วิโรจน์ กรดนิยมชัย
7 พฤศจิกายน 2550
จันทร์ดับ หรือจันทร์ใหม่ (New Moon) ตรงกับเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน 2550 ประเทศไทยมีอิทธิพลต่อภูมิภาคต่างๆทั่วโลกในเรื่องของการตายของประชาชน ความเสียหายกับฝูงสัตว์ปีก และสัตว์น้ำ รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายทะเล การลอบสังหารบุคคลสำคัญผู้ใฝ่สันติของประเทศต่างๆ อิทธิพลนี้อาจจะแสดงผลล่าช้าในช่วงจากนี้ไปจนถึง ต้นเดือนธันวาคม 2550 สถานการณ์ความรุนแรงในระดับโลกน่าจะถึงจุดที่ผ่อนคลาย มีสันติภาพในระดับที่เห็นได้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า การเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ของประเทศผู้มีส่วนได้ส่วนเสียลงตัวกันแล้ว นอกจากนี้แล้วยังมีอิทธิพลต่อความผันผวนของระบบเศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม จีน และไทย โดยเฉพาะในภาคอิสานของไทยน่าจับตาการเคลื่อนไหวของเงินทุน ต่างๆที่ระดมปูพรมเข้าไปมากผิดปกติ หรืออาจจะเป็นเส้นทางเดินของเงินผ่านประเทศต่างๆเหล่านี้ก็ได้
เหตุการณ์ทั่วไปของประเทศไทยประจำสัปดาห์นี้ที่น่าสนใจ ได้แก่ ข้อจำกัดต่างๆ หรือการที่ต้องพลัดพรากจากกันของบุคคลที่คุ้นเคยกันในคณะรัฐบาล หรือการพลัดพรากจากไปของบุคคลชั้นนำในสังคม การเริ่มต้นชีวิตใหม่ของบุคคลในวงการศิลปะ วัฒนธรรม นักแสดง หรืออาจเป็น ได้ว่าช่วงนี้มีบุคคลเหล่านี้แต่งงานหรือจับคู่กันหลายคู่
สภาพดินฟ้าอากาศ : ช่วงบ่ายถึงค่ำของวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ บริเวณชายฝั่งภาคใต้ของไทยอาจจะต้องระวังผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งอาจจะมีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วม ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลงอีก
แวดวงการเมือง : สัปดาห์แรกของการหาเสียงเลือกตั้งคงไม่น่ามีเหตุการณ์อะไรรุนแรงหรือน่าวิตก รวมทั้งสถานการณ์ความรุนแรงต่างๆในรอบสัปดาห์นี้คงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงมากรายนัก
ด้านสาธารณสุข :ยังต้องเตรียมการสำหรับภาวะฉุกเฉินบางอย่าง เช่น การป้องกันโรคระบาดที่จะมากับอากาศที่หนาวเย็น และโรคติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทย :น่าสนใจการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยการออกกฎหมายทางการเงิน และอาจจะโชคดีที่กฎหมายผ่านสภาไปได้ ทำให้สามารถยืดอายุผู้บริหารได้อีกระยะหนึ่ง ปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้น จะยังเป็นปัญหาวิกฤติต่อไปอีก
ตลาดหุ้นของไทย: อาจจะมีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นและมีผลต่อการแกว่งตัวของดัชนีตลาดหุ้นบ้างในช่วงต้นสัปดาห์หน้ารวมทั้ง ปัจจัยภายนอกที่น่าจับตาได้แก่ การปรับตัวของตลาดเงิน อัตราดอกเบี้ย ในตลาดสหรัฐอเมริกาที่กำลังย่ำแย่ อาจจะทำให้นักลงทุนหอบเงินหนีมาในตลาดหุ้นไทยได้ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นมีทิศทางสูงขึ้นได้ หุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินน่าสนใจเป็นพิเศษ อาจจะมีข่าวการปรับเปลี่ยนองค์กร หรือการควบรวมกิจการ