วิโรจน์ กรดนิยมชัย
28 มีนาคม 2550
จันทร์เพ็ญหลัง 0 นาฬิกา ของคืนวันที่ 2 เมษายน เป็นสัญญาบอกถึงเหตุการณ์สำคัญของประเทศไทย บอกถึงการเปลี่ยนแปลง บอกถึงความสูญเสีย บอกถึงความกร้าว แกร่ง เด็ดขาด เฉียบพลัน แต่ทว่าสุภาพ อ่อนน้อม และไม่กระด้าง มาตรการต่างๆ กฎ ระเบียบ กติกาของสังคมเท่าที่มีจะถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้มีอำนาจรัฐจะดำเนินการกับสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียดทั้งทางสังคม และวิกฤติทางการเงิน ด้วยการเจรจา และการทำข้อตกลงที่ไม่ต้องปฏิเสธ เช่นเดียวกับผู้นำประเทศต่างๆในโลกก็หันหน้าเข้าหากันเพื่อ เจรจา หรือการทำข้อตกลงร่วมกัน เหตุการณ์ของประเทศไทยในระยะนี้ จะเป็นประเด็นที่น่าสนใจของประเทศต่างๆ แทบจะเรียกได้ว่า โลกกำลังจับตามอง มองดูว่าประเทศไทยกำลังเดินมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ทั้งหลักการ วิธีการ และตัวบุคคล ที่เป็นปัจจัยหลักของเหตุการณ์ในสังคม พร้อมกับการเกิดใหม่หรือการเริ่มต้นของ ผู้นำในบ้าน
สภาพแวดล้อมบนถนนราชดำเนินเปลี่ยนไปแล้ว และไม่มีสัญญาณใดๆทางโหราศาสตร์ที่บ่งบอกถึงความรุนแรงกลางเมืองหลวง ไม่มีโอกาสเรียกหาเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 หรือ กรณี 6 ตุลาคม 2519ให้หวนคืนชีพได้ (14 ตุลาคม 2516 ไม่ต้องพูดถึงเพราะปัจจัยของเหตุการณ์และวงรอบเป็นคนละเรื่องกัน) ความสูญเสียจะยังเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน และการสูญเสียเนื่องจากปัญหาสุขภาพทั้งของประชาชนทั่วไปและนักการเมืองที่สังคมรู้จักเป็นอย่างดี มีการสูญเสียเนื่องมาจากอุบัติเหตุจากการเดินทาง การคมนาคม และการขนส่ง
สถานการณ์ของ ผู้มีบารมีตามรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ระยะนี้จนถึงช่วงสงกรานต์ กำลังเดินเข้าสู่จุดอับ ปมเชือกยิ่งแก้ยิ่งมัดแน่น และใกล้ถึงโศกนาฏกรรมของชีวิต
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเงินการคลังเข้าขั้นวิกฤต หรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผัน มาตรการเพื่อรักษาค่าเงินบาท จะทำให้มีคนเจ็บตัว แม้กระทั่งฝ่ายรัฐก็ยังเจ็บ ราคาน้ำมันมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น ราคาทองคำมีการแกว่งตัวขึ้นแรงลงแรง
สถานการณ์ตลาดหุ้น ในมุมมองทางโหราศาสตร์ อาจจะต้องมีวันที่ต้องหยุดทำการซื้อขายในหุ้นบางตัวในกลุ่มขนส่ง สิ่งพิมพ์ สื่อสาร หรือหยุดทำการทั้งตลาด นักเล่นเก็งกำไรคงหน้ามืด การลงทุนระยะสั้น ซื้อขายวันต่อวันจะดีกว่า
กลุ่มที่มีอนาคตดี จะเป็นเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิหลังยาวนาน ได้แก่ อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม บันเทิง เคมีภัณฑ์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง อุปกรณ์อิเลคโทรนิค ทรัพยากร เทคโนโลยี สินค้าแฟชั่น พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ดีขึ้นมาบ้าง
กลุ่มที่มีอนาคตไม่ดี ได้แก่ สถาบันการเงิน กลุ่มสื่อสารต้องจับตาความเคลื่อนไหวของแหล่งทุนจากนอกประเทศจะเป็นตัวแปรที่สำคัญ ขนส่ง สื่อสิ่งพิมพ์ เหล็ก สุขภาพและโรงพยาบาล พาณิชย์ ICT ท่องเที่ยว วัสดุก่อสร้าง