ReadyPlanet.com
dot
dot dot
dot
เกี่ยวกับเรา Horauranian.com
dot
bulletรำลึกถึง อาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์
bulletเจตนารมณ์
bulletติดต่อเรา
bulletโหราพยากรณ์
dot
บทความ
dot
bulletเกร็ดโหรน่ารู้
bulletเจาะลึกโหรา
bulletโหราศาสตร์บ้านเมือง
bulletBlog อ.วิโรจน์
bulletแนะนำตำรา
bulletไพ่ยิปซี จักรราศี (Celestial Tarot)
bulletกระดานถามตอบ
bulletคลังบทความดวงเมืองเศรษฐกิจ 2550-2552
bulletคลังกระทู้โหราศาสตร์ที่น่าสนใจ
dot
บทความน่าสนใจ
dot
bulletประเทศไทยหลังคดียึดทรัพย์ 2553
bulletReturn of Great Depression?
bulletChange! ผู้นำยุคใหม่ของโลก
bulletเรือนชะตาจันทร์ 28 เรือน
bulletโหราศาสตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์
bulletเลือกฤกษ์มงคลด้วยตนเอง
bullet6 ขั้นตอนเพื่อการดูหมออย่างคุ้มค่า
bulletชนะใจคนรัก 12 ราศี
dot
เว็บไซต์ที่น่าสนใจ
dot
bulletเพจ โหราศาสตร์ยูเรเนียน โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletโหราศาสตร์ยูเรเนียน โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletCelestial Strategist Blog
bulletBlog โหราเศรษฐกิจ
bulletเว็บไซต์ที่น่าสนใจ




รำลึกถึง อาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์ article

จากการที่ผู้เป็นเจ้าของเวบไซต์ www.horauranian.com ได้ขอให้ผมเขียนถึงอาจารย์ประยูร เพื่อที่จะนำขึ้นเวบไซต์ในวันเปิดการใช้งานเวบไซต์ “ตามฤกษ์” ผมเองในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งที่ได้ร่ำเรียนวิชาจากอาจารย์ และนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาต่อยอด และสืบทอดจากวันที่เริ่มเรียนมาจนทุกวันนี้ แม้ว่าจะเคยกล่าวถึงอาจารย์ประยูรไว้ในหลายๆที่ แต่ก็ไม่เคยมีการเขียนถึงอาจารย์อย่างเป็นกิจจะลักษณะเช่นนี้มาก่อน จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้เรียบเรียงสิ่งต่างๆที่มีอยู่ในตัวตนของผมบอกเล่าถึงอาจารย์เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้ไว้ แม้เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียว เพราะผมไม่ใช่ลูกศิษย์ที่จะเดินตามอาจารย์ไปทุกหนแห่ง ผมเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ในช่วง 6 ปีสุดท้ายของอาจารย์ และเป็นลูกศิษย์ที่สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมป์ เพียงแห่งเดียว

 

เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับ กราฟชีวิต หนังสือราคาถูกๆ เพียงเล่มละ 10 บาท พออ่านแล้ว ด้วยวัยที่อยากค้นหาความจริง อยากทดสอบ ผมก็เริ่มลองวิชาด้วยการพยากรณ์ให้กับเพื่อนๆในที่ทำงาน ได้รับคำตอบว่า “แม่น” ผมกำลังสนุกกับการทายกราฟ แต่วันหนึ่งผมก็คิดได้ว่า ผมอาจจะมีพรสวรรค์ทางนี้ ถ้ามีโอกาสได้เรียนวิชาโหราศาสตร์อย่างเป็นกิจลักษณะ คือมีอาจารย์สอนโดยตรง นับเป็นโชคดีของผมที่ “พี่มยุรี” ซึ่งทำงานที่เดียวกับผมเห็นผมมีความกระตือรือร้นอยากเรียนรู้ ก็บอกผมว่าพี่มยุรีก็เรียนโหราศาสตร์ แต่เป็น “โหราศาสตร์ต่างประเทศ”  ที่พี่มยุรีร่ำเรียนมานานหลายปีแล้ว ถ้าจำไม่ผิดก็ตั้งแต่ ปี 2519 โดยไม่ได้บอกว่าชื่อ “ยูเรเนียน” และสามารถเรียนได้ที่สมาคมโหรฯ ซึ่งผมก็ดั้นด้นหาว่าสมาคมโหรฯอยู่ที่ไหน และจะเปิดสอนเมื่อไหร่แล้วผมก็มาสมัครเรียนตามที่ต้องการ ขณะที่ผมมาสมัครเรียนโหราศาสตร์ที่สมาคมโหรฯนั้น ก็คงเหมือนหลายๆคนที่ตั้งใจเรียนโหราศาสตร์ไทย โดยผมคิดว่า โหราศาสตร์ต่างประเทศนั้น เอาไว้ก่อนดีกว่า ผมคงไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีแน่ ก็ให้เผอิญที่ห้องเรียนโหราศาสตร์ไทยเต็ม มีคนจองเรียนหมดแล้ว เหลือแต่วิชา โหราศาสตร์มาตรฐาน กับโหราศาสตร์ยูเรเนียน ให้เลือก ซึ่งผมต้องเลือกอะไรก็ได้สักอย่างหนึ่ง ในความคิดของผมนั้น ผมมักจะชอบเรียนรู้อะไรก็ตามจะต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐานเสียก่อน จึงเลือกสมัครเรียนวิชาลายมือ และโหราศาสตร์มาตรฐาน โดยยังไม่ได้ลงทะเบียนเรียนโหราศาสตร์ยูเรเนียน เพราะคิดว่าไม่อยากเรียนหลายอย่าง กลัวจะไม่รู้เรื่อง และอีกประการก็ไม่เคยคิดว่า ตัวเองจะเอามาใช้ประโยชน์อะไร ไม่เคยคิดว่าจะต้องไปเป็นหมอดู ต้องการเรียนรู้เพียงเพื่อต้องการหาคำตอบเรื่องราวของชีวิตของตัวเองว่า “คนเราเกิดมาทำไม” เป็นคำถามที่ผมหาคำตอบมานาน และหาคำตอบไม่ได้ แต่มาทุกวันนี้ แม้ผมจะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนแต่ผมก็ไม่ต้องการคำตอบอีกแล้ว เพราะผมรู้จักชีวิตมากกว่าที่ผมต้องการรู้เสียอีก ไม่ใช่เพราะผมเก่งกาจอะไร แต่เป็นเพราะผมได้มีโอกาสเรียนรู้วิชาที่ให้มากกว่าคำตอบที่ผมต้องการจากอาจารย์ที่ดีที่สุดท่านหนึ่ง และผมคงหาอาจารย์ที่เก่งกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

 

แบบอย่างของอาจารย์

 

วันที่ 30 มิถุนายน 2530 เป็นวันแรกที่ผมได้พบกับอาจารย์ประยูรเป็นครั้งแรกในชั่วโมงเรียนวิชาโหราศาสตร์มาตรฐาน ณ สมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ ลักษณะท่าทางอาจารย์เป็นคนใจดี มีเมตตา และมีวิธีการสอนที่น่าประทับใจและชวนติดตาม สังเกตได้จากผู้เรียนในชั้นเรียนล้วนแล้วแต่เป็นผู้อาวุโสทั้งสิ้น แต่ละท่านมีอายุมากกว่าผม และหลายท่านอาจจะมีอายุมากกว่าอาจารย์ด้วยซ้ำ ในปีนั้นผมไม่แน่ใจว่า อายุ 31 ปีของผมนั้น เป็นเด็กที่สุดในชั้นเรียนหรือเปล่า ทราบจากรุ่นพี่ๆในห้องเรียนว่า แต่ละท่านติดตามเรียนกับอาจารย์ไม่ต่ำกว่า 10 ปีกันทั้งนั้น ทุกคนจะติดตามเรียนกับอาจารย์ไปทุกหนแห่งที่อาจารย์ไปเปิดสอน ทุกคนจะมีความสุขที่ได้พบกันในวันเปิดเทอมอีกครั้งหนึ่ง สังคมในห้องเรียนนั้นมีแต่นักเรียนที่ดี คือ ทุกคนตั้งใจรับฟังการสอนจากอาจารย์ แม้จะฟังซ้ำๆๆๆๆๆ กันมาคนละหลายเที่ยวก็ตาม ไม่มีใครเบื่อที่จะฟังบทเรียนจากอาจารย์ เพราะเนื้อหาวิชาที่อาจารย์สอนนั้น จะเป็นเนื้อหาพื้นฐานสำหรับผู้ที่เริ่มต้นและไม่ต้องมีความรู้พื้นฐานอะไรมาก่อนเลย ผมเคยถามพี่มยุรี กับพี่ๆอีกหลายท่านว่า ไม่เบื่อหรือที่มาเรียนซ้ำทุกปี คำตอบที่ตรงกันคือ  “ไม่เบื่อ” แม้อาจารย์จะสอนพื้นฐานให้ซ้ำทุกปี ก็เปรียบเสมือนการย้ำพื้นฐานความรู้ให้แน่นโดยไม่ต้องไปอ่านหนังสือเอง และแต่ละปีอาจารย์จะมีเกร็ดต่างๆนำมาเล่าให้ลูกศิษย์ได้รับรู้ รวมทั้งกรณีศึกษาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เด่นในช่วงนั้นๆ ทำให้ได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ และได้เห็นตัวอย่างดวงชะตาทั้งของคน และดวงชะตาเหตุการณ์ ที่มีกรณีศึกษาแตกต่างกัน

 

อาจารย์จะมีลูกศิษย์ที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จอยู่ในแต่ละรุ่นที่แตกต่างกัน โดยอาจารย์จะจับประเด็นจากการซักถาม มีอยู่ปีหนึ่ง ขณะที่อาจารย์สอนเรื่องการพิจารณาเลขประจำตัวของผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่า กทม. ว่าพิจารณาจากอะไร ยังไง อยู่ๆก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งโพร่งขึ้นมาเลยว่า “อาจารย์ขา แล้วงวดนี้เลขอะไรดีคะ” ผู้ถามๆเพราะเจ้าตัวเป็นคนที่ชอบเล่นหวย อาจารย์ตอบง่ายๆว่า “โอ้ ถ้าผมสอนให้คุณเข้าใจในวิชาโหราศาสตร์ได้ รับรองได้ว่า คนอื่นๆต้องเข้าใจกันแน่ๆเลย” อาจารย์มักจะให้ลูกศิษย์ยึดถือไว้อย่างหนึ่งว่า ขณะที่กำลังสอนอยู่นั้น หากมีข้อสงสัยก็ควรเก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่มซักถาม เพราะจะทำให้ขัดจังหวะคนอื่นที่กำลังสนใจการสอนอยู่ ซึ่งผมคิดว่า คำเตือนของอาจารย์นี้เป็นพื้นฐานของ “ครู” ทุกวิชา ที่มักจะพบลูกศิษย์ที่ชอบถามนำหน้า วิชา แทนที่จะเรียนตามที่อาจารย์สอนให้เข้าใจก่อน แต่กลับเอาความสนใจส่วนตัวมาถามเพื่อต้องการประโยชน์ของตนโดยไม่คิดว่าจะเป็นการรบกวนสมาธิของผู้อื่นที่กำลังสนใจการสอนอยู่

 

ผมมีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์ประยูรตามอย่างรุ่นพี่ๆได้เพียง 6 ปี (6 เทอม) ถึงปี 2536ตลอดเวลาที่เรียนนั้น ผมโชคดีที่ไม่ต้องมีเรื่องให้คิดหรือรับผิดชอบมากนัก ผมใช้เวลาหลังเลิกงานทุกคืนอ่านทบทวนบทเรียนของอาจารย์ที่ผมจดลงสมุดทุกหน้าและทุกคืนตลอดเวลา ผมไม่รู้หรอก ว่าผมรู้และเข้าใจยูเรเนียนตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมรู้เพียงว่าผมสามารถคุยกับรุ่นพี่ได้แล้วก็พอใจแล้ว และวันนี้แม้เหตุการณ์ต่างๆจะผ่านมานานแล้วผมก็ยังอยากบอกว่า ผมยังอยากเรียนกับอาจารย์มากกว่าที่จะต้องมารับหน้าที่ต่อจากอาจารย์อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

 

อาจารย์กับเทคโนโลยี

 

                อาจารย์เป็นนายทหารสื่อสาร จึงมีพื้นฐานทางด้านอิเลคโทรนิคบ้าง เท่าที่ทราบและเคยเห็นอาจารย์มีคอมพิวเตอร์ใช้งานที่บ้านประมาณ 3 เครื่อง เครื่องพิมพ์ดีด และเครื่องโรเนียว อาจารย์น่าจะพิมพ์ตำราทุกวันศุกร์ แล้วก็โรเนียวเอง พอเช้าวันเสาร์ก็เอามาแจกให้นักศึกษาใช้เรียน ตลอด 6 ปีที่ผมเรียนผมได้รับแจกเอกสารมาตลอดโดยที่อาจารย์ไม่เคยเก็บเงินค่าเอกสารเลย ทำให้ลูกศิษย์จะได้เอกสารใหม่ล่าสุดทุกปี อาจารย์ใช้โปรแกรมที่ลูกศิษย์เขียนให้ และที่อาจารย์ร่วมพัฒนากับ อาจารย์พลตรีบุนนาค ทองเนียม คอมพิวเตอร์ที่ใช้สมัยนั้นเพิ่มเข้ามาในยุคแรกๆ ที่เป็นเครื่อง AT จอเขียว การประมวลผมดวงชะตาแต่ละดวงจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงในการพิมพ์ดวงชะตา 1 ดวง ประมาณ 40 หน้า นอกจากนี้ยังมีการเขียนโปรแกรมผูกดวงชะตาที่ทำงานบนเครื่องคิดเลข “ชาร์ป” ซึ่งนักศึกษาสมัยนั้นหลายคนพากันหาซื้อมาใช้งานกันมากมาย เรียกว่า ห้างเทพนคร ที่เป็นผู้แทนจำหน่ายรู้เลยว่าหากมีใครมาหาซื้อเครื่องคิดเลขรุ่นนี้จะรู้เลยว่าจะเอาไปใช้ดูดวงมากกว่าไปใช้งานอย่างอื่น นอกจากนี้ อาจารย์ให้ความเห็นว่าคอมพิวเตอร์จะมีพัฒนาการไปอีกไกล และวงการโหราศาสตร์ยูเรเนียนจะต้องพัฒนาโปรแกรมมาใช้งานต่อไป และสักวันหนึ่งเราคงได้เห็นตู้หยอดเหรียญสำหรับดูดวง หรือแม้กระทั่งการทำนาฬิกาข้อมือที่สามารถดูดวงชะตาได้ด้วย หลังจากนั้นประมาณปี 2538-2539 ลูกศิษย์ของผมที่สมาคมโหรฯได้โทรมาบอกผมว่า CASIO ได้ผลิตนาฬิการุ่นที่สามารถใช้ดูดวงได้มาจำหน่าย ผมจึงได้ติดต่อกับเซ็นทรัล เพื่อขอซื้อทั้งหมด ทราบว่า เซ็นทรัลเอามาจำหน่ายนานแล้วแต่ขายได้เรือนเดียว พอผมติดต่อไป เซ็นทรัลจึงรวบรวมมาให้ได้ประมาณ 20 กว่าเรือน ผมกับลูกศิษย์ในสมัยนั้นก็รวมเงินกันซื้อทั้งหมดมา ผมซื้อมาใช้งาน 1 เรือน เป็นนาฬิกาที่ใช้โปรแกรม HORARY ASTROLOGY สามารถบอกเหตุการณ์ประเภท “กาลชะตา”และการพยากรณ์ประจำวัน สามารถผูกดวงให้แสดงผลได้ 4 ดวง และแสดงผลตำแหน่งดาวต่างๆได้ด้วย นาฬิกาเรือนนี้ยังใช้งานได้จนถึงวันนี้ ผมเก็บนาฬิกาเรือนนี้เป็นที่ระลึก เพราะปัจจุบันนี้ผมไม่ค่อยได้ใช้นาฬิกา สิ่งที่อาจารย์พูดไว้ได้เป็นจริงเพียงแต่อาจารย์ไม่มีโอกาสได้เห็น

 

                แม้ว่าอาจารย์จะใช้คอมพิวเตอร์ในการพยากรณ์ดวงชะตา แต่ในชั่วโมงการเรียนการสอน อาจารย์ยังคงยึดหลักการคำนวณดวงชะตาด้วยมือ และสมอง คู่กับการใช้ปฏิทินโหราศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาทราบถึงที่มาที่ไปของวิธีการคำนวณ ถึงแม้สมัยนั้นหลายคนมีกำลังซื้อคอมพิวเตอร์ใช้ได้ก็ตาม แต่อาจารย์ถือว่า การเรียนรู้จำเป็นที่จะต้องรู้พื้นฐานที่มาของวิชาให้ครบถ้วน แต่เมื่อจะนำไป ใช้พยากรณ์ เรียกง่ายๆว่าเอาไปใช้ดูดวงเพื่อประกอบอาชีพ ก็อาจจะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยให้รวดเร็วขึ้น อาจารย์จะมีลูกค้ามาดูดวงที่บ้านเป็นประจำ ซึ่งหลายๆคนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคม และหลายๆคนมาเพื่อหาโปรแกรมและให้อาจารย์สอนเพื่อสำหรับไปเล่นหุ้น (ส่วนนี้ผมไม่รู้รายละเอียดมากนัก เพราะผมไม่ได้ใกล้ชิดกับอาจารย์มากถึงขนาดจะล่วงรู้ชีวิตในรายละเอียดของอาจารย์)

 

บทสรุป

 

                ผมเป็นลูกศิษย์ที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับอาจารย์ถึงขนาดที่จะเดินตามอาจารย์ไปตามที่ต่างๆ ผมเพียงแต่เป็นลูกศิษย์เฉพาะที่สมาคมโหรฯเพียงแห่งเดียว สิ่งต่างๆที่ผมรับรู้และนำมาเล่าถึงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ผมสัมผัสได้จากที่ได้รู้จักอาจารย์มาในช่วงที่เรียนกับอาจารย์มา 6 เทอม (30 มิถุนายน 2530 – มีนาคม 2536)ช่วงสุดท้ายของอาจารย์ตอนที่อาจารย์ป่วยและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล มีลูกศิษย์ท่านหนึ่งไปหาอาจารย์ที่บ้านและทราบว่าอาจารย์เข้าโรงพยาบาลจึงไปเยี่ยม และอาจารย์ฝากให้ตามผมให้ไปพบ ผมไม่รอช้าที่จะไปเยี่ยมดูอาการของอาจารย์ในทันทีที่ได้รับโทรศัพท์ ผมไปพบอาจารย์ในห้องผู้ป่วย เห็นอาจารย์นอนพักอยู่ อาจารย์หันมาสั่งฝากให้ผมดูแลเรื่องการสอนที่สมาคมโหรฯ เป็นการย้ำเตือนคำพูดของอาจารย์ที่สั่งผมไว้ (เมื่อวันที่ผมพาอาจารย์ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพคุณภัทรพร อังกะสิทธิ์ นักศึกษารุ่นน้องที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินการบินไทยชนภูเขาที่เนปาล เมื่อปี 2535 ) ผมได้ไปเยี่ยมอาจารย์อีกครั้งหนึ่ง แต่อาจารย์หลับพักผ่อนจึงไม่ได้คุยกับท่าน และเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นอาจารย์ หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันอาจารย์ก็เสียชีวิตในวันที่ 16 มีนาคม 2536

 

                งานพระราชทางเพลิงศพของอาจารย์นั้นมีลูกศิษย์รุ่นต่างๆ ตลอดจนเพื่อนของอาจารย์ และผู้ใหญ่หลายท่านให้ความกรุณาช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี จากคำบอกของอาจารย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า อาจารย์ประยูรได้รับพระราชทานโกศและเครื่องประดับเกียรติยศในชั้นเดียวกับพระยาโหราธิบดี เป็นเกียรติยศแก่วงศ์ตระกูล พิธีพระราชทานเพลิงศพของอาจารย์มีขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม 2536 อาทิตย์ย้ายจากราศีมีนเข้าราศีเมษ เป็นการสิ้นสุดภารกิจในโลกนี้และไปจุติใหม่ในโลกหน้า

 

                จากวันนั้นถึงวันนี้ คำสอนต่างๆตลอดจนวิธีการที่อาจารย์สอนในชั้นเรียนนั้น ยังติดตราในความรู้สึกของผมอยู่เสมอ และผมยังคงยึดมั่นในหลักการสอนของอาจารย์มาจนทุกวันนี้และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

 

วิโรจน์   กรดนิยมชัย

8 พฤศจิกายน 2549




เกี่ยวกับเรา Horauranian.com

เจตนารมณ์ article
ติดต่อเรา article
โหราพยากรณ์ article
Web Link article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
eXTReMe Tracker