ReadyPlanet.com
dot
dot dot
dot
เกี่ยวกับเรา Horauranian.com
dot
bulletรำลึกถึง อาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์
bulletเจตนารมณ์
bulletติดต่อเรา
bulletโหราพยากรณ์
dot
บทความ
dot
bulletเกร็ดโหรน่ารู้
bulletเจาะลึกโหรา
bulletโหราศาสตร์บ้านเมือง
bulletBlog อ.วิโรจน์
bulletแนะนำตำรา
bulletไพ่ยิปซี จักรราศี (Celestial Tarot)
bulletกระดานถามตอบ
bulletคลังบทความดวงเมืองเศรษฐกิจ 2550-2552
bulletคลังกระทู้โหราศาสตร์ที่น่าสนใจ
dot
บทความน่าสนใจ
dot
bulletประเทศไทยหลังคดียึดทรัพย์ 2553
bulletReturn of Great Depression?
bulletChange! ผู้นำยุคใหม่ของโลก
bulletเรือนชะตาจันทร์ 28 เรือน
bulletโหราศาสตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์
bulletเลือกฤกษ์มงคลด้วยตนเอง
bullet6 ขั้นตอนเพื่อการดูหมออย่างคุ้มค่า
bulletชนะใจคนรัก 12 ราศี
dot
เว็บไซต์ที่น่าสนใจ
dot
bulletเพจ โหราศาสตร์ยูเรเนียน โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletโหราศาสตร์ยูเรเนียน โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletCelestial Strategist Blog
bulletBlog โหราเศรษฐกิจ
bulletเว็บไซต์ที่น่าสนใจ




จันทรุปราคา เต็มดวงในเพ็ญ มาฆบูชา article

โดย Pallas
กุมภาพันธ์ 2550

          ในคืนเพ็ญ มาฆบูชา นี้ คนไทยทั่วประเทศจะมีโอกาสมองเห็น จันทรุปราคา เต็มดวงครั้งแรกในรอบ 3 ปี ก่อนที่จะมองเห็น สุริยุปราคา บางส่วนในวันที่ 19 มีนาคม (เห็นได้เกือบทั่วประเทศยกเว้นจังหวัดชายแดนภาคใต้) และจะเกิดปรากฏการณ์ จันทรุปราคา เต็มดวงอีกครั้งในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ นับว่าเป็นปีที่มีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เกี่ยวกับคราสมากที่สุดปีหนึ่งของประเทศไทย และเป็นปีที่นักโหราศาสตร์ควรจะได้ศึกษาปรากฏการณ์ดังกล่าวเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพยากรณ์โดยเฉพาะในเรื่องโหราศาสตร์บ้านเมืองต่อไป ผมจึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งทางดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ และทดลองนำทฤษฎีอิทธิพลการเกิดคราสที่ได้เรียนจากอาจารย์วิโรจน์ กรดนิยมชัย มาพยากรณ์ผลจากปรากฏการณ์นี้ เพื่อจะได้ตรวจสอบผลที่เกิดขึ้นและเพิ่มพูนความรู้โหราศาสตร์ด้านนี้ต่อไป

ข้อมูลทางดาราศาสตร์ (ตัดตอนจากบทความคุณวรเชษฐ์ บุญปลอด เว็บไซต์สมาคมดาราศาสตร์ไทย)
         
          หลังเที่ยงคืนของคืนวันมาฆบูชาซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม ย่างเข้าสู่เช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2550 ดวงจันทร์จากที่เคยเห็นสว่างเต็มดวงก่อนหน้านั้นจะถูกเงามืดของโลกเข้าบดบัง ทำให้ดวงจันทร์แหว่งและมืดคล้ำลง เกิดปรากฏการณ์ จันทรุปราคา (Lunar Eclipse) หรือเรียกอีกอย่างว่า จันทรคราส และ ราหูอมจันทร์
          จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เกิดได้ในเฉพาะคืนวันเพ็ญและในจังหวะเวลาที่ดวงจันทร์เคลื่อนผ่านเข้าไปในเงาโลก เงาที่เกิดขึ้นนี้มีอยู่สองชนิด ได้แก่ เงามืด และ เงามัว จันทรุปราคา จึงแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ จันทรุปราคาเต็มดวง จันทรุปราคาบางส่วน และจันทรุปราคาเงามัว

การเกิดเงามืดและเงามัวระหว่างจันทรุปราคา (ไม่ได้วาดตามมาตราส่วนจริง)

          จันทรุปราคา ครั้งที่จะเกิดขึ้นในคืนวันเสาร์นี้ หากยึดตามหลักการเปลี่ยนวันในเวลาเที่ยงคืนก็จะถือได้ว่าเกิดในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2550 ดวงจันทร์เริ่มเข้าไปในเงามัวของโลกตั้งแต่เวลา 3.18 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ดวงจันทร์ปรากฏอยู่เหนือท้องฟ้าทิศตะวันตกในกลุ่มดาวสิงโต กึ่งกลางระหว่างขอบฟ้ากับจุดเหนือศีรษะโดยมีดาวเสาร์อยู่ต่ำลงไป ห่างกันประมาณขนาดของฝ่ามือเมื่อกางมือของเราออกแล้วเหยียดแขนออกไปให้สุด อย่างไรก็ตามเรายังจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้นกับดวงจันทร์จนกระทั่งเวลาประมาณ 4.10 น. ขอบดวงจันทร์ด้านซ้ายมือค่อนไปทางด้านบนจะเริ่มคล้ำลงจนสังเกตเห็นได้ ดวงจันทร์มืดสลัวลงทีละน้อยจนเริ่มเกิดจันทรุปราคาบางส่วนในเวลา 4.30 น. ซึ่งจะเห็นขอบดวงจันทร์ด้านนี้เริ่มแหว่ง

          ก่อนตี 5 ครึ่งเล็กน้อย ดาวเสาร์จะตกลับขอบฟ้าขณะที่ดวงจันทร์แหว่งไปเกินกว่าครึ่งดวง เงามืดของโลกเข้าบังดวงจันทร์ลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงเวลา 5.44 น. เป็นเวลาที่ดวงจันทร์ทั้งดวงเคลื่อนเข้าไปในเงามืดของโลกและเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง แสงอาทิตย์ที่หักเหผ่านบรรยากาศโลกไปตกที่พื้นผิวดวงจันทร์ทำให้ดวงจันทร์ไม่มืดสนิทอย่างที่ควรจะเป็น แต่มีสีน้ำตาล สีแดงอิฐ หรือสีส้ม ไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากนั้นแสงเงินแสงทองจะเริ่มจับขอบฟ้า ท้องฟ้าจึงค่อย ๆ สว่างขึ้นในขณะที่ดวงจันทร์ยังอยู่ในเงามืดของโลก
          เวลา 6.21 น. ดวงจันทร์เข้าไปในเงามืดลึกที่สุดและใกล้จะตกลับขอบฟ้าแล้ว ขณะนี้ท้องฟ้าจะสว่างเป็นสีฟ้า ที่กรุงเทพฯ ดวงอาทิตย์จะขึ้นเหนือขอบฟ้าทิศตะวันออกในเวลา 6.33 น. ส่วนดวงจันทร์จะตกทางทิศตะวันตกในเวลา 6.37 น.
          เวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและดวงจันทร์ตกในจังหวัดอื่น ๆ จะต่างไปจากนี้ เช่น เชียงใหม่ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 6.42 น. ดวงจันทร์ตกเวลา 6.46 น. ภูเก็ตดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 6.39 น. ดวงจันทร์ตกเวลา 6.43 น. ส่วนที่อุบลราชธานีดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 6.16 น. ดวงจันทร์ตกเวลา 6.20 น.

          จุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งสำหรับ จันทรุปราคา ครั้งนี้ก็คือ ดวงจันทร์ถูกเงาโลกบังหมดทั้งดวงในขณะที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากกลางคืนไปสู่กลางวัน จึงเป็นไปได้ว่าขณะที่ดวงจันทร์เข้าไปในเงามืดลึกที่สุดนี้ ท้องฟ้าจะสว่างมากจนเราอาจไม่สามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้หรือเห็นได้เพียงลาง ๆ ให้ลองสังเกตดวงจันทร์ด้วยตาเปล่าและด้วยทัศนูปกรณ์ที่มีอยู่ เช่น กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลา 6.00 - 6.40 น. และเนื่องจากปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ดวงจันทร์กำลังจะตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตก ดังนั้นหากต้องการสังเกตให้ชัดเจนควรหาสถานที่ที่ไม่มีสิ่งใดบดบังขอบฟ้าทิศดังกล่าว หรือหากเป็นไปได้อาจสังเกตจากตึกสูง
          นอกจากประเทศไทยแล้วบางส่วนของทุกทวีปในโลกมีโอกาสเห็น จันทรุปราคา ครั้งนี้ด้วยพร้อม ๆ กัน ตัวอย่างเช่น ทวีปยุโรปและแอฟริกาเห็นขณะเริ่มเกิดปรากฏการณ์ในค่ำวันที่ 3 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้เห็นได้ในค่ำวันเดียวกันแต่เป็นช่วงท้ายของปรากฏการณ์ขณะดวงจันทร์ขึ้นทางทิศตะวันออก ส่วนในเอเชียตะวันออก ตอนกลางของจีน และตะวันตกของออสเตรเลียจะเห็นได้ในเช้ามืดวันที่ 4 มีนาคมขณะดวงจันทร์ใกล้จะตกเช่นเดียวกับประเทศไทย

         
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ขององค์การ NASA

          จันทรุปราคา ครั้งนี้นับเป็น “จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งแรกในรอบ 3 ปีสำหรับคนไทยในประเทศ” และเป็นอุปราคาครั้งแรกจากทั้งหมด 4 ครั้งที่เกิดในปีนี้ อีก 15 วันถัดไป เช้าวันจันทร์ที่ 19 มีนาคมจะเกิดสุริยุปราคาบางส่วนเห็นได้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และหากท้องฟ้าเปิดไม่มีเมฆฝนเป็นอุปสรรคเราจะมีโอกาสเห็นจันทรุปราคาในช่วงเวลาหัวค่ำของวันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2550 

ข้อมูลทางโหราศาสตร์

          จากปฏิทิน ราฟาเอล ประจำปี 2007 พบว่า ปรากฎการณ์พระจันทร์เพ็ญ (Full Moon) ซึ่งเป็นขณะที่เกิดจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ เป็นเวลา 23:17 น. ของวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2007 ตามเวลา GMT หรือเท่ากับเวลา 6:17 น. วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2550 ตามเวลาในประเทศไทย ดังนั้น เมื่อเราคำนวณดวงชะตาจันทรุปราคาดังกล่าวที่ กรุงเทพมหานคร จะได้ดวงชะตาดังนี้

 

 

การพยากรณ์อิทธิพลการเกิดคราส

          ในคัมภีร์ เตตราบิโบลส ของปโตเลมี ได้กล่าวถึงการเกิด คราส ว่า “ในการเกิด สุริยคราส และ จันทรคราส ชนิดเต็มดวง ณ พื้นที่ใดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ประเทศนั้นจะได้รับอิทธิพลของคราส” ดังนั้น การที่ประเทศไทยสามารถมองเห็น จันทรุปราคาเต็มดวง ครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน ย่อมหมายความว่า คราสนี้ย่อมส่งอิทธิพลต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน นั่นแปลว่า อิทธิพลของดวงปูรณมี (Full Moon) ในวันเพ็ญมาฆบูชานี้ ย่อมไม่ได้มีอิทธิพลเหมือนกับดวงปูรณมีทั่วไปที่ส่งผลจนถึงอมาวสีถัดไปเท่านั้น แต่ส่งผลพิเศษจากอิทธิพลของคราส ดังจะอธิบายต่อไป

          จากเอกสารการสอนเรื่อง “อิทธิพลการเกิดคราส” ของอาจารย์วิโรจน์ กรดนิยมชัย ซึ่งรวบรวมจากเอกสารการสอนของพลตรีประยูร พลอารีย์ และตำรา Raphael’s Mundane Astrology นั้น บอกว่า อิทธิพลของคราสจะพิจารณาจากตำแหน่งของจันทร์ว่าสถิต ณ ที่ใด โดยมีอิทธิพลอยู่ 3 ประเภท คือ

1. อิทธิพลของคราสที่เกิดในจรราศี สถิรราศี และอุภยราศี (คุณะ)
2. อิทธิพลของคราสที่เกิดในราศีธาตุต่างๆ
3. อิทธิพลของคราสที่เกิดในตรียางศ์แต่ละราศี

          สำหรับคราสที่เกิดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคมนี้ เกิดขึ้นในราศีกันย์ ซึ่งเป็นอุภยราศี หมายความว่า จะแสดงผลเร็วและนาน แต่ผลจะไม่เต็มที่ (commence sooner, and last longer, but that their effects will be liable to interruption) ในลักษณะเกิดๆหยุดๆ (continue for a time, suddenly cease, and then commence again)
          ราศีกันย์เป็นราศีธาตุดิน นั่นหมายความว่า จะทำให้เกิดภาวะแห้งแล้งสร้างความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตร และเกิดเหตุแผ่นดินไหว เกิดความเสียหายต่อเหมืองแร่, และภาวะข้าวยากหมากแพง (ซึ่งจากข่าวที่ออกมา ก็คาดกันว่าหน้าร้อนนี้จะเกิดภาวะแห้งแล้ง และสร้างความเสียหายต่อการเกษตรอย่างมาก)
          สำหรับอิทธิพลประเภทที่ 3 นั้น คราสครั้งนี้เกิดที่ 13 องศา ราศีกันย์ ซึ่งเป็นตรียางศ์ที่ 2 ของราศีกันย์ แปลว่า การสูญเสียของรัฐมนตรี สมาชิกสภา เทศมนตรี ที่ปรึกษา นักเขียน หรือบุคคลที่มีอาชีพใกล้เคียง (คราสได้แสดงผลในเรื่องนี้ไปแล้ว จากการลาออกของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง)

          นอกจากนี้ จากดวงจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ มีข้อสังเกตอยู่หลายประการ กล่าวคือ
1. คราสเกิดที่ 12 องศาราศีกันย์ ขณะที่อาทิตย์กำเนิดของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อยู่ที่ 4 องศา ราศีกันย์ ซึ่งอยู่ในราศีเดียวกัน ห่างกันเพียง 8 องศา แสดงว่าอิทธิพลของคราสครั้งนี้ ย่อมส่งผลต่อท่านนายกฯค่อนข้างมากทีเดียว (การลาออกของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร และการที่ท่านป่วยเป็นตาแดง)
2. จุดคราสทำมุมฉากสนิทกับเมอริเดียนของประเทศไทย และทำมุมกับศูนย์รังสี Ar/Me แสดงว่าส่งผลต่อวงการนักข่าวบ้านเรา่ค่อนข้างรุนแรง (กรณีไอทีวี พีทีวี และเอเอสทีวี)
3. ข้อสังเกตสุดท้าย ผมขอให้นักโหราศาสตร์ยูเรเนียนไปถอดความเองก็แล้วกันครับ Su = Mo = Mc = Ur/Mo = Cu/Mc = Ar+Ur-Kr = Kr/Ad และเมื่อใช้มุมเล็ก (22.5 องศา) ก็จะไปเท่ากับ = Ne = Sa เป็นที่สุด

ส่งท้าย

          สำหรับนักโหราศาสตร์นั้น อิทธิพลของคราสยังคงเป็นหัวข้อสำคัญที่ยังต้องศึกษา เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่อาจจะดูไม่ชัดเจนนัก เช่น การนับระยะเวลาที่คราสจะส่งผล, ความหมายในบริบทของเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ฯลฯ ดังนั้น จึงเป็นภาระของนักโหราศาสตร์รุ่นปัจจุบันที่จะต้องค้นคว้า สังเกต รวบรวมข้อมูล และสังเคราะห์ทฤษฎีในเรื่องนี้กันต่อไป

เอกสารอ้างอิง
1. วรเชษฐ์ บุญปลอด, “จันทรุปราคาคืนวันมาฆบูชา”, เว็บไซต์สมาคมดาราศาสตร์ไทย, 26 กุมภาพันธ์ 2550.
http://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/eclipses/200703tle.html
2. Fred Espenak, “Eclipses During 2007”, Observer's Handbook 2007, Royal Astronomical Society of Canada,
http://sunearth.gsfc.nasa.gov/eclipse/OH/OH2007.html
3. “Raphael’s Astronomical Ephemeris of the Planets’ places for 2007”, W.Foulsham & Co. Ltd, 2007.
4. วิโรจน์ กรดนิยมชัย, “อิทธิพลการเกิดคราส”, หลักสูตรโหราศาสตร์ยูเรเนียนภาคพิเศษ รวบรวมจากเอกสารการสอนของพลตรีประยูร พลอารีย์.
5. Raphael, “Raphael’s Mundane Astrology”, revised printing, published by Astrology Classics Publishing, 2004.




โหราศาสตร์บ้านเมือง

ดาวศุกร์โคจรผ่านหน้าดวงอาทิตย์ เหนือฟ้าประเทศไทย 2555 article
จันทรุปราคาเต็มดวง 10 ธันวาคม 2554 : ราหูอมรัฐธรรมนูญ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ดาวพระเคราะห์กำลังโคจรเข้าจุดทวารในระยะ +/-5 องศา
ราชประสงค์- Time Square กับมงคลฤกษ์
ประเทศไทยหลังคดียึดทรัพย์ 2553
อิสรภาพ หรือบาปบริสุทธิ์ article
ฮุนเซน : พระยาละแวกยุค ดิจิตอล article
หมากตัวสุดท้าย และคำปฏิญาณตนของนักเรียนเตรียมทหาร article
กงกรรม กงเกวียน article
ความเหมือนและความต่าง ตอน 2: กบฏวังหลวง 26 ก.พ. 2492 ถึง กบฏวังหลวง 17 ส.ค. 2552 article
ตามกรรม article
สุริยุปราคาเต็มดวง 22 กรกฎาคม 2009 การกลับมาของซารอสที่ 136 article
ความเหมือนและความต่าง 1: กบฏวังหลวง 2492 ถึง สงกรานต์เดือด 2552 article
Change! ผู้นำยุคใหม่ของโลก article
รถแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถึง Goodbye Santika article
งานเลี้ยงที่มีวันเลิกลา article
การเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 และอนาคตประเทศไทยปี 2551 (ตอนที่ 1) article
ปี 2551 ประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ในทรรศนะของนักโหราศาสตร์ยูเรเนียน article
บทความเนื่องในวันไหว้ครู 2550: เมืองไทยก่อนการเลือกตั้ง 2550 ? article
“ปีวอกนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้น” 4 เมษายน 2535 article
เหตุการณ์ทั่วโลกในรอบเดือน มกราคม ๒๕๑๔ : บทความแรกของอ.ประยูร ในพยากรณสาร article
สุริยุปราคาบางส่วนผ่านฟ้าเมืองไทย 19 มีนาคม 2550 กับ เหตุการณ์ของประเทศไทย article
บทสัมภาษณ์ อาจารย์ วิโรจน์ กรดนิยมชัย ว่าด้วยโหราศาสตร์บ้านเมือง ในหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ article
สถานการณ์ของโลก ประเทศไทย และดวงชะตาของคุณในปี 2550 article
เรือนชะตาในโหราศาสตร์บ้านเมือง (House in Mundane Astrology) article
พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคไทยรักไทย ความเหมือนบนความต่าง article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
eXTReMe Tracker