโว๊ย เพื่อเอ๋ย!
วิญญาณการปกป้องแผ่นดินและประชาชนจะซึมซับผ่านประสบการณ์จริงเข้าสู่จิตวิญญาณของพวกเราเอง ดังนั้น เวลาที่อดีตนักเรียนทหารพูดคุย ขอร้องกันว่าให้เสียสละเพื่อประเทศ เราก็จะเข้าใจความรู้สึกซึ่งกันและกันดีว่าหมายความลึกซึ้งเพียงไร เช่นเดียวกับเมื่อคราว พี่จิ๋ว หรือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯ ขอให้ผมรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในการปรับ ครม. ครั้งสุดท้าย โดยยกความจำเป็นของชาติเป็นเหตุผลนั้น ผมจึงยากจะปฏิเสธได้
1.ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ 2. ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้
3. ตายเสียดีกว่าละทิ้งหน้าที่
หนทางไปสู่เกียรติศักดิ์จักประดับดอกไม้หอมหวนชวนจิตไซร้ ไป่มี
อะไรที่เห็นว่าช่วยประเทศชาติได้ก็ต้องทำ และทำแล้วห้ามแพ้ งานยาก งานใหญ่แค่ไหน ก็ต้องทำให้ได้ แม้ผมจะพ้นรั้วโรงเรียนนายร้อยมา 25 ปีเต็มแล้ว แต่ถ้อยความเหล่านี้ยังเป็นคติประจำใจเสมอ
ส่วนที่ 2 การวิเคราะห์ดวงชะตาตามหลักโหราศาสตร์ยูเรเนียน : สำหรับปี 2552-2553
เจ้าชะตาเกิด 26 กรกฎาคม 2492 จังหวัดเชียงใหม่ เวลาเกิด ไม่ทราบ (แต่ในการวิเคราะห์นี้ได้ปรับเวลาเกิดโดยใช้เหตุการณ์การปฏิวัติเมื่อ 19 กันยายน 2549 เป็นปัจจัยในการกำหนดเวลาเกิด และเปรียบเทียบกับเหตุการณ์อื่นๆ เพื่อยืนยันเวลาเกิดจากการคำนวณ)
1. ดวงชะตากำเนิด
MC+HA-NE = SA = NO เมอริเดียน+ฮาเดส-เนปจูน = เสาร์ = ราหู
ชีวิตที่เป็นทุกข์ จะประสบความกลัดกลุ้มเนื่องเพราะความผิดพลาดหรือถูกหลอกลวง ชีวิตที่ขาดความมั่นคง จะสูญสิ้นความหวังในครั้งสุดท้าย และเมื่อถึงที่สุดแล้วฉันกำลังจะจมน้ำตาย
2. ดวงจรสุริยยาตร์ V1
MC+HA-NE v1 = SUr (เมอริเดียน+ฮาเดส-เนปจูน) จรสุริยยาตร์ = อาทิตย์กำเนิด
วันเวลาของความกลัดกลุ้มเพราะความผิดพลาดหรือความหลอกลวง ชีวิตขาดความมั่นคง และหมดสิ้นความหวัง ชีวิตที่อยู่ในห้วงของทุกขเวทนา สุดท้ายนี้ฉันกำลังจะจมน้ำตาย
3. ดวงทินวรรษ : ดวงชะตาประจำวันเกิด ปี 2552-2553
MC+HA-NE t = SUr (เมอริเดียน+ฮาเดส-เนปจูน) จร = อาทิตย์กำเนิด
ช่วงเวลาแห่งปีของความกลัดกลุ้ม เนื่องเพราะการประทำที่ผิดพลาด หรือถูกหลอกลวง ชีวิตนี้รู้สึกได้ถึงความไม่มั่นคง และหมดสิ้นความหวัง ชีวิตที่อยู่ในห้วงของทุกขเวทนา สุดท้ายนี้ฉันกำลังจะจมน้ำตาย
4. จันทร์เพ็ญ 30 มีนาคม 2553
Mat = SUr อังคารจร = อาทิตย์กำเนิด
ความยุ่งยาก หรือการเจ็บป่วยของเจ้าชะตา
SA + MA URt = MOr (เสาร์ + อังคาร มฤตยู) จร = จันทร์กำเนิด
ทำให้เกิดการพลัดพรากในทันทีทันใด พลัดพรากหรือถึงแก่กรรมอย่างทารุณ ถึงแก่กรรม โดยฉับพลัน
5. อมาวสี 14 เมษายน 2553 วันสงกรานต์
MAt = MCt = MOr อังคารจร = เมอริเดียนจร = จันทร์กำเนิด
ความยุ่งยากเกี่ยวกับสถานะทางสังคมที่มีผลกระทบต่ออารมณ์และความรู้สึก
MA+SA-NOt = NOr =SAr (อังคาร + เสาร์ ราหู)จร = ราหูกำเนิด = เสาร์กำเนิด
พิธีศพของบุคคลที่ผูกพันกัน มีผลทำให้ต้องพลัดพรากจากเครือญาติ
หมากตัวสุดท้าย
การปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 หากยังจำกันได้จะเห็นความพยายามของทักษิณ นับตั้งแต่รู้ตัวว่ากำลังถูกปฏิวัติ ทักษิณ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อำนาจกลับคืนมา (สู้แบบชาวราศีสิงห์ คือไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ มุ่งเอาชนะเพียงอย่างเดียว) แม้ว่า หลายครั้ง เกือบจะสำเร็จ ซึ่งตรงกับคำปฏิญาณในข้อที่ 1 แต่ทุกอย่าง และทุกครั้งก็ได้เพียงแค่ เกือบจะ
การที่ ทักษิณ ชินวัตร สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน นรต.10 ไว้ตั้งแต่สมัยเรียนเตรียมทหารด้วยกันมานั้น เปรียบได้กับหมากตัวแรกที่ทักษิณ ชินวัตร ได้ สร้าง และเก็บไว้ในใจ ส่วนบรรดานักการเมือง และบุคคลต่างๆที่ ทักษิณ ชินวัตร ได้เกื้อกูลในช่วงสร้างอำนาจทางการเมืองนั้น เปรียบได้กับหมากตัวอื่นๆที่ใช้สำหรับเล่นระหว่างเกม ซึ่งต่างก็ได้รับใช้ และทดแทนกันไปจนหมดตัวที่จะเล่นได้อีกต่อไป
หลังจากที่ได้พยายาม ที่จะทำอะไรให้ได้ ตามคำปฏิญาณข้อที่ 1 ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อรักษาคำปฏิญาณข้อที่ 3 ตามเสียดีกว่าละทิ้งหน้าที่ มาทุกสิ่งอย่างแล้ว แต่เมื่อไม่ประสบผลสำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้ วันนี้วันที่ทักษิณ ชินวัตร กำลังเลือกที่จะเล่นเกมนี้ด้วยหมากตัวสุดท้าย ซึ่งก็คือหมากตัวแรกนั่นเอง ด้วยการส่งเพื่อนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 เข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยในเดือนตุลาคม 2552 เท่ากับเป็นการประกาศว่า นี่คือหมากตัวสุดท้ายที่จะเล่นในเกมแห่งอำนาจของชีวิตนี้เพื่อให้บรรลุคำปฏิญาณ
1. ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ 2. ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้
3. ตายเสียดีกว่าละทิ้งหน้าที่
หนทางไปสู่เกียรติศักดิ์จักประดับดอกไม้หอมหวนชวนจิตไซร้ ไป่มี
..... เป็นปรัชญาซึ่งผมยึดมั่น และสำนึกเสมอว่า
เป็นคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับ
จากชีวิตนักเรียนเตรียมทหาร กับ นักเรียนนายร้อยตำรวจ
ความเป็นปึกแผ่นของนักเรียนทหาร ตำรวจ ไม่ว่าในหมู่เพื่อนหรือกลุ่มพี่น้อง จะถูกหลอมรวมโดย อุดมการณ์สุดยอดคือ เสียสละ พลีชีพ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งมิใช่เพียงปฏิญาณท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง
.
วัฏฏะ การเริ่มต้น คือการสิ้นสุด
กิจกรรมใดๆที่เริ่มต้นขึ้นใหม่ แสดงว่า ต้องมีกิจกรรมที่มีอยู่แล้วได้สิ้นสุดลง เช่น การเคลื่อนตัวของรถยนต์ที่จอดนิ่งอยู่กับที่ เมื่อเริ่มขับเคลื่อนจากที่จอดนิ่งอยู่ แสดงว่า การจอดนิ่งนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว และเมื่อสิ้นสุดการเคลื่อนที่ ก็จะกลับไปสู่การหยุดนิ่งอีกครั้งหนึ่ง
เราขว้างลูกบอลออกไปด้วยแรงมากเท่าใด ลูกบอลก็จะเคลื่อนตัวไปด้วยความแรงเท่านั้น เมื่อไปกระทบกับผนังแล้วก็จะกระดอนกลับมาสู่เราด้วยความแรงเท่ากับที่เราได้ขว้างออกไป
หรือ การคลอดบุตร หมายถึง การที่ทารกที่มีชีวิตเติบโตอาศัยอยู่ในครรภ์มารดา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็สิ้นสุดการอาศัยอยู่ในครรภ์มารดา และคลอดออกมาใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในโลก และเมื่อทารกเติบใหญ่เป็นบุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกจนถึงเวลาหนึ่ง เมื่อสิ้นสุดการมีชีวิต กายที่ไม่มีชีวิตก็จะกลับคืนสู่โลก โดยผ่านทาง พระแม่ธรณี หรือพระแม่คงคา ซึ่งถือเป็นมารดาของโลก
วัฏฏะของมนุษย์ก็จะวนเวียนเช่นนี้ ไปโดยไม่สิ้นสุด
ชีวิตเริ่มต้นอย่างไร ก็จะสิ้นสุดลงอย่างนั้น
การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า 2544 - สุขสันต์ วันสงกรานต์ 2553