วิโรจน์ กรดนิยมชัย
8 สิงหาคม 2550
อมาวสีเดือนสิงหาคมนี้มีอิทธิพลนับจากนี้ไป 1 เดือน มีความสำคัญต่อสถานการณ์ของโลกและประเทศไทยเป็นอย่างมาก ในด้านอิทธิพลต่อสถานการณ์ของโลกโดยเฉพาะเกี่ยวกับสภาพดินฟ้าอากาศของโลกน่าจะมีความแปรปรวนอย่างมาก เป็นช่วงที่จะมีพายุก่อตัวหลายลูกหลายแห่ง เกิดอุทกภัยสร้างความเสียหายหลายพื้นที่ ในส่วนของประเทศไทย จะพบว่าตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม ปริมาณฝนจะมากในภาคเหนือและจะค่อยๆเคลื่อนตัวลงมาประมาณวันที่ 12-14 สิงหาคม มีผลทำให้ กทม. น่าจะมีปริมาณฝนมากและอาจจะมีน้ำท่วม หลังจากนั้นจึงเคลื่อนลงภาคใต้เรื่อยไปพ้นเขตประเทศไทยประมาณวันที่ 18 สิงหาคม ซึ่งแสดงว่า ช่วงนั้นทุกภาคของประเทศไทยน่าจะได้รับอิทธิพลของพายุฝนน้อยลง นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลที่แสดงถึงการหลอกลวง ความเท็จ และความผิดหวัง ดังนั้นผู้ที่มีวันคล้ายวันเกิดในช่วงอมาวสีนี้ พึงระมัดระวัง
ปฏิบัติการใดๆของสหรัฐอเมริกาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ ตามที่จอร์จ บุช จะประกาศไม่ยอมให้อัฟกานิสถานปล่อยตัวนักโทษเพื่อแลกตัวประกัน ซึ่งอาจจะหมายความถึงการใช้ปฏิบัติการเพื่อชิงตัวประกัน นั่นคือความสูญเสียของตัวประกันชาวเกาหลีใต้ .. นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครต้องการแน่ๆ
ในส่วนของประเทศไทยอาจจะเห็นภาพเหตุการณ์บางอย่างที่เคยคลุมเครือได้ชัดเจนขึ้น แต่ในขณะที่บางเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนั้นอาจจะไม่สามารถตอบคำถามได้ว่า จริงหรือเท็จ อาจจะหมายถึงข่าวลือ ข่าวโคมลอย เช่น การเปิดโปงคดีสำคัญบางคดีที่มีผลทำให้เกิดข่าวลือว่าผู้เกี่ยวข้องที่สำคัญหนีความผิดถึงขั้น ฆ่าตัวตาย หรือการปล่อยข่าวการพยายามลอบสังหารใครบางคน ในอีกด้านหนึ่งอาจจะหมายถึงมีการเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรี หรือไม่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้เลยมีแต่เพียงการเหตุการณ์หลอกลวงรายวัน หรือการขายวัตถุความเชื่อโดยแอบอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์
การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศบางอย่างของรัฐบาลอาจจะมีใครบางคนนำไปขยายผลในทางที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทย ในมุมมองทางโหราศาสตร์ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทน่าจะมีเสถียรภาพในระดับที่น่าพอใจแม้ว่าจะมีฝรั่งหัวดำพยายามโจมตี หรือสร้างแรงกดดันต่างๆนานา ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะมีการเก็งกำไร หรือผลจากการซื้อขายล่วงหน้าจนทำให้มีราคาสูงขึ้นแต่ราคาน้ำมันในประเทศน่าจะยังคงราคาไม่เปลี่ยนแปลง ด้านแรงงาน สัปดาห์นี้ไม่มีภาพการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน ตลาดหุ้นน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดัชนีน่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก
กลุ่มที่มีอนาคตดี พลังงาน เคมีภัณฑ์ กิจการน้ำมันและก๊าซ อัญมณีและเครื่องประดับ โรงแรม สถาบันการเงินที่อนุรักษ์นิยม อาหาร สินค้าแฟชั่น สุขภาพและโรงพยาบาล อุปกรณ์อิเลคโทรนิค ทรัพยากร เทคโนโลยี วัสดุก่อสร้าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ กลุ่มขนส่ง สื่อสิ่งพิมพ์
กลุ่มที่มีอนาคตไม่ดี ได้แก่ กลุ่มผู้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม และสิ่งทอ เครื่องดื่ม บันเทิง ท่องเที่ยว เหล็ก