วิโรจน์ กรดนิยมชัย
14 มีนาคม 2550
เดือนมีนาคม 2550 เป็นเดือนที่มีความสำคัญมากในด้านดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ ของไทยและของโลก กล่าวคือ มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ คือมีการเกิดคราสถึง 2 ครั้ง และสามารถมองเห็นได้บนฟ้าเมืองไทยและอีกหลายประเทศ ทำให้อิทธิพลของคราสทั้งสองครั้งผสมผสานกันส่งอิทธิพลให้กับทุกประเทศมากบ้างน้อยบ้างตามแต่จุดอิทธิพลของแต่ละประเทศจะสัมพันธ์กับตำแหน่งการเกิดคราส แม้กระทั่งในดวงชะตาของบุคคลก็เช่นกัน หากตำแหน่งจุดเจ้าชะตาของผู้ใดมีความสัมพันธ์ถึงตำแหน่งคราสก็ย่อมได้รับอิทธิพลเช่นกัน
สถานการณ์ของประเทศมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจกันทุกฝ่าย และหากย้อนดูเหตุการณ์ที่สำคัญๆที่เคยเกิดขึ้น จะพบเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยในอดีตที่ผ่านมาจะตรงกับการครบวงรอบ 30 ปี และครึ่งวงรอบ คือ 15 ปี ของเหตุการณ์สำคัญซึ่งสามารถพิจารณาได้ดังนี้
- เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เปรียบเทียบกับ 23 กุมภาพันธ์ 2534 และ 19 กันยายน 2549
- เหตุการณ์ 20 ตุลาคม 2520 เปรียบเทียบกับ 17 พฤษภาคม 2535 และ อะไร / เมื่อไหร่ ในปี2550
จันทรุปราคาเต็มดวง 4 มีนาคม 2550 กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
(ข้อมูลบางส่วนมาจากบทความ "จันทรุปราคาเต็มดวงในคืนเพ็ญมาฆบูชา" ของ Pallas ในเวบไซต์ www.horauranian.com)
หลังเที่ยงคืนของคืนวันมาฆบูชาซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม ย่างเข้าสู่เช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2550 ดวงจันทร์จากที่เคยเห็นสว่างเต็มดวงก่อนหน้านั้นจะถูกเงามืดของโลกเข้าบดบัง ทำให้ดวงจันทร์แหว่งและมืดคล้ำลง เกิดปรากฏการณ์ จันทรุปราคา (Lunar Eclipse) หรือเรียกอีกอย่างว่า จันทรคราส และ ราหูอมจันทร์ ในราศีกันย์ซึ่งเป็นราศีธาตุดิน หมายความว่า จะทำให้เกิดภาวะแห้งแล้งสร้างความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตร และเกิดเหตุแผ่นดินไหว เกิดความเสียหายต่อเหมืองแร่ และภาวะข้าวยากหมากแพง (ซึ่งจากข่าวที่ออกมา ก็คาดกันว่าหน้าร้อนนี้จะเกิดภาวะแห้งแล้ง และสร้างความเสียหายต่อการเกษตรอย่างมาก)
สำหรับอิทธิพลประเภทที่ 3 นั้น คราสครั้งนี้เกิดที่ 13 องศา ราศีกันย์ ซึ่งเป็นตรียางศ์ที่ 2 ราศีกันย์ (ราศีกันย์มีความหมายถึงคำว่า นักการเมือง และสื่อมวลชน ดังนั้นจึงเป็นปีที่มีความ สำคัญของสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย) แปลว่า การสูญเสียของรัฐมนตรี สมาชิกสภา เทศมนตรี ที่ปรึกษา นักเขียน หรือบุคคลที่มีอาชีพใกล้เคียง (การลาออกของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง)
นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อดวงชะตาของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งเกิดในราศีกันย์ อิทธิพลของคราสครั้งนี้ ส่งผลต่อท่านนายกฯ ค่อนข้างมากทีเดียว ทั้งเรื่องการลาออกของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร และการที่ท่านป่วยเป็นตาแดง และกรณีสถานีโทรทัศน์ ITV PTV และASTV
สุริยุปราคาบางส่วน 19 มีนาคม 2550
ช่วงสายของวันที่ 19 มีนาคม 2550 จะมีปรากฏการณ์ สุริยุปราคาบางส่วน (Partial Eclipse) (ข้อมูลทางดาราศาสตร์จากสมาคมดาราศาสตร์ไทย http://thaiastro.nectec.or.th) สามารถมองเห็นได้ในประเทศไทย ตั้งแต่ภาคใต้ (ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนจะไม่เห็นปรากฏการณ์ในครั้งนี้) ขึ้นไปจนถึงภาคเหนือ ประเทศเพื่อนบ้านของไทยทั้งพม่า ลาว เขมร เวียดนาม และอีกหลายประเทศในทวีปเอเซียตอนเหนือ แม้จะเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วน แต่ในบันทึกและตำราทางโหราศาสตร์ต่างประเทศ ให้ความสำคัญว่ามีอิทธิพลต่อทุกพื้นที่ที่สามารถเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ ตามจำนวนชั่วโมงของการเกิดคราสคิดเป็นปี ดังเช่นการเกิดคราสครั้งนี้มีระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ดังนั้นอิทธิพลของการเกิดคราสย่อมมีผลไปประมาณ 4 ปี โดยที่อิทธิพลที่รุนแรงจะปรากฏให้เห็นในช่วง 1-3 เดือนนับจากนี้ (ภาพประกอบจากเวปไซต์ www.manager.co.th)
อิทธิพลของการเกิดคราสในครั้งนี้
ดาวเสาร์เป็นดาวสันโดษที่ 19 องศา ราศีสิงห์ มีอิทธิพลหมายถึง ข้อจำกัด การพลัดพราก การสูญเสียของบุคคลชั้นนำในสังคม บุคคลที่มีตำแหน่งจะประสบความยุ่งยากในทุกระดับของสังคม และการที่ดาวเสาร์เป็นดาวสันโดษ จึงมีอิทธิพลแรงมากกว่าปกติ
ดาวพุธ อยู่ที่ 0 องศาราศีมีน หมายถึงความคิดถึงความสันโดษของชีวิต ความเงียบเหงาของชีวิต จินตนาการ ความคิดที่เลื่อนลอย ความคิดถึงการปลีกวิเวก (เข้าใจว่า พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ท่านกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่) การเดินทางสู่ความวังเวง การเดินทางไปยังศาสนสถาน หรือโรงพยาบาล ความคิดเลื่อนลอยในสถานที่ควบคุมหรือโรงพยาบาล (เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ น.พ. ประกิตเผ่า และครอบครัวได้รับอิทธิพลสอดคล้องกับการเกิดคราสในครั้งนี้ด้วย) การเดินทางที่เป็นความลับ การติดต่อที่เป็นความลับหรือไม่เปิดเผย การเดินทางไปลี้ภัยในต่างแดน การเดินทางครั้งสุดท้ายของชีวิต (ใคร เมื่อใด)
ดาวเสาร์และดาวพุธมีจุดร่วมแสดงอิทธิพลถึงสถานการณ์ในสังคมไทย คือ การลี้ภัยไปต่างแดน หรือการเดินทางครั้งสุดท้ายของชีวิตของผู้สูญเสีย
ตำแหน่งของคราสอยู่ที่ 28 องศาราศีมีน ธาตุน้ำ เป็นตรียางศ์ที่ 3 ของราศีมีน มีอิทธิพล ตามคัมภีร์เตตราบิโบลส ของปโตเลมี ดังนี้
จะเกิดความตายของประชาชน เกิดความเสียหายกับฝูงเป็ดไก่ สัตว์น้ำ และผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายทะเลและริมฝั่งแม่น้ำ
การก่อความไม่สงบ ความทารุณโหดร้าย และความรุนแรงผิดมนุษย์ของผู้ที่ใช้อาวุธ
ก่อนที่บทความนี้จะเรียบเรียงเสร็จ เหตุการณ์หลายอย่างก็เริ่มเกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่ ปลาจำนวนมากตายในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อ่างทอง และเหตุการณ์ ยิงรถตู้โดยสารที่ยะลา รวมทั้งการเกิดควันจากการเผาป่าในเขตภาคเหนือ ทำให้มีหมอกควันปกคลุมไปทั่วทั้งพม่า ลาว เขมร และภาคเหนือตอนบนของไทย ซึ่งทุกประเทศล้วนจะสามารถเห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาในวันที่ 19 มีนาคม 2550 ได้
ตำแหน่ง 28 องศาราศีมีนนี้ถ้าตรงกับตำแหน่งจุดเจ้าชะตาของผู้ใด แสดงว่า ชีวิตของเขาเหล่านั้นจะมีเหตุการณ์สำคัญในทางด้านที่ไม่สู้จะดีนัก ตัวอย่างเช่น
ทำมุม 120 องศา กับ อาทิตย์ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ 28 องศาราศีพิจิก
ทำมุม 180 องศา กับ อาทิตย์จรสุริยยาตร์ (Solar arc)ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ 28 องศาราศีกันย์
รวมทั้งยังส่งอิทธิพลไปยังผู้ที่เกิดประมาณ วันที่ 18-20 เดือน มีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม จะได้รับอิทธิพลค่อนข้างมาก และผู้ที่เกิดประมาณวันที่ 2-4 พฤษภาคม สิงหาคม พฤศจิกายน และกุมภาพันธ์ ก็จะได้รับอิทธิพลแรงด้วย
เปรียบเทียบข้อมูลปี 2519 และ 2549 มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับครอบครัว ชินวัตร ดังนี้
- ปี 2518 นายเลิศ ชินวัตร บิดาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส. สมัยที่ 2 มีการยุบสภาเมื่อเดือนมีนาคม 2519 นายเลิศ ชินวัตร ยุติบทบาททางการเมือง ไปประกอบธุรกิจ ขณะที่ปี 2519 พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ต้องแท้งบุตรคนแรก
- ปี 2548 (30 ปีต่อมา) พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการเลือกตั้งสมัยที่ 2 และเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ด้วย 19 กันยายน 2549 มีการยึดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และมีการสอบสวนการทุจริตหลายคดี ครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกสอบสวนเรื่องการขายหุ้น การโอนหุ้น และเกี่ยวข้องไปถึงลูกๆด้วย ปี 2519 หลังยุบสภา นายเลิศวางมือทางการเมือง แต่ ปี 2549 สถานการณ์เปลี่ยนไป พ.ต.ท.ทักษิณกลายเป็นต้นเหตุของการยึดอำนาจ และ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีกิจกรรมเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมือง ดังนั้นจึงไม่เกิดความสงบเช่นเดียวกับบิดา คือ นายเลิศ ที่ประกอบธุรกิจอย่างเป็นปกติ ในทางโหราศาสตร์ถือว่าเป็นกรรมใหม่ของครอบครัวนี้
ดังนั้นจะได้เห็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของบุคคลทั้ง 2 ต้องประสบเหตุการณ์ซ้ำรอยในอดีตของตนเอง เช่นเดียวกับเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปี 2519 ที่แท้งบุตรคนแรกที่สหรัฐอเมริกา ในทางโหราศาสตร์ บุตรหมายถึงเรือนที่ 5 และราศีสิงห์ ซึ่งมีความหมายอื่นๆอีกดังนี้ การลงทุน หุ้น การแข่งขัน การพนัน การเสี่ยงโชค บุคคลชั้นสูงในสังคม (ประเภทไฮโซ) ในปี 2549 บุคคลต่างๆที่แวดล้อม พ.ต.ท. ทักษิณ ล้วนเกี่ยวข้องกับคดีหุ้น และคดีหวย หลายคน
- ปี 2544 พ.ต.ท.ทักษิณ (ชาวราศีสิงห์ซึ่งมีอิทธิพลอุปมาอุปมัยเช่นเดียวกับเรือนที่ 5) เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีท่ามกลางข้อกล่าวหา คดีซุกหุ้น และถึงวันนี้วงจรชีวิตเวียนมาครบรอบด้วย คดีเกี่ยวกับหุ้น และการเสี่ยงโชค หวยบนดิน 2 ตัวและ 3 ตัว
อิทธิพลทางโหราศาสตร์ เกี่ยวกับวงรอบการเกิดซ้ำนั้น กล่าวว่า เหตุการณ์จะเกิดซ้ำภายใต้เงื่อนไขของสภาพแวดล้อมที่เหมือนเดิม (อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยรักไทย ความเหมือนบนความต่าง ได้ที่ www.horauranian.com และ www.horathai.com )
สถานการณ์ของประเทศไทย ในมุมมองของโหราศาสตร์
นับจากระยะนี้ไปอีก 1-3 เดือนข้างหน้าจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของการเกิดคราสทั้ง 2 ครั้งของเดือนมีนาคม 2550 ดังต่อไปนี้
- น่าจะมีการสูญเสียบุคคลชั้นนำ เช่นระดับรัฐมนตรีทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีอีก แม้ว่าได้มีการปรับรัฐมนตรีมาแล้วก็ตาม (ในสังคมโลกเราจะเห็นการชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่ ประธานาธิบดีบุช )
- จะได้เห็นบทบาทของผู้มีอำนาจรัฐที่แข็งกร้าว เพื่อสยบกระแสคลื่นลมที่ไม่สงบ ยุทธการด้านสื่อสารมวลชนยังมีอิทธิพลรุนแรง การสร้างข่าวเพื่อลดความน่าเชื่อถือจะโหมกระหน่ำมากขึ้น
- ประชาชนทั่วไปต้องมีสติในการรับรู้ข่าวสาร และคัดกรองหาความน่าเชื่อถือว่า ข่าวใดที่น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง (ทำให้นึกถึง หนังสือพิมพ์เจ้าพระยา เมื่อปี 2519 - 2520 ที่เป็นหนังสือพิมพ์โฆษณาชวนเชื่อที่ปัญญาชนไม่ซื้ออ่าน)
- ความคลุมเครือต่างๆจะคลี่คลาย ความจริงจะค่อยๆเปิดเผยต่อสาธารณชนมากขึ้นเรื่อยๆ มีผลทำให้ฝ่ายผู้สูญเสียอำนาจถอยร่นไม่เป็นขบวน
- จะเห็นกระบวนการการเอาตัวรอดด้วยวิธีการต่างๆนาๆ
- สถานการณ์ทางการเมืองที่งวดเข้ามานี้มีผลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก มาตรการของรัฐเพื่อรักษาค่าเงินบาทประสบความสำเร็จที่น่าพอใจ มีกระแสเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาในระบบมากขึ้นซึ่งน่าจะดีกับตลาดหลักทรัพย์ด้วย
- เหตุการณ์ทั่วไป กระแส วัตถุความเชื่อ จะมีปัญหาเรื่องของแท้ระบาดในของปลอมจนแยกไม่ออกว่าใครแท้ใครปลอม ความเชื่องมงายในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์จะมีอิทธิพลแรงกว่าความศรัทธาในหลักศาสนา มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องศาสนาทั้งในวัดและในการร่างรัฐธรรมนูญ การหลอกลวง มีการอ้างถึงศาสนาไปใช้ในทางที่ผิด ก่อให้เกิดความเสียหาย และการใช้ความรุนแรง
- การถูกควบคุม การถูกคุมขัง การหลบหนี การลี้ภัย และการเดินทางครั้งสุดท้ายของชีวิต ของผู้สูญเสียทั้งหลาย
- คนพวกเดียวกันจะปะท้วงกันเอง
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ในมุมมองทางโหราศาสตร์
- นายกรัฐมนตรีจะกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงปลายปี 2549 และธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ออกมาต่อสู้ด้วยนั้น ถือเป็นมาตรการที่เหมาะสม ผู้บริหารด้านเศรษฐกิจควรพิจารณา วิธีคิดและวิธีปฏิบัติ เหมือนที่ผู้นำของไทยเมื่อปี 2527 ได้แก้ปัญหาเป็นผลสำเร็จด้วยดี นำมาปรับใช้ป้องกันและแก้ปัญหาในปี 2550 เพื่อจะได้ไม่เกิดความเสียหายมากนัก รวมทั้งนำมาตรการประหยัดมาใช้ ก่อนที่จะเกิดสภาวะความกดดันหรือโดนบีบจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เหมือนปี 2540
(ส่วนหนึ่งของบทความ สถานการณ์ของโลก ประเทศไทยและดวงชะตาของคุณในปี 2550 เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2549 www.horathai.com และ www.horauranian.com )
- ตลาดหุ้นของไทยคงจะมีมาตรการบางอย่างเพื่อเสริมความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ ตลาดหุ้นของอเมริกาน่าจะมีปัญหาวิกฤติ ทำให้นักลงทุนขนเงินออกนอกประเทศ และส่วนหนึ่งน่าจะมาลงทุนในประเทศไทย
- มีการปรับเปลี่ยนนโยบายหรือผู้รับผิดชอบเพื่อดุแลรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
- ต้องระวังการโจมตีเสถียรภาพค่าเงินบาท จากผู้มีอิทธิพลทางการเมืองที่มีส่วนอยู่เบื้องหลัง มาตรการเกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท จะมีผลทำให้ผู้ที่หวังจะได้ประโยชน์ต้องกลับกลายเป็นผู้เสียประโยชน์เสียเอง
- การลงทุนในตลาดหุ้นของไทยต้องอาศัยความรอบคอบ ผู้ที่คิดเก็งกำไรคงเดือดร้อนกันทั่ว
สรุป
การเกิดคราสครั้งนี้ แม้ว่าจะมีปัจจัยที่อาจจะทำให้พิจารณาได้ว่า น่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง แต่ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะปัจจัยที่บ่งชี้เช่นนั้นยังไม่แหลมคมเพียงพอ ประกอบกับดวงชะตาประจำปี 2550 ของประเทศไทย ก็ไม่มีปัจจัยที่บอกถึงความรุนแรง
การนำตารางเปรียบเทียบเหตุการณ์ปี 2520 กับปี 2550 นั้น เพื่อที่จะบอกว่า เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงนั้นยังมี แต่วิธีการนั้นไม่เหมือนเดิม เงื่อนไขแตกต่างกันทั้งในตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีแนวความคิดแตกต่างกัน และประการสำคัญสิ่งแวดล้อมต่างๆบน ถนนราชดำเนินวันนี้ต่างจากถนนราชดำเนินเมื่อปี 2520 หรือปี 2535 อย่างสิ้นเชิง ปลายสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าวันนี้ไม่มีอาคารที่ทำการของกรมสรรพากร และไม่มีสถานีตำรวจนางเลิ้งอยู่ ณ ที่ตำแหน่งเดิม ที่เคยถูกเผามาแล้วทั้งจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 หรือ 6 ตุลาคม 2519 และ 17 พฤษภาคม 2535
เหตุการณ์ที่อึมครึมต่างๆจะเริ่มชัดเจน เหมือน ปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่นำความมืดมาปกคลุมฟ้าเมืองไทย และเมื่อปรากฏการณ์ผ่านพ้นไปพร้อมกับนำความมืดคลึ้มในเวลากลางวันไปด้วย แสงแดดก็จะสาดส่องนำความสว่างมาให้กับทุกชีวิต ยกเว้นผู้ที่ต้องจากไปพร้อมกับสุริยุปราคา
ที่มา : http://www.rakbankerd.com/
