หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ฉบับพิเศษรายสัปดาห์ ประจำวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2549 4 มกราคม พ.ศ. 2550 ได้รวบรวมคำสัมภาษณ์ของโหราจารย์ และนักพยากรณ์ชื่อดังหลายท่าน เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองในปี 2550 โดยพาดหัวข่าวได้น่าตื่นเต้นว่า โหรทำนายปี 2550 เกิดจลาจล สนธิ ปฏิวัติซ้ำ สุรยุทธ์ ลาออก ทักษิณ ใช้กรรม ทำให้เกิดกระแสความสนใจจนทำให้เป็นฉบับที่ขายดีที่สุดฉบับหนึ่งของหนังสือพิมพ์โลกวันนี้
ทางทีมงาน horauranian จึงขอนำรายละเอียด เนื้อหาที่ได้เรียบเรียงจากคำสัมภาษณ์ในส่วน โหราศาสตร์บ้านเมือง ของ อาจารย์ วิโรจน์ กรดนิยมชัย จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ฉบับพิเศษนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการศึกษา และค้นคว้า ด้านโหราศาสตร์การเมือง แก่นักศึกษาโหราศาสตร์ และผู้สนใจทั่วไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ฉบับพิเศษรายสัปดาห์ ปีที่ 2 (8/25) ฉบับที่ 83 (1935/6553) วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2549 4 มกราคม พ.ศ. 2550
ปี 2550 ไม่มีเลือกตั้ง
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีประเด็นความขัดแย้งของกลุ่มปัญญาชนและนักวิชาการค่อนข้างมาก แต่ในที่สุดก็สามารถยุติลงได้ด้วยดี ส่วนรัฐธรรมนูญจะประกาศใช้ทันในปี 2550 หรือปี 2551 นั้นหมายความว่าในปี 2550 จะไม่มีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย โหราจารย์ผู้เชียวชาญโหราศาสตร์ยูเรเนียนแห่งบ้านโหราศาสตร์ พยากรณ์เหตุการณ์ปี 2550 ว่าเหตุการณ์การเมืองของไทยได้รับอิทธิพลจากดาวเสาร์สันโดษในราศีสิงห์และอิทธิพลวงรอบของดวงดาว พบว่าในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน จะมีปัจจัยที่บ่งบอกถึงการถึงแก่กรรมด้วย อัตวินิบาตกรรม ของ บุคคลที่เคยโดดเด่นในสังคม และอาจทำให้มีผลเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างฉับพลันหรืออย่างใดอย่างหนึ่งที่ใกล้เคียง หรือเป็นการทำรัฐประหารซ้ำ
ส่วนปัญหาชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่สะสมมานาน ปัจจัยทางโหราศาสตร์แสดงให้เห็นภาพของสันติภาพและสันติสุขในระดับที่น่าพอใจของประชาชน โดยปัจจัยและกลไกที่จะทำให้เกิดความสงบได้คือความร่วมมือของผู้นำศาสนาและผู้นำสตรีในท้องถิ่น หากรัฐาลสามารถเข้าถึงจิตใจของผู้นำสตรีใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใด้ได้ก็จะสามารถสร้างสันติสุขให้กลับคืนมาได้
บทบาทของผู้หญิงสำคัญมาก แต่ต้องดำเนินเป็นกลุ่ม แล้วมีผู้ชายคอยคุ้มครองหรือทหารคอยปิดท้ายปกป้อง และพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้หญิงดำเนินการกันเองโดยลำพัง และตามตำแหน่งดาวในดวงเมืองจะเห็นภาพของสตรีปรากฏเป็นตัวแทนในสังคมอยู่ข้างหน้า และผู้มีอำนาจที่แท้จริงอยู่เบื้องหลัง
เปลี่ยนตำแหน่ง หม่อมอุ๋ย
หากมองดวงเมืองเทียบกับดวงชะตาของ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล แล้ว พบตำแหน่งอำนาจทางเศรษฐกิจในดวงชะตา แต่อำนาจทางเศรษฐกิจของท่านไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีว่าการกระทราวงการคลัง หากมีการเปลี่ยนแปลงให้ ม.ร.ว. ปรีดิยาธรไปคุมกระทรวงพาณิชย์จะเหมาะสมกว่า เนื่องจากดวงชะตาของคุณชายไม่เหมาะกับกระทราวงการคลังในสถานการณ์ปฏิวัติอย่างนี้ แต่ควรนำความรู้ด้านการเงินการคลังไปประยุกต์ใช้กับเศรษฐกิจด้านอื่น โดยเฉพาะการค้าที่จะส่งผลดีอย่างมาก ส่วนผู้ที่เหมาะสมตำแหน่งรัฐมนตรีคลังควรเป็นบุคคลที่อาวุโส และโดดเด่นในวงการเงินในอดีต
สถานการณ์ด้านการเงินการคลังของประเทศมองได้ 2 กรณีคือ ไม่มีเสถียรภาพทางการเงิน แต่รัฐบาลจะหาเงินเข้าคลังได้จาก
- กิจการที่เกี่ยวกับต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออก
- รายได้จากภาษี เหล้า บุหรี่ ของเหลว แก๊ซ วัตถุเคมี สารเคมี เป็นต้น
แต่ถ้าไม่จัดเก็บภาษีหรือจัดเก็บภาษีไม่ได้ สถานการณ์การคลังในปี 2550 อาจไม่ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมาก และตลาดหุ้นยังถูกกดดัน เพราะฉะนั้นภาพรวมเศรษฐกิจปี 2550 ถือว่าไม่ดี
ส่วนหวยบนดินน่าจะยังมีต่อไป เพราะเป็นรายได้ของรัฐที่เห็นชัดเจน รัฐบาลอาจจำเป็นต้องให้มีกฏหมายรองรับการมีหวยบนดินหรือหวยออนไลน์เพื่อหารายได้ เพราะไม่มีทางอื่นให้เลือกอีกแล้ว
คมช.ปฏิวัติรอบสอง
สำหรับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. จะยังอยู่ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2551 อีกครั้ง แต่นายกรัฐมนตรีอาจจะเปลี่ยนตัว จะเรียกว่าปฏิวัติหรืออะไรก็ตาม แต่ไม่ใช่เป็นการนองเลือด เนื่องจากภาพของสังคมในปี 2550 เป็นภาพของความสงบเรียบร้อย
นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย โหราจารย์ด้านยูเรเนียน ย้อนเหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน 2549 ที่ภาพตำแหน่งดวงบ่งบอกถึงจุดสลายตัวและยุติบทบาทของผู้นำในสังคม ณ เวลานั้นภาพของสถานการณ์ที่คลุมเครือและกระแสกดดันรอบด้าน ทำให้เกิดความแตกต่างและแบ่งฝักแบ่งฝ่าย จึงต้องใช้เวลาเพื่อนำไปสู่ความสันติ
เมื่อนำดวง พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน เทียบกับดวงปฏิวัติแล้วจะบ่งบอกถึงความตึงเครียดของ พล.อ. สนธิเองกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นกรอบข้อจำกัดที่มีภาระและความยากลำบากรออยู่
การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในปี 2550 แม้จะมีการปฏิวัติก็ไม่ได้มีการนองเลือด แต่จะเป็นการปฏิวัติที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีชุดใหม่ทั้งหมด หรืออาจเรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารประเทศระหว่างรอการเลือกตั้งหลังจากได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยอำนาจของประธาน คมช. ยังจะต้องมีภารกิจดำเนินการบางอย่างให้เสร็จสิ้น หรือมีเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกินกว่าสภาวะปรกติจะควบคุมได้ จึงจำเป็นที่จะต้องปฏิวัติขึ้นมาใหม่
บิ๊กบัง ดวงต้องปฏิวัติ
เปรียบเหมือนเครื่องยนต์ที่ติดช้าหากพอเครื่องติดแล้วแต่ระเบิดแรง แล้วถ้า พล.อ.สนธิระเบิดเมื่อไรก็เป็นเรื่อง เพราะมีตำแหน่งดาวที่แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะให้ยุติดสิ่งต่างๆ
นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย โหราจารย์ทางด้านยูเรเนียน พยากรณ์ดวงชะตาของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ว่าพื้นดวงเป็นบุคคลที่ฉลาดมีความประนีประนอน แต่ใช้ความเด็ดขาดในการประนีประนอน ถ้าเห็ฯที่ไม่เหมาะไม่ควร หรือไม่ขอบมาพากลนัก หรือมีความขัดแย้งจนเกิดความรำคาญก็จะเข้าไปสยบสิ่งที่ยุ่งยาก
การสยบปัญหาอาจจะใช้วิธีค่อนข้างรุนแรงสักหน่อย แต่ไม่ใช่บุคคลที่ก้าวร้าว เพียงแค่พร้อมจะลงไปปฏิบัติการกับใครก็ได้เพื่อให้เกิดความสงบ หรือให้เรื่องจบ ถ้าพูดกันดีๆไม่ได้ก็ท้าชน แต่จจะต้องเป็นจุดที่เหลืออดแล้ว พร้อมจจะเข้าไปยุติปัญหาต่างๆอย่างฉับพลัน คือ พร้อมที่จะเผชิญหน้า แต่จะไม่เป็นฝ่ายเข้าไปก่อนเรื่องหรือหาเรื่องก่อน ตรงจุดนี้จึงทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นคนประนีประนอม ไม่เอาจริงเอาจัง แต่แท้จรงแล้วพร้อมจะปะทะกับใครก็ได้ที่เข้ามาท้าชน และถ้าเริ่มแล้วเรื่องรุนแรงเท่าใดก็จะตอบโต้รุนแรงเป็นสองเท่า
แต่ในดวงชะตาบ่งบอกชัดเจนถึงความเป็นคนที่ค่อนข้างสันโดษ มีโลกส่วนตัวสูงหมายความว่าเห็นท่านในภาพที่ท่านต้องการให้เห็น เรื่องส่วนตัวของท่านคนอื่นไม่มีสิทธิมายุ่งเกี่ยว
สำหรับดวงชะตาในปี 2550 พบว่าในดวงชะตากำเนินมีดวงคำว่า ปฏิวัติ ในพื้นดวง คือพร้อมที่จุยุติดสิ่งต่างๆด้วยความรวดเร็ว ซึ่งปี 2549 ที่ผ่านมาก็มีปัจจัยที่บอกถึงความเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ รวมทั้งในปี 2550 ก็ยังมีปัจจัยที่บอกถึงความเกี่ยวข้องในการใช้อำนาจอย่างฉับพลันด้วยเช่นกัน แต่อาจเป็นการปฏิวัติด้วยสันติ ไม่โจ่งแจ้งหรือเสียเลือดเนื้อ โดย พล.อ.สนธิจะเข้าไปจัดการ โดยปรากฏในรูปของการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมาตรี และทีมรัฐบาลทั้งหมด
บิ๊กแอ้ด ต้องยุติบทบาท
ในปี 2550 พล.อ.สุรยุทธ์จะเจอปัญหาแรงกดดันต่างๆที่ทำให้ท่านแสดงบทบาทหรือลงมือทำบางสิ่งบางอย่างที่ชัดเจนมากขึ้น และเป็นปีที่ท่านต้องเผชิญปัญหา ถ้าแปลความหมายดาวในทางร้ายจะบ่งบอกถึงการสูญเสียของบุคคลในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ส่วนอีกความหมายหนึ่งคือการยุติบทบาทในหน้าที่การงาน
นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย โหราจารย์ทางด้านยูเรเนียน พยากรณ์ดวงชะตาของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่าโดยพื้นดวงเป็นคนที่ระมัดระวังตัวสูง เป็นนักวิเคราะห์ นักวางแผน นักกลยุทธ์ ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีจิตใจทางการพัฒนาในเชิงรุก ถ้าท่านตั้งใจทำอะไรขึ้นมาจะต้องทำให้สำเร็จ มีจิตใจมุ่งมั่นในเรื่องของความเป็นอิสระและมีความรับผิดชอบสูง
ไม่ว่าจะทำสิ่งใด ถ้าไม่อิสระจะไม่ทำ เช่น การรับตำแหน่งนายกรัฐมาตรีครั้งนี้ คมช.จะต้องให้อิสระกับ พล.อ.สุรยทธ์ หรือถ้ามีเงื่อนไขมากก็ไม่รับ ขณะเดียวกันท่านรู้จักตนเอง และมีกรอบของตัวเองว่าสิ่งใดได้สิ่งใดไม่ได้ แต่ถ้าต้องเกี่ยวข้องกับผู่อื่นแล้วกติการที่จะพูดคุยกันต้องอยู่ในสิ่งที่ยอมรับได้ว่าไม่เป็นพันธะหรือพันธนาการ จะสังเกตเห็นว่า พล.อ.สุรยุทธ์จะใช้คำพูดที่ค่อนข้างระมัดระวัง ไม่ให้เป็นข้อผูกมัดที่รุนแรงกับตัวเอง คือเป็นคนที่รับผิดชอบจากสิ่งที่ตัวเองรู้และเข้าใจ ไม่ใช่อะไรก็รับมาทั้งหมด จึงต้องขอเวลาพิจารณาไตรตรองก่อน
ตามพื้นดวงชะตาเป็นบุคคลที่มีความประนีประนอม เหมาะกับการสมานฉันท์ เนื่องจากจะใช้หลักการไกล่เกลี่ยนเจรจากันก่อน หาทางพูดจารอมชอมกัน แต่ก็ต้องอยู่ภายในกรอบกติกา หรือกฏเกณฑ์ แต่ถ้าใช้วิธีข่มขู่รุนแรง พล.อ.สุรยุทธ์จะค้านหัวชนฝา ตามพื้นดวงค่อนข้างเป็นคนมีโชค ไม่ว่าจะทำสิ่งใดมักจะได้ผลในทางบวกมาก อย่างตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็คือโชคเช่นกัน แต่ไม่ใช่โชคดีอย่างเดียว ตำแหน่งดาวบอกว่าเหมือนมีโชคด้านการงาน แต่ต้องรับภาระรับผิดชอบอันหนักหน่วง
ในปี 2548-2550 บุคคลที่ขึ้นมาเป็นผู้นำทั่วโลก ไม่ว่าใครก็ตาม จะมีโชคพร้อมกับภาระหนัก จะเห็นได้ว่าผู้นำประเทศเจอปัญหาหรือวิกฤตทั้งสิ้น หากย้อนกลับไปมองดวงชะตา พล.อ.สุรยุทธ์ในปี 2549 การได้ตำแหน่งของท่านเป็นสถานการณ์ความจำเป็นเป็นตัวบีบให้เข้ามารับตำแหน่งทั้งการได้ตำแหน่งทางสังคมที่สูงขึ้นก็ย่อมมีปัญหา หรือมีความไม่สบายใจเกิดขึ้น แต่เป็นความจำเป็นเพราะในดวงชะตามีจุดที่บ่งบอกการเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของประเทศ หรือผู้นำประเทศนั้นเอง หากมองดวงเมืองประจำปีจะพบว่าเป็นตำแหน่งที่เหมือนกับการบังคับว่าปี 2549-2550 ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นในปี 2550 ดวงของพล.อ.สุรยุทธ์จะยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่
พื้นดวงชะตาของ พล.อ.สุรยุทธ์ยังบ่งบอกว่าเป็นคนเก็บตัว สมถะ ชอบสันโดษ ไม่ชอลวุ่นวาย ไม่ชอบปรากฏตัวเป็นข่าว ในปี 2550 ตำแหน่งดาวเกือบจะเหมือนปีเกิดเลยทีเดียว สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือการมอบหมายให้บุคคลอื่นแสดงตัวต่อสังคมมากขึ้น ส่วนตัวเองจะใช้เวลาไปศึกษางานมากกว่า เพราะเป็นลักษณะของคนที่ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนจึงจะพูด การทำงานจึงอาจถูกมองว่าค่อนข้างช้า ฉะนั้นถ้าใครหวังจะเห็นความสำเร็จที่รวดเร็วก็จะผิดหวัง แต่จะได้ความรอบคอบแทน
แม้ภาพ พล.อ.สุรยุทธ์ จะไม่ใช่บุคคลที่ทำอะไรรวดเร็วก็จรง แต่ในดวงชะตามีจุดสำคัญที่บ่งบอกว่าบางครั้งท่านก็ตัดสินใจได้รวดเร็วเกินกว่าที่คนทั่วไปจะตามทัน คือ ภาพเหมือนช้า ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ แต่เมื่อใดที่มีความพร้อมก็จะทำอย่างรวดเร็วอย่างที่คาดไม่ถึง
ทักษิณ สร้างกรรมใหม่เอง
ตามวงรอบซ้ำที่บิดาวางมือทางการเมือง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณเลือกที่จะมีปฏิกิริยาทางการเมืองอยู่ ถือได้ว่าเป็นการสร้างกรรมใหม่ แทนที่จะมีชีวิตสงบเงียบเหมือนบิดา ชีวิตจึงต้องเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นกรรมใหม่ที่เกิดกับตัวท่านเอง และจะมีผลต่อบุตรในอนาคตด้วย
นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย โหราจารย์ทางด้านยูเรเนียน เปิดเผยคำพยากรณ์ว่า โดยพื้นดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีตำแหน่งดาวที่บ่งบอกถึงสภาพชีวิตที่มีวิบากกรรมไม่ปรกติ จากการวิเคราะห์ตามวงรอบจันทรคติ 19 ปี และวงรอบ 30 ปีของดาวเสาร์ โดยมีหลักว่าเหตุการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นซ้ำภายใต้วงรอบนั้นๆ จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันในทางปรัชญา ได้แก่ ช่วงเวลาและผลที่ปรากฏ เช่น บิดาเป็นอย่างไรบุตรก็เป็นเช่นนั้น
หากย้อนไปหลังปี 2518 บิดาของ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็น ส.ส. สมัยที่สอง อีก 30 ปีถัดมา พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง พอถึงปี 2519 ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี และประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ บิดาของ พ.ต.ท.บักษิณก็วางมือไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้วไปประกอบธุรกิจจนเจริญรุ่งเรือง จากปี 2519 บวกอีก 30 ปี พบว่าปี 2549 เกิดการปฏิวัติแต่ พ.ต.ท.ทักษิณฝืนที่จะต่อสู้ทางการเมือง นี้คือการดำเนินชีวิตที่ไม่สอดคล้องกับกรรมเก่า
จุดสำคัญที่น่าพิจารณาคือ ในช่วงเดือนกันยายน 2550 ดาวเสาร์จะโคจรย้ายราศี ดาวเสาร์ตั้งฉากกับดวงชะตาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคุณหญิงเอง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเพศชาย คือ สามี และบุตรที่จะต้องสูญเสีย หรือมีข้อจำกัดอย่างหนึ่งอย่างใด หรือทั้งสองอย่าง อาจกล่าวได้ว่าหากมองในภาพใหญ่จะพบว่าสภาพครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณในปี 2550-2551 ยังคงต้องใช้ชะตากรรมที่ก่อไว้
เมื่อพิจารณาดวงชะตาจะพบว่า ดวงชะตาจรของดาวอาทิตย์กำลังโคจรเข้าสู่จุดที่ชะตากรรมพลิกผันอย่างรุนแรงในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน 2550 ฉะนั้นจากนี้ไปจนถึงเดือนมีนาคม ขึ้นอยู่กับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เองว่าจะทำอะไรต่อไป หรือมีสิ่งใดเกิดขึ้นที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณตัดสินด้วยคำปฏิญาณ 3 ขึ้นของนักเรียนเตรียมทหารที่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น เพราะตรงกับจริตของเจ้าชะตาคือ
- ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
- ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้ และ
- ตายเสียดีกว่าละทิ้งหน้าที่
ใคร?...นายกรัฐมนตรีคนต่อไป
นายกรัฐมนตรีคนต่อไปเป็นนายทหารแน่นอน
นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย วิเคราะห์ภาพลักษณ์ของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนถัดไป แล้วขยายความว่า น่าจะเป็นนายทหารยุทธการ เป็นนักรบ นักต่อสู้ เป็นนายทหารที่มีความเด็ดขาด เป็นคนจริงจัง อยู่ในกรอบและมีระเบียบวินัยเคร่งครัด ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่กล้าแสดงออก เป็นบุคคลที่คิดว่าหากสิ่งใดดี เห็นว่าสิ่งใดมีประโยชน์ก็จะทำ โดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง คือเป็นบุคคลที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นทั้งผู้เสียสละและผู้ประสานประโยชน์ไปในตัวอย่างครบถ้วน ไม่ใช่เสียสละแล้วไม่เกิดประโยชน์ แต่ต้องเป็นประโยชน์จากการเสียสละนั้น
คงต้องจับตาดูว่า ผบ.ทบ. ในเดือนตุลาคมปีหน้าเป็นใคร ชื่ออะไร บุคคลผู้นั้นอาจมาพร้อมตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เป็นได้