ReadyPlanet.com
dot
dot dot
dot
เกี่ยวกับเรา Horauranian.com
dot
bulletรำลึกถึง อาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์
bulletเจตนารมณ์
bulletติดต่อเรา
bulletโหราพยากรณ์
dot
บทความ
dot
bulletเกร็ดโหรน่ารู้
bulletเจาะลึกโหรา
bulletโหราศาสตร์บ้านเมือง
bulletBlog อ.วิโรจน์
bulletแนะนำตำรา
bulletไพ่ยิปซี จักรราศี (Celestial Tarot)
bulletกระดานถามตอบ
bulletคลังบทความดวงเมืองเศรษฐกิจ 2550-2552
bulletคลังกระทู้โหราศาสตร์ที่น่าสนใจ
dot
บทความน่าสนใจ
dot
bulletประเทศไทยหลังคดียึดทรัพย์ 2553
bulletReturn of Great Depression?
bulletChange! ผู้นำยุคใหม่ของโลก
bulletเรือนชะตาจันทร์ 28 เรือน
bulletโหราศาสตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์
bulletเลือกฤกษ์มงคลด้วยตนเอง
bullet6 ขั้นตอนเพื่อการดูหมออย่างคุ้มค่า
bulletชนะใจคนรัก 12 ราศี
dot
เว็บไซต์ที่น่าสนใจ
dot
bulletเพจ โหราศาสตร์ยูเรเนียน โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletโหราศาสตร์ยูเรเนียน โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletCelestial Strategist Blog
bulletBlog โหราเศรษฐกิจ
bulletเว็บไซต์ที่น่าสนใจ




รู้จักดาวทิพย์ในโหราศาสตร์ยูเรเนียน ตอน 4: เซอุส article

โดย Pallas
29 ธันวาคม 2550

เซอุส (Zeus)

          ดาวทิพย์ดวงที่ 3 ที่ค้นพบโดยท่านอัลเฟรด วิตเตอ มีชื่อว่า เซอุส (Zeus) ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันในหมู่นักโหราศาสตร์ยูเรเนียนชาวไทย อย่างไรก็ตาม หากไปค้นคว้าจากพจนานุกรมต่างประเทศก็จะออกเสียงว่า ซุส บางตำราก็ว่า ซีอุส สำหรับบทความนี้ก็ขออนุญาตใช้คำว่า เซอุส ตามความถนัดของผมนะครับ

          ท่านอัลเฟรด วิตเตอ ได้จัดให้เซอุสเป็นเกษตรในราศีสิงห์ ร่วมกับอาทิตย์ ดังนั้น ท่านที่ทราบความหมายของราศีสิงห์และอาทิตย์ก็จะพอทราบลักษณะเบื้องต้นของเซอุส อย่างไรก็ตาม ความหมายของเซอุสไม่ได้เหมือนกับราศีสิงห์และดาวอาทิตย์ทีเดียวนัก เพียงแค่มีกลิ่นคล้ายๆกันนั่นเอง

อัตราการโคจร

          จากการคำนวณของท่านอัลเฟรด วิตเตอ ท่านพบว่า ระยะทางโดยเฉลี่ยจากดวงอาทิตย์ถึงดาวเซอุส เท่ากับ 59.210 AU (Astronomical Unit หรือหน่วยดาราศาสตร์) ต่อมาเมื่อเจมส์ นีลีย์ได้ทบทวนการคำนวณปฏิทินดาวทิพย์ก็ได้ปรับเป็น 59.214 AU

          สำหรับระยะเวลาโคจรรอบจักรราศีนั้น ท่านวิตเตอคำนวณไว้เท่ากับ 455.64 ปี ส่วนเจมส์ นีลีย์ปรับแก้เป็น 455.659 ปี หรืออาจจะประมาณได้ว่า ดาวเซอุส โคจรผ่านแต่ละราศีจะใช้เวลาประมาณ 38 ปี หรือคิดเป็นอัตราโคจรปีละ 47 ลิบดา

ตำนานเทพกรีก-โรมัน

          จอมเทพเซอุสนั้นเป็นชื่อที่เรียกกันในภาษากรีก โดยชื่อโรมันของจอมเทพองค์นี้คือ จูปิเตอร์ (Jupiter) ในทางดาราศาสตร์แล้ว ได้นำชื่อของจอมเทพจูปิเตอร์ มาตั้งเป็นชื่อดาวเคราะห์ดวงที่ 5 ของระบบสุริยะ โดยในภาษาไทยได้ชื่อดาวพฤหัส ส่วนชื่อกรีกนั้น ท่านอัลเฟรด วิตเตอได้นำมาตั้งชื่อดาวทิพย์ดวงที่ 3 ที่ท่านค้นพบ การนำชื่อกรีกมาตั้งชื่อดาวทิพย์นั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สำนักฮัมเบอร์กนิยมเพราะได้นำมาใช้ถึง 5 ชื่อ ได้แก่ ฮาเดส, เซอุส, โครโนส, อาพอลลอน และโพไซดอน การที่นำชื่อกรีกมาใช้ทั้งๆที่ชื่อโรมันของเทพเจ้าเหล่านี้ได้ถูกนำไปใช้ในการตั้งชื่อดาวเคราะห์ดวงอื่นๆอยู่แล้ว ก็ทำให้เราสามารถเข้าใจได้ว่าดาวที่มีที่มาของชื่อเป็นเทพเจ้าองค์เดียวกัน ย่อมมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก แต่ลักษณะเด่นย่อมไม่เหมือนกัน

          สำหรับจอมเทพเซอุสนั้น ตามตำนานกล่าวว่าท่านเป็นโอรสของเทพโครนัส (บางทีก็เรียกว่าโครโนส แต่ชื่อโรมันคือเทพ Saturn) กับพระนางรีอา (Rea) ซึ่งแต่เดิมนั้นเทพโครโนสครองบัลลังก์จอมเทพอยู่บนเขาโอลิมปัส แต่ได้ถูกบิดาของตน (เทพยูเรนัส) สาปแช่งเอาไว้หลังจากที่เทพโครโนสปฏิวัติยึดอำนาจจากเทพยูเรนัสว่า จะถูกลูกๆของตนเองแย่งอำนาจเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนั้น เมื่อพระนางรีอาประสูติเทพโอรสหรือธิดาองค์ใด เทพโครโนสก็จะจับกลืนกินเสียทุกคน เป็นที่ทุกข์ใจของพระนางรีอาอย่างยิ่ง จนกระทั่งประสูติลูกคนที่ 6 หรือเทพเซอุส เธอจึงหลอกให้เทพโครโนสกลืนก้อนหินห่อผ้าแทน และแอบซ่อนพระโอรสไว้ในความดูแลของเหล่านางอัปสร เมื่อเทพเซอุสเติบโตเจริญวัยขึ้น ก็กลับมาต่อสู้กับเทพโครโนสบิดาของตนและเอาชนะได้ตามคำสาปแช่ง เทพเซอุสจึงบังคับให้เทพโครโนสสำรอกเอาลูกๆที่กลืนกินเข้าไปออกมารวม 5 องค์ ได้แก่ โพไซดอน, ฮาเดส, เฮสเทีย, ดิมีเตอร์ และฮีรา

          หลังจากยึดอำนาจจากเทพโครโนสผู้เป็นพ่อได้ เทพเซอุสจึงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นราชาแห่งทวยเทพทั้งปวง ครองบังลังก์บนยอดเขาโอลิมปัส และเลือกเทพีฮีรา พี่สาวคนเล็กเป็นพระราชินี จากนั้นได้มอบหมายให้พี่ๆทั้ง 5 องค์บริหารในเรื่องต่างๆ เช่น ให้เทพโพไซดอน ปกครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและแม่น้ำทั้งปวง, เทพฮาเดสปกครองยมโลก, เทพีเฮสเชีย เป็นเทวีแห่งไฟและควาผาสุกในเคหสถาน เป็นต้น หลังจากที่จอมเทพเซอุสขึ้นเป็นราชาแห่งเทพทั้งปวงแล้ว ก็ไม่เคยถูกโค่นล้มจากอำนาจอีกเลย ตำนานนี้ให้ความหมายของดาวทิพย์เซอุสในเรื่องของ การอำนวยการ นั่นคือมหาเทพเซอุสมีความสามารถในการบริหารจัดการหรือเรียกว่าการอำนวยการให้เป็นไปตามทิศทางที่วางไว้อย่างชัดเจน พูดง่ายๆว่ามีความเป็นผู้นำสูงนั่นเอง

          อาวุธสำคัญของมหาเทพเซอุสคือ สายฟ้า (Thunderbolt) ซึ่งสร้างโดยยักษ์ไซคลอปส์ อาวุธสายฟ้านี้ทรงอานุภาพอย่างยิ่ง ทำให้เมื่อครั้งเหล่าเทพไททัน (Titans) ที่ยังจงรักภักดีกับเทพโครโนสพยายามจะโค่นล้มพระองค์ มหาเทพก็ใช้อาวุธสายฟ้าปราบปรามจนไม่มีเทพองค์ใดต้านทานได้ ต้องพ่ายแพ้ไป สัญลักษณ์ สายฟ้า (Thunderbolt) นี้ก็บอกความหมายอีกประการหนึ่งของดาวเซอุสคือ ไฟที่ได้รับการควบคุม หรือกำลังงานที่ได้รับการควบคุม นั่นเอง

          เรื่องราวส่วนใหญ่ของมหาเทพเซอุสในตำนานเทพกรีก-โรมันมักจะเป็นเรื่องความเจ้าชู้ของพระองค์ แม้ว่าพระนางฮีราจะขี้หึงอย่างมาก เทพเซอุสก็ลักลอบไปมีความสัมพันธ์กับสาวๆอยู่เสมอ ทั้งเทพีและมนุษย์ทั้งหลาย จนมีโอรสธิดาอยู่มากมายนับไม่ถ้วน จึงเป็นที่มาของความหมายของดาวเซอุสที่เกี่ยวข้อง การสร้างสรรค์ การประดิษฐ์ หรือการมีบุตร นั่นเอง

ความหมายจากสัญลักษณ์ดาว

          สัญลักษณ์ของเซอุส ประกอบด้วย สัญลักษณ์กางเขน (Cross) ตะแคงอยู่ด้านล่าง และมีลูกศร (Arrow) ชี้ขึ้นข้างบน ลูกศรหมายถึงพลังงานที่พุ่งขึ้นโดยมีทิศทางชัดเจน ไม่สะเปะสะปะ กางเขนหมายถึงความเป็นจริงของชีวิต หรือการเน้นเชิงปฏิบัติ (Pragmatism) ไม่ใช่อุดมคติเลื่อนลอย ดังนั้นเมื่อนำมารวมกัน สามารถกล่าวโดยสรุปได้ว่า สัญลักษณ์เซอุส หมายถึง พลังงานที่มีทิศทางเป้าหมายชัดเจน ตั้งอยู่บนพื้นฐานการจัดการที่เป็นระเบียบ

ความหมายโดยย่อ

          การอำนวยการ, การประดิษฐ์ขึ้นมา, การทำการ การกระทำตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ กิจกรรมที่มีแผนไว้โดยสมบูรณ์ เป้าหมายระยะยาว อยากเป็นนายหรืออยากเจรจาอย่างนาย ไฟที่ได้รับการควบคุม, กำลังงานที่ได้รับการควบคุมบังคับ เครื่องจักรกล ผลผลิต

คำอธิบาย

          ผมได้สรุปความหมายหลักของดาวเซอุสตามความเข้าใจของผม (ไม่รวมความหมายในเรื่องกาละและเทศะ) อยู่ 3 ประการ คือ การอำนวยการ การสร้างสรรค์ และกำลังงานที่มีการควบคุม ความหมายแรก “การอำนวยการ” นั้น หมายถึง ความสามารถในการบริหารจัดการ และความสามารถในการเป็นผู้นำ ผู้นำในความหมายของเซอุสนี้ ไม่ได้หมายถึงอำนาจในการบังคับบัญชาหรืออำนาจในการให้คุณให้โทษ (ซึ่งจะตรงกับความหมายของโครโนสมากกว่า) แต่เซอุสหมายถึงอำนาจที่เกิดจากการชี้ทิศทางที่จะมุ่งไป หรือวิสัยทัศน์นั่นเอง ผู้นำลักษณะนี้ในทางบริหารจัดการเรียกว่า Visionary Leader กล่าวคือ เป็นผู้มองเห็นภาพในอนาคตที่องค์กรกำลังจะมุ่งไปสู่ ทำให้ผู้ตามทราบว่ากำลังทำงานเพื่อเป้าหมายใดอยู่ ในโลกปัจจุบัน สังคมมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ องค์กรที่มีการจัดโครงสร้างตามลำดับชั้นที่ไม่มีการยืดหยุ่นจะไม่สามารถตอบสนองความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ผู้นำสูงสุดขององค์กรไม่สามารถจะออกระเบียบหรือคำสั่งสำหรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ สมาชิกในองค์กรต่างหากที่จะต้องรู้จักกระทำการต่อสถานการณ์ที่ตนเองเจอ ปัญหาคือแล้วผู้นำจะควบคุมองค์กรให้ไปทิศทางเดียวกันได้อย่างไร คำตอบคือผู้นำต้องให้วิสัยทัศน์ หรือเป้าหมายที่ชัดเจนนั่นเอง รายละเอียดการนำแบบเซอุสนี้เป็นเรื่องสำคัญและซับซ้อนในวิชาการบริหารองค์กร หากต้องการเข้าใจในเชิงลึก ผมคิดว่าควรที่จะไปศึกษาเพิ่มเติมในตำราว่าด้วย ความเป็นผู้นำ ทั้งหลายด้วย

          ความหมายต่อมาของเซอุส คือ “การสร้างสรรค์” คำว่าสร้างสรรค์นี้ มีความหมายที่กว้าง ตั้งแต่ การก่อกำเนิด การประดิษฐ์ การสร้างขึ้นมา ในชีวิตครอบครัว การสร้างสรรค์ก็คือ การกำเนิดของชีวิต ดังนั้น เวลาที่จะดูว่า คนๆนี้มีความสามารถในการสืบพันธุ์หรือมีบุตรได้หรือไม่ จึงต้องดูที่เซอุส เช่น บุคคลใดที่ศูนย์รังสี เนปจูน/เซอุส สัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตา ย่อมมีแนวโน้มที่จะเป็นหมัน เป็นต้น ในด้านชีวิตการทำงาน เซอุสหมายถึงความสามารถในการริเริ่ม สร้างสรรค์ ประดิษฐ์ หรือมีนวัตกรรม เกิดขึ้นมา คนที่มีเซอุสเด่นย่อมไม่ทำงานย่ำอยู่กับที่แน่นอน แต่จะสร้างสรรค์งานใหม่ๆขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง การสร้างสรรค์แบบเซอุสนี้หมายถึงการสร้างสรรค์จนเกิดผลงานขึ้นมาจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่คิดมาเฉยๆ เพราะเซอุสเป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่นักอุดมคติ

          ความหมายอีกประการของเซอุส คือ “กำลังงานที่มีการควบคุม” ในเรื่องนี้จะหมายถึงพวกเครื่องจักร กลไกต่างๆ ที่มีการควบคุม อันที่จริงมีดาวหลายดวงที่มีความหมายเกี่ยวกับเครื่องจักร เช่น อังคาร และวัลคานุส เพราะต่างมีความหมายเกี่ยวกับพลังงานด้วยกันทั้งสิ้น (ซึ่งก็หมายถึงธาตุไฟนั่นเอง) แต่จุดเด่นของเซอุสคือมีการควบคุมหรือมีเป้าหมายชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ปืนหรืออาวุธยิง ซึ่งกลไกที่มีอำนาจทำลายและมีการเล็งเป้า (อังคาร + เซอุส) เป็นต้น

การสำแดงผล

          การอธิบายความหมายของดาวเซอุสสามารถอธิบายควบคู่ไปกับดาวมฤตยูที่เป็นคู่กัน นั่นคือ มฤตยูหมายถึงด้านใน ส่วนเซอุสหมายถึงด้านนอก มฤตยูหมายถึงความตื่นเต้น พลังงานที่ไม่มีทิศทาง ทำให้เกิดการทำลายได้ แต่เซอุสนั้นมีการกำหนดทิศทางไปยังเป้าหมายด้านนอก จึงเป็นการสร้างสรรค์ หรือการอำนวยการนั่นเอง

          อาจารย์ประยูรเคยเขียนไว้ใน คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ ว่า อาทิตย์หรือเมอริเดียน + เซอุส คือเสียงที่สองของชีวิต บ่งบอกแนวทางการนำชีวิตของเจ้าชะตา เป็นกุญแจไขไปสู่ข้อยุติว่า ชีวิตของเจ้าชะตาจะมีลีลาพุ่งออกจาด้านในไปด้านนอกและมีผลทำให้เป็นผู้นำหรือไม่ (ซึ่งต้องดูประกอบกับเสียงที่ 2 อื่นๆ คือ อาทิตย์+เซอุส, อาทิตย์+เนปจูน, อาทิตย์+โพไซดอน)

ความหมายในมิติเวลา (กาละ หรือ Time)

          ดังที่กล่าวในบทความเรื่องดาวทิพย์ตอนก่อนหน้านี้ ที่ว่า คิวปิโด คือ พลังงานการสร้างของอนาคต และฮาเดสคือพลังงานการทำลายของอดีต สำหรับดาวทิพย์ดวงที่ 3 คือ เซอุส หมายถึง ปัจจุบัน ซึ่งหมายถึงการเชื่อมต่อระหว่างอดีตกับอนาคตนั่นเอง

ความหมายในมิติอวกาศ (เทศะ หรือ Space)

          คำว่า เทศะ หรือ อวกาศ (Space) นั้น หมายถึง การบ่งบอกตำแหน่งของบุคคลหรือสิ่งต่างๆ ดาวทิพย์ในโหราศาสตร์ยูเรเนียนที่เกี่ยวกับกับเทศะมีด้วยกัน 4 ดวง ได้แก่ เซอุส โครโนส อาพอลลอน และแอดเมตอส โดย เซอุสหมายถึง ใกล้ ตรงข้ามกับอาพอลลอนที่แปลว่าไกล การนำความหมายเกี่ยวกับเทศะของดาวทิพย์เหล่านี้มาใช้จะต้องนำมาประกอบกับความรู้ในเรื่องของจุดเจ้าชะตาที่ว่าด้วยเทศะหรืออวกาศ นั่นคือ ลัคนา และราหู เช่น ลัคนา+เซอุส แปลว่า สิ่งที่อยู่ใกล้เจ้าชะตา เป็นต้น

เอกสารอ้างอิง
1. พล.ต. ประยูร พลอารีย์, คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ, โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ.
2. Ruth Brummund and Udo Rudolph, Handbook of Techniques for the Hamburg School, Witte-Verlag, 1992.
3. Penelope Bertucelli, Uranian Astrology Manual : Cosmobiology Conference August 17-20, Penelope Publications, 1995.
4. มาลัย (จุฑารัตน์), ตำนานกรีก-โรมัน (ฉบับสมบูรณ์), สำนักพิมพ์พิมพ์คำ, 2548.
5. L Blake Finley, Astronomical Data for the Transneptunian factors of Alfred Witte and Friedrich Sieggrün, The Uranian Institute, March 2007
6. http://en.wikipedia.org/wiki/Main_Page




เจาะลึกโหรา

ธาตุทั้งสี่ และการนำไปใช้เชิงจิตวิทยา
ไฟ ดิน ลม น้ำ ปฐมบทของโหราศาสตร์
ดวงจีโอเดติก ดาวพลูโต และวงรอบเสียกรุง 2310
โหราศาสตร์กับเงินตราสกุลหลักของโลก article
คัมภีร์เตตราบิโบลส ต้นธารของโหราศาสตร์ไทยและยูเรเนียน? article
บ้านเหนือ บ้านใต้ ตอนจบ article
บ้านเหนือ บ้านใต้ ตอน 1 article
เรือนชะตาจันทร์ 28 เรือน article
การกลับมาของเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Return of Great Depression?) article
พลูโตในยุคสมัยต่างๆ article
เรือนชะตา 24 ระบบ article
โหราศาสตร์ธุรกิจ: กรณีศึกษาอัตราเงินเฟ้อและตลาดหลักทรัพย์ไทย article
ข่าวล่า เกี่ยวกับการประชุมโหราศาสตร์ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๑๘ article
การประชุมทางวิชาการโหราศาสตร์ระหว่างชาติประจำปี ๒๕๑๘ article
รู้จักดาวทิพย์ในโหราศาสตร์ยูเรเนียน ตอน 3: ฮาเดส article
เลือกฤกษ์มงคลด้วยตนเอง article
รู้จักดาวทิพย์ในโหราศาสตร์ยูเรเนียน ตอน 2: คิวปิโด article
รู้จักดาวทิพย์ในโหราศาสตร์ยูเรเนียน ตอน 1: ที่มาของดาวทิพย์ article
ความเป็นมาของโหราศาสตร์ยูเรเนียน ตอนจบ article
ความเป็นมาของโหราศาสตร์ยูเรเนียน ตอน 1 article
Daylight Saving Time หรือ Summer Time ปัญหากวนใจของนักพยากรณ์ article
คอมพิวเตอร์ในวงการโหราศาสตร์ article
วิวัฒนาการ ของ โหราศาสตร์ article
โหราศาสตร์ กับที่มาของวันทั้ง 7 ในรอบสัปดาห์ article
จารึกมรกต : ที่มาของ ปรัชญามูลฐาน แห่ง โหราศาสตร์ article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
eXTReMe Tracker