วิโรจน์ กรดนิยมชัย
8 ธันวาคม 2550
ภายหลังการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 คณะผู้ทำการปฏิวัติมุ่งแต่ที่จะรักษาความสงบ ความสมานฉันท์ ความเป็นกลาง และการรักษาคำพูดที่ได้กล่าวไว้ว่าจะส่งคืนอำนาจให้แก่ประชาชนคนไทยโดยเร็วที่สุดเพื่อลดกระแสความกดดันจากสังคมโลกที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร (ที่ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา) พร้อมกับการกำหนดกรอบเวลาการร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน เพื่อจะได้จัดให้มีการเลือกตั้งภายในปี 2550 สอดรับกับท่าทีและบทบาทของรัฐบาลที่วางตัวเป็นกลาง เป็นกลางจนแทบจะเข้ากับฝ่ายไหนไม่ได้เลย โดยเฉพาะกับฝ่ายที่ต่อต้านกลุ่มอำนาจเก่าที่แม้จะไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ แต่สถานการณ์ของประเทศไทยในปี 2549 และในขณะนั้น แม้ว่าในดวงชะตาของประเทศไทยประจำปี 2549 จะไม่ปรากฏให้เห็นว่าจะมีการต่อสู้ถึงขั้นนองเลือดกันก็ตาม หากไม่มีการยึดอำนาจในคืนวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า เช้าวันที่ 20 กันยายน 2549 ประชาชนคนไทยจะต้องหลั่งเลือดกันเองอีกหรือไม่
แล้วเงื่อนเวลาของการเลือกตั้งก็มาถึง 23 ธันวาคม 2550 กระบวนการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ทั้งที่เป็นพรรคตัวจริง พรรคตัวปลอม พรรคตัวแทน นักการเมืองที่ประกอบด้วย นักการเมืองอาชีพ นักการเมืองสมัครเล่น นักการเมืองจำเป็น นักการเมืองตัวแทน หลายคน หลายพรรค ต่างได้รับผลกระทบ และผลกรรม ที่แตกต่างกันไปสุดแท้แต่ว่าใครทำกรรมอะไรกันไว้บ้าง จนสุดท้ายแล้วถึงวันเลือกตั้งจะเหลือรอดจำนวนนักการเมืองได้กี่คน กี่พรรค มีคำถามกันมากมายว่า พรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือรัฐบาลผสม แล้วจะผสมกันกี่พรรค แล้วใครจะผสมกับใคร แล้วใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี โพล และหมอดูทั้งของแท้ ของจริง และของรับจ้าง ต่างก็ออกมาทำหน้าที่ของตนเองตามบทกรรมของแต่ละคน
สถานการณ์โดยทั่วไปของประเทศไทย ในปี 2551
มักมีคำพูดที่ว่า ประเทศไทยจะก้าวตามประเทศอื่นไม่ทันอยู่เสมอๆ แต่ไม่เคยมีใครให้คำตอบว่าทำไมจะต้องตามให้ทัน ทันไปเพื่ออะไร หรือใครบ้างที่จะได้ประโยชน์จากการก้าวทันประเทศอื่น แต่ไม่เคยมีใครพูดถึงการเป็นประเทศไทยที่มีความเป็นตัวของตนเอง มีบริบทเป็นของตนเอง เป็นเท่าที่จะเป็นตามกำลังความสามารถของคนไทย สังคมไทยในปี 2551 เป็นการเริ่มต้นก้าวเดินก้าวใหม่ เป็นการเริ่มต้นที่กระฉับกระเฉง มีความตื่นตัว มีความกระตือรือร้นเป็นพักๆ เป็นการริเริ่มสิ่งใหม่แต่ขาดความต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากกฎเกณฑ์ และระเบียบต่างๆของรัฐเองที่ทำให้ฝ่ายบริหารไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนงาน หรือกลไกของรัฐบางส่วนที่ไม่ให้ความร่วมมือแก่คณะผู้บริหารประเทศหลังการเลือกตั้ง และความไม่ต่อเนื่องอันเนื่องมาจากกลไกของคณะรัฐบาลผสมที่ร่วมมือกันทำงานโดยมีวาระซ่อนเร้นที่แตกต่างกัน เป็นก้าวเดินที่มีภาพของความชุลมุนวุ่นวาย อันอาจจะเนื่องมาจากสาเหตุได้หลายประการ เช่น
1. ฝ่ายที่ไม่ได้รับการยอมรับตามกติกาสังคม พยายามที่จะสร้างเงื่อนไขหรือประเด็นปัญหา เช่น ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม หรือการใช้อิทธิพลนอกกฎหมาย
2. ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ที่บางช่วงจะมีความรุนแรงอย่างน่ากลัว
3. ปัญหาจากภัยพิบัติตามธรรมชาติ
4. ปัญหาของการเป็นรัฐบาลผสมที่แต่ละพรรคมีเป้าประสงค์ไม่ตรงกัน
มีภาพของการเคลื่อนกำลังทหารและตำรวจ ซึ่งอาจจะเป็นการซ้อมรบ การสวนสนาม หรือ เพื่อการแสดงแสนยานุภาพอย่างหนึ่งอย่างใดแล้วที่นอกเหนือจากการเข้าปราบปรามและระงับเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาตามปกติในพื้นที่ภาคใต้ และพื้นที่อื่นๆด้วย
ผู้นำรัฐบาลจะเป็นบุคคลที่ยึดมั่นในกรอบ จารีตประเพณีอันดี มีความเป็นผู้ดี ผู้มีความรู้ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการยอมรับในระดับนานาประเทศได้ แต่ความสามารถนั้นมีขีดจำกัดที่ไม่อาจจะประคองรัฐนาวาให้ผ่านพ้นปี 2551 ได้ นอกจากการปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว ทางออกสุดท้ายคือการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ภายในปี 2551
สถานการณ์ทางการเมือง และสังคมไทยในปี 2551
เมื่อปี 2549-2550 ดาวเสาร์เป็นดาวสันโดษในราศีสิงห์ ส่งผลให้ประเทศต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วยที่เป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงผู้นำ ในปี 2551 ดาวเสาร์เป็นดาวสันโดษในราศีกันย์ หมายถึงข้อจำกัด การพลัดพราก การเปลี่ยนแปลง ทางการเมือง ซึ่งในภาพกว้างจะหมายถึง ช่วงเวลาที่การเมืองภายในประเทศต่างๆมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงในวิธีการคิด วิธีดำเนินการและการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางการเมือง ในประเทศไทยจะเห็นได้จากการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยการเพิ่มข้อจำกัด และข้อห้ามต่างๆเพื่อป้องกันการตีความเข้าข้างตนเองเมื่อเวลานำไปใช้ ซึ่งมีผลทำให้การเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 มีความยุ่งยากมากขึ้น ยากทั้งคนเขียนกฎหมาย ยากทั้งคนดูแลกฎหมายและยากไปถึงผู้ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย การสร้างกรอบที่แข็งเช่นนี้ คงไม่เฉพาะประเทศไทย ประเทศอื่นๆก็จะเจอการมีกฎหมายควบคุมที่เพิ่มข้อจำกัดต่างๆเช่นกัน เพียงแต่ เราไม่รู้เรื่องในบ้านของคนอื่น ก็เลยเห็นแต่เพียงของในบ้านของเราว่ามีข้อจำกัดมาก
ขณะเดียวกันในวันขึ้นปีใหม่ทางดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ในวันที่ 22 ธันวาคม 2550 ดาวพฤหัสโคจรทับดวงอาทิตย์ที่จุดตั้งต้นราศีมกร ซึ่งมีอิทธิพลหมายถึง บุคคลผู้ประสบความสำเร็จ บุคคลผู้ที่มีปัญญาความรู้ ประสบความสำเร็จมาด้วยความยากลำบาก ดำเนินชีวิตมาตาม กรอบ และข้อจำกัดอย่างเคร่งครัด และการได้อย่างเสียอย่าง แปลความหมายทั่วไปจะหมายถึง บุคคลที่จะโดดเด่นในสังคมในประเทศต่างๆในปี 2551 นี้ จะมีลักษณะเป็นคนที่มีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่ มีทั้งความรู้ คุณธรรม มองการไกล ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีอายุมากหรือน้อย ยึดมั่นในกรอบปฏิบัติ พร้อมกับราหูที่โคจรทับจุดตั้งต้นราศีมีนด้วย จะมีอิทธิพลหมายถึง การที่บุคคลที่เคยมีชีวิตสันโดษ ใช้ชีวิตในมุมสงบ เก็บตัว จะต้องปรับตนเองมาโลดแล่นในบทบาทที่ตรงข้ามกับบุคลิกเดิม จากคนที่สงบสุขุมจะกลายเป็นคนที่อารมณ์ผันแปรง่ายขึ้น จากการที่มักเก็บตัวเรียบง่ายกลับกลายเป็นบุคคลที่ดูหรูหราทันสมัย
ปัจจัยของดวงดาวทั้งสาม นี้ จะหมายถึงบุคคล ที่มีบทบาทเด่นในสังคมที่อาจจะเป็นคนๆเดียวกันทั้ง 3 ลักษณะ หรือเป็นบุคคลกี่คนก็ได้ และนี่คือ บุคลิกของคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย ไม่ว่าจะได้เป็นเพียง 1 วัน 3 เดือน หรือ 6 เดือนก็ตาม
ปัญหาชาย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมานานเกิน 100 ปี ย้อนไปถึงสมัยที่อังกฤษออกล่าอาณานิคม และมายึดครองเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยและ ตัดแบ่งประเทศไทยบางส่วนไปให้มาเลเซีย ปัจจัยทางโหราศาสตร์แสดงให้เห็นภาพของความสำเร็จของการพัฒนา มีแนวทางการเจรจาเพื่อสันติภาพและสันติสุขในระดับที่น่าพอใจของประชาชน การแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดสันติสุขนั้น รัฐบาลจะต้องเริ่มที่การสร้างความร่วมมือของผู้นำศาสนา และผู้นำสตรีในท้องถิ่น หากรัฐบาลสามารถเข้าถึงจิตใจของผู้นำสตรีใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ก็จะสามารถสร้างสันติสุขให้กลับคืนมาได้ ในปี 2551 รัฐบาลน่าจะสามารถลดระดับปัญหาและความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ได้ และน่าจะมีการพัฒนาภาคใต้ให้กลับมาเป็นปกติได้ในอนาคตอันใกล้
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจของไทยในปี 2551 รัฐบาลแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย หรือถ้าทำก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่ประกาศเป็นนโยบายได้ สิ่งที่จะได้ก็คือ การรับอานิสงส์จากรัฐบาลที่กำลังจะหมดวาระได้วางไว้ให้แล้ว เหมือนลูกหลานที่ได้รับมรดกมาแล้ว เอามาเล่นแร่แปรธาตุ หมุนเงินใช้ให้เป็นก็พอแล้ว
การค้าระหว่างประเทศน่าจะดีขึ้น เพราะต่างประเทศรอซื้อสินค้าจากไทยอยู่แล้ว
การคมนาคม การขนส่ง การสื่อสาร กิจการสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ น่าจะมีปัญหาความขัดแย้งกันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเกี่ยวกับสัมปทานที่จัดสรรไม่ลงตัว และ ปัญหาของกิจการเหล่านี้ที่เป็นคดีความอยู่ก่อนแล้วจะสร้างปัญหาให้ระบบต่างๆวุ่นวาย
ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีทิศทางที่ดี น่าจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสดีกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ
ธุรกิจการก่อสร้างและงานด้านวิศวกรรมจะมีการแข่งขันกันสูงและมีปัญหาความขัดแย้งกันได้ง่าย
การเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550
เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นวันที่ต่อเนื่องจากวันขึ้นปีใหม่ทางดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ คือ 22 ธันวาคม 2550 ดังนั้น จึงสามารถอ่านผลการเลือกตั้งจากดวงชะตาประจำปี 2551 ได้ด้วย จะมีเพียงข้อปลีกย่อยเฉพาะเรื่องของการเลือกตั้งที่จะสรุปผลได้ดังนี้
1. ผู้รับผิดชอบกับการจัดการเลือกตั้งมีความเครียด และตื่นเต้นอย่างมาก จนอาจจะดำเนินการบางสิ่งบางอย่างในลักษณะที่เก็บอาการไว้ไม่อยู่ อันเนื่องมาจากการที่ต้องรับแรงกดดันจากฝ่ายต่างๆรอบทิศ
2. มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวนมากที่จะถูกประกาศหมดสิทธิ์ก่อนวันลงคะแนน
3. มีความพยายามที่จะทำให้ไม่มีการเลือกตั้งตามกำหนด โดยพยายามสร้างเงื่อนไขเพื่อให้มีการใช้กำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ ทั้งก่อนการเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง แต่ไม่เป็นผล
4. บรรยากาศทั่วไปของการเลือกตั้งจะมีความคลุมเครือ หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ทั้งผู้จัดการเลือกตั้ง ผู้สมัคร ผู้สนับสนุนและกองเชียร์ทั้งที่เปิดเผย และไม่เปิดเผย จะมีการใช้ขบวนการในทางลับเพื่อดำเนินการให้ได้ผลตามที่แต่ละฝ่ายต้องการ
5. มีการให้ผลประโยชน์และผลตอบแทนทั้งที่เป็นตัวเงิน และอื่นๆในทางที่ไม่ปกติ มีความสลับซับซ้อน ยากที่จะรู้ได้ล่วงหน้าว่า ใครทำอะไร หรือทำอย่างไร จนกว่าจะเกิดเหตุก่อนแล้ว
6. มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากกว่าที่เคยมีมา เข้ารักษาความสงบเรียบร้อย
7. มีการใช้อาสาสมัครที่เป็นเด็กและผู้หญิงเฝ้าดูแลและติดตามการเลือกตั้ง อันอาจจะหมายถึง เจ้าหน้าที่ กกต. รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานต่างๆที่เป็นผู้หญิง อาจได้รับอันตราย หรือได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงานในครั้งนี้
8. ผลการเลือกตั้งจะได้รัฐบาลผสมของกลุ่มพรรคการเมืองที่เคยร่วมงานกันมาก่อน คะแนนเสียงรวมของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายรอเป็นรัฐบาลไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก ซึ่งจะเป็นตัวแปรตัวหนึ่งที่จะทำให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งมีอายุการทำงานไม่นาน ต้องปรับเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล หรือจนกระทั่งต้องยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่
9. การจัดตั้งรัฐบาลใหม่น่าจะแล้วเสร็จในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551
10. รัฐบาลจะมีอายุการทำงานได้ประมาณ 6 เดือน ประมาณเดือนสิงหาคม 2551 หากไม่ปรับเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาลก็น่าจะยุบสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
11. จะมีรัฐบาลคณะหนึ่งหรือนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งได้รับความนิยม ความชื่นชม จากชาวบ้านและผู้มีปัญญา ด้วยความจริงใจ หรืออาจจะมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับทางด้านศาสนาที่สังคมให้ความสนใจ
12. การแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะเป็นเรื่องแรกๆที่นักการเมืองแทบทุกคนจะรีบดำเนินการในทันทีที่มีโอกาส และการแก้ไขน่าจะประสบผลสำเร็จด้วย
สรุป
บทความนี้เป็นบทความทางโหราศาสตร์ที่ต้องการสื่อให้เห็นภาพของการใช้หลักวิชาการทางโหราศาสตร์ ไม่อิงกระแสข่าวหรือปัจจัยอื่นๆ ต้องการสื่อให้เห็นภาพดวงชะตาของประเทศไทยในปี 2551 ว่าภาพรวมเป็นอย่างไร การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรมหนึ่งที่จะได้มาซึ่งตัวละครที่จะมาโลดแล่นตามบทกรรมของประเทศไทยเท่านั้น ดวงชะตาของคน หรือดวงชะตาของประเทศก็เปรียบ เสมือนบทละครที่ได้ถูกกำหนดขึ้นมาแล้วว่าจะเป็นไปอย่างไร คนต่างหากเป็นเพียงตัวละครที่จะเล่นไปตามบทบาทให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกรรมของตนเอง จะต่างกันก็เพียงแต่บทละครนั้นเราสามารถพลิกดูฉากสุดท้ายก่อนได้ว่าจะจบลงอย่างไร แต่ในดวงชะตาคนหรือดวงชะตาของประเทศ ฉากสุดท้ายจะปรากฏเมื่อตัวละครนั้นได้แสดงผ่านพ้นไปแล้ว และรอรับผลกรรมที่ได้กระทำไว้