การศึกษาแสดงให้เห็นว่าไม่มีประโยชน์ทางการรับรู้อย่างมีนัยสำคัญของการรับประทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียนโดยไม่คำนึงถึงปริมาณแคลอรี่

ในการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ใน วารสาร Preventive Medicine เก มบา  คาร่  า Reportsนักวิจัยได้ทำการทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม (RCT) เพื่อตรวจสอบว่าการรับประทานอาหารเมดิเตอร์เรเนียน (MedDiet) โดยมีหรือไม่มีการจำกัดปริมาณแคลอรี่สามารถปรับปรุงความรู้ความเข้าใจได้หรือไม่

การศึกษา: ผลกระทบของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนและอาหารเมดิเตอร์เรเนียนบวกกับการจำกัดแคลอรี่ต่อความรู้ความเข้าใจ วิถีชีวิต และสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด: การทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม  เครดิตรูปภาพ: ElenaEryomenko/Shutterstock.comการศึกษา:  ผลกระทบของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนและอาหารเมดิเตอร์เรเนียนบวกกับการจำกัดแคลอรี่ต่อความรู้ความเข้าใจ วิถีชีวิต และสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด: การทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม เครดิตรูปภาพ: ElenaEryomenko/Shutterstock.com

พื้นหลัง
โรคอ้วน ทางเลือกในการดำเนินชีวิต รวมถึงการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย และโรคร่วมของคาร์ดิโอเมทาบอลิซึม จะเพิ่มความเสี่ยงของการลดลงของความรู้ความเข้าใจ จนถึงปัจจุบัน ไม่มียารักษาโรคที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ชะลอ หรือจัดการกับความบกพร่องทางสติปัญญา

อย่างไรก็ตาม การศึกษาแสดงให้เห็นว่า MedDiet และการลดน้ำหนักให้ประโยชน์ต่อความรู้ความเข้าใจ และการรวมทั้งสองอย่างนี้อาจช่วยเพิ่มการทำงานของความรู้ความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม RCTs แสดงผลที่ไม่สอดคล้องกัน โดยมีทั้งผลกระทบที่ดีหรือน้อยของโภชนาการต่อความรู้ความเข้าใจ ซึ่งรับประกันการวิจัยเพิ่มเติม

เกี่ยวกับการศึกษา
ใน RCT แบบสามแขนในปัจจุบัน นักวิจัยได้ประเมินประโยชน์ทางการรับรู้ที่เป็นไปได้ของการปฏิบัติตาม MedDiet โดยมีหรือไม่มีการจำกัดปริมาณแคลอรี่

การศึกษาวิจัยด้านการสร้างอาหารและการรู้คิดได้ดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม 2017 ถึงตุลาคม 2020 โดยมีชาวเมืองชิคาโก 185 คน อายุระหว่าง 55 ถึง 85 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (86.0%) ที่เป็นโรคอ้วน ผู้เข้าร่วมได้รับการสุ่มจัดสรรให้กับ MedDiet โดยมีการจำกัดแคลอรี่ (n=72, การจำกัด 25.0% kcal สำหรับการลดน้ำหนัก 5.0 ถึง 7.0%), กลุ่ม MedDiet เพียงอย่างเดียว (n=72) หรือกลุ่มควบคุม (n=36)

ระยะเวลาของมาตรการควบคุมอาหารคือ 8 เดือน รวม 26 ครั้งสำหรับกลุ่มทดลองและ 25 ครั้งสำหรับกลุ่มควบคุม และดำเนินการประเมินติดตามผลเป็นเวลากว่า 14.0 เดือน

ผลการศึกษาหลักคือการเปลี่ยนแปลงคะแนนการประเมินความรู้ความเข้าใจสำหรับความสนใจ ข้อมูล และการประมวลผล (AIP); การเรียนรู้ ความจำ และการจดจำ (LMR); และผู้บริหารระดับสูง (EF)

SLAS EU - ไฮไลท์จาก eBook ปี 2022 รวบรวมบทสัมภาษณ์ บทความ และข่าวสารชั้นนำในปีที่ผ่านมา
ดาวน์โหลดฉบับล่าสุด
ผลการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของคาร์ดิโอเมตาบอลิซึม และรูปแบบการใช้ชีวิต ทีมประเมินการบริโภคอาหารที่เป็นนิสัยโดยใช้แบบสอบถามความถี่อาหารของฮาร์วาร์ด (HFFQS) และประเมินกิจกรรมทางกายโดยใช้เครื่องวัดความเร่งแบบสามแกนที่สวมบนข้อมือข้างที่ไม่ถนัดเป็นเวลา ≥4.0 วัน และ ≥10.0 ชั่วโมงทุกวัน

เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิต ระดับทางซีรั่มของไลโปโปรตีน-โคเลสเตอรอลความหนาแน่นต่ำ (LDL-C) ไลโปโปรตีน-โคเลสเตอรอลความหนาแน่นสูง (HDL-C) โคเลสเตอรอลรวม ไตรกลีเซอไรด์ (TGs) อินซูลิน ไกลเคเต็ดเฮโมโกลบิน (HbA1c) , โปรตีน C-reactive ที่มีความไวสูง (hs-CRP) และวัดระดับน้ำตาลในตัวอย่างเลือดที่ผู้ป่วยให้มา

บุคคลได้รับคัดเลือกผ่านการนำเสนอในสถานบริการสำหรับผู้สูงอายุและการโฆษณาในละแวกใกล้เคียง และพวกเขาได้รับการตรวจทางโทรศัพท์และการตรวจร่างกายก่อนลงทะเบียนเรียน

บุคคลที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) ตั้งแต่ 30.0 ถึง 50.0 กก./ตร.ม. คะแนนคัดกรองการรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่สอดคล้องกัน ≤6.0 คะแนนการประเมินความรู้ความเข้าใจในมอนทรีออล (MoCA) ≥19.0 และผู้ที่พูดภาษาอังกฤษได้รวมอยู่ในการวิเคราะห์

ทีมงานไม่รวมบุคคลที่ไม่สามารถออกกำลังกายตามเครื่องคัดกรองกิจกรรมทางกาย EASY ค่า HbA1c ทางซีรั่มวิทยา >9.0 ที่การตรวจคัดกรอง และโรคร่วมที่สำคัญ เช่น ความผิดปกติของภูมิต้านทานผิดปกติหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ ปอด ไต และตับอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ บุคคลที่ใช้วาร์ฟาริน, ทุกข์ทรมานจากสภาวะทางจิตเวชขั้นรุนแรง, บุคคลที่มีประวัติการผ่าตัดลดความอ้วน, บุคคลที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างเป็นทางการพร้อมกัน และผู้ที่เข้าร่วมในกิจกรรมการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความรู้ความเข้าใจในช่วง 12.0 เดือนที่ผ่านมาไม่รวมอยู่ในการวิเคราะห์ . ผู้ที่ยึดติดกับ MedDiet ได้รับอัลมอนด์หนึ่งออนซ์และน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์สามช้อนโต๊ะทุกวัน

ทฤษฎีการกำหนดทางสังคมและความรู้ความเข้าใจทางสังคมถูกนำมาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตามสิ่งแทรกแซงในการศึกษา นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังผ่านการฝึกปฏิบัติจริง (การเตรียมอาหาร) และการฝึกสอนเรื่องอาหาร ทุกคนได้รับคำแนะนำให้ออกกำลังกายในระดับปานกลางถึงหนัก 150.0 นาทีต่อสัปดาห์ ผู้เข้าร่วมกลุ่มควบคุมได้รับจดหมายข่าวสุขภาพทั่วไปทุกสัปดาห์

ผลลัพธ์
การแทรกแซงด้านอาหารไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนน LMR, EF, AIP หรือ MoCA อย่างมีนัยสำคัญ ค่าเฉลี่ยของคะแนนที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปฏิบัติตาม MedDiet บวกกับการจำกัดแคลอรี่และการใช้ MedDiet เพียงอย่างเดียวคือ 6.30 คะแนนและ 4.80 คะแนนตามลำดับเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (+0.60 คะแนน)

ค่าเฉลี่ยการลดน้ำหนักของบุคคลในกลุ่ม MedDiet บวกการจำกัดแคลอรี่ กลุ่ม MedDiet เพียงอย่างเดียว และกลุ่มควบคุมคือ 4.60 กก. 2.60 กก. และ 0.60 กก. ตามลำดับ

การควบคุมอาหารไม่แสดงอิทธิพลที่มีนัยสำคัญต่อการออกกำลังกายและระดับตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของคาร์ดิโอเมตาบอลิซึม แม้ว่าระดับอินซูลินขณะอดอาหารที่ต่ำกว่าและค่าน้ำหนักตัวที่ต่ำกว่าจะสังเกตได้ในผู้เข้าร่วมกลุ่ม MedDiet ร่วมกับการจำกัดแคลอรี่เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่าไขมันในอวัยวะภายในลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เปอร์เซ็นต์ของไขมันในร่างกายทั้งหมดไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มหลังการแทรกแซง ผู้เข้าร่วมกลุ่มแทรกแซงทั้งสองกลุ่มมีการเข้าร่วมกลุ่มเท่ากัน และ 67.0% ของผู้เข้าร่วมการศึกษาเป็นโรคความดันโลหิตสูง

ข้อสรุป
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติตาม MedDiet โดยมีหรือไม่มีการจำกัดแคลอรี่ไม่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อความรู้ความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม การแทรกแซงของ MedDiet ช่วยลดความอ้วนและน้ำหนักตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ และปรับปรุงคุณภาพอาหาร

ประโยชน์ทางการรับรู้ของการปฏิบัติตาม MedDiet ที่มีหรือไม่มีการจำกัดปริมาณแคลอรี่อาจเกี่ยวข้องกับการป้องกันหรือชะลอความชราทางปัญญาทางพยาธิวิทยา แทนที่จะรักษาความชราทางปัญญาตามปกติ

อีกทางหนึ่ง ความแรงของผลกระทบอาจลดลงเนื่องจากการใช้คะแนนการประเมินความรู้ความเข้าใจที่แตกต่างกันแทนคะแนนรวมเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดตัวอย่างที่จำกัดและระยะเวลาสั้น ๆ ของสิ่งแทรกแซงอาจลดผลกระทบของสิ่งแทรกแซงด้านอาหารได้

การวิจัยเพิ่มเติมจะต้องดำเนินการโดยใช้การประเมินอาหารตามวัตถุประสงค์ ขนาดตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น และระยะเวลาแทรกแซงที่นานขึ้น เพื่อบัญชีสำหรับการเปลี่ยนแปลงในการบริโภคอาหารของรายการอาหารแปรรูปใน MedDiet