วิโรจน์ กรดนิยมชัย
10 พฤษภาคม 2550
เริ่มเดือนใหม่ทางจันทรคติในราศีพฤษภ เป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มต้นที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจของโลกซึ่งจะมีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลง มีปัจจัยทางโหราศาสตร์แปลความหมายได้ว่า นับจากกลางเดือนพฤษภาคม กลางเดือนมิถุนายน จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาลในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ และฝรั่งเศส ที่จะมีการเปลี่ยนผู้นำซึ่งต่างก็เป็นชาติมหาอำนาจในยุโรป ย่อมส่งผลกระทบต่อทิศทางของระบบเศรษฐกิจของยุโรปและของโลกในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศต่างๆในภูมิภาคอื่นๆก็จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาลด้วยเช่นกัน
สถานการณ์ของประเทศไทย การดำเนินนโยบายเกี่ยวกับต่างประเทศจะได้รับความสำเร็จที่น่าพอใจ แต่สถานการณ์ภายในประเทศกลับตรงกันข้าม สังคมไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตื่นตัว เตรียมความพร้อมรับมือกับกับความไม่สงบ(ยังไม่ถึงขั้นจลาจล)ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทหารจะมีบทบาทในทางสังคมมากขึ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบไม่ให้ลุกลามบานปลายมากไปกว่านี้ นอกจากนี้จะมีเหตุการณ์เหมือนการเริ่มต้นใหม่ของรัฐบาล ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งในเร็วๆนี้เหมือนปี 2520 และปี 2535
สถานการณ์ตลาดหุ้น ในมุมมองทางโหราศาสตร์ ผมได้ข้อมูลวันประกาศใช้ พ.ร.บ. ตลาดหลักทรัพย์ 20 พฤษภาคม 2517 จึงนำมาอ่านดวงชะตา พบว่า ความคาดหวังของการตั้งตลาดหลักทรัพย์คือ การหวังที่จะได้เงินตราจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพื่อสร้างความเติบโตให้ตลาดหุ้นภายใต้กรอบหรือกติกาที่ดูเหมือนรัดกุมแต่สามารถยืดหยุ่นได้ ซึ่งเหมาะที่จะมีการซื้อขายในระยะสั้น หรือเป็นประโยชน์กับผู้ทำหน้าที่นายหน้าซื้อขายที่จะได้รับค่านายหน้ารวดเร็วและตลอดเวลา ในส่วนของนักลงทุนต้องใช้จินตนาการและอาศัยความช่วยเหลือจากนายหน้าที่จะให้ข้อมูลหรือชี้นำ (รายละเอียดอื่นๆอาจจะต้องเขียนเป็นบทความต่างหาก)
จากดวงชะตาการครบรอบ 32 ปีของตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 ที่ผ่านมา ได้เห็นปัจจัยที่บ่งบอกถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นเหมือนช่วงปี 2535 ซึ่งเป็นยุคที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน น่าจับตากลุ่มทุนจากต่างประเทศที่จะมาเล่นกลอะไรกับตลาดหุ้นผ่านทางกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ในระยะ 1 เดือนข้างหน้านี้ที่จะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือเพื่อทำกำไร หุ้นของกิจการกลุ่มที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยมจะมีโอกาสทำผลประโยชน์ตอบแทนในระยะยาวได้ดีกว่าการเล่นหุ้นตามกระแส ราคาน้ำมันจะขยับตัวสูงขึ้นอีก
กลุ่มที่มีอนาคตดี สุขภาพและโรงพยาบาล พลังงาน เคมีภัณฑ์ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง สื่อสิ่งพิมพ์ อุปกรณ์อิเลคโทรนิค ทรัพยากร เทคโนโลยี กลุ่มผู้ส่งออกอุตสาหกรรมการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม อัญมณีและเครื่องประดับ
กลุ่มที่มีอนาคตไม่ดี ได้แก่ บันเทิง กลุ่มสื่อสาร เหล็ก พาณิชย์ ICT ท่องเที่ยว วัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน สินค้าแฟชั่น