วิโรจน์  กรดนิยมชัย
20 กุมภาพันธ์ 2551

          ในวันมาฆบูชาที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 หรือวันมาฆปูรณมี เป็นวันที่เกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงตรงกับเวลากลางคืนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 (อ่านอิทธิพลของการเกิดคราสในครั้งนี้และความเห็นในทางโหราศาสตร์สังคมได้ที่ http://www.horauranian.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=horauraniancom&thispage=1&No=289195 ) เหนือฟ้าประเทศในทวีปที่อยู่รอบมหาสมุทรแอตแลนติก ประกอบด้วยทวีปยุโรป แอฟริกา ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปอเมริกาใต้รวมไปถึงเขตอาร์กติก อิทธิพลที่เกิดผลขึ้นแล้วได้แก่ ประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบา ประกาศลงจากอำนาจที่ปกครองมายาวนานเกือบ 50 ปี และการเกิดแผ่นดินไหวค่อนข้างรุนแรงในประเทศอินโดนีเซีย หากว่าในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีปรากฎการณ์แผ่นดินไหว ในประเทศอินเดีย จะมีผลความเสียหายรุนแรงมากกว่าที่เกิดในประเทศอินโดนีเซีย เพราะอาจจะทำให้เกิดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย และอาจจะส่งผลถึงประเทศไทยได้ (แต่หวังว่าคงไม่เกิด)

          แม้ว่าปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งนี้จะมองไม่เห็นในประเทศไทย แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกันปรากฏการณ์ที่อยู่บนฟ้าย่อมส่งผลไปทั่วโลกได้ นายกรัฐมนตรีของไทยและสมาชิกในครอบครัวรวมถึงสมาชิกร่วมพรรคเดียวกันและพรรคร่วมรัฐบาล ควรที่จะต้องระมัดระวังปัญหาด้านสุขภาพ อาจจะมีการสูญเสียเครือญาติในระยะ 1 เดือนข้างหน้านี้ ดังนั้น การดำเนินการใดๆในทางการเมืองในระยะนี้ไม่เป็นผลดีต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอย่างแน่นอน

          อิทธิพลการเกิดคราสครั้งนี้ส่งผลในภาพรวมของสังคมไทย ได้แก่ มิตรกลายเป็นศัตรู การตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างคนที่เคยมีข้อตกลงระหว่างกัน การเกิดเหตุฆาตกรรมร้ายแรงหรือมีการกระทำที่มีผลให้เกิดความตาย (ทั้งที่ตายไม่หายใจ และตายไปจากสังคม) เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกระดับในสังคมไทย ปัญหาความตึงเครียดในสังคมไทยอันเนื่องมาจากการรื้อฟื้นเหตุการณ์ที่เป็นบาดแผลของสังคมไทยในอดีตที่มีผลต่อตัวนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญกับเหตุการณ์ในอดีตโดยตรง เมื่อพิจารณาดวงชะตาของนายสมัคร สุนทรเวช พบว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีปัจจัยที่หมายถึง การถูกกดดัน การสร้างแรงกดดัน หรือการรื้อฟื้นอดีต การขุดรากเหง้า ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งเป็นผู้กระทำต่อผู้อื่น (ในกรณีที่มักพูดถึง มือที่มองไม่เห็น) และการถูกผู้อื่นกระทำ (กรณีการถูกหลายฝ่ายในสังคมต้องการให้มีการขอโทษ กรณี 6 ตุลาคม 2519)

          ศึกการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ สามารถนำมาเปรียบ เทียบได้กับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ได้แก่ จอห์น แมคเคน ผู้สูงอายุที่สุดตัวแทนของพรรครีพับลิกัน เปรียบเทียบได้กับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีที่เข้ารับตำแหน่งในขณะที่มีอายุมากที่สุดของไทย แห่งพรรคพลังประชาชนซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเดโมแครทของไทย ซึ่งกำลังขับเคี่ยวกับ บารัค โอบามา ตัวแทนคนหนุ่มและผิวสีแห่งพรรคเดโมแครท เปรียบเทียบได้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัวแทนคนหนุ่มแห่งพรรค เดโมแครทของไทย การขับเคี่ยวกันในเวทีการเมืองของ 2 ประเทศในขณะนี้เป็นสัญญาณถึงอนาคตในปลายปีนี้ว่า จะเหลือใครที่จะอยู่รอดถึงปีหน้า ปกติแล้วประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกามักมีเหตุการณ์ในสังคมที่เกิดเหตุใกล้เคียงกัน กล่าวคือ หากเกิดเหตุการณ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือน เหตุการณ์ในทำนองเดียวกันจะเกิดขึ้นในประเทศไทยด้วย แต่ในช่วงระยะหลังนี้ บางครั้งเหตุการณ์ก็กลับข้างกัน คือเกิดเหตุในประเทศไทยก่อนแล้วจึงเกิดในสหรัฐอเมริกา

          เศรษฐกิจของประเทศไทยในรอบสัปดาห์นี้และภาพรวมใน 1 เดือนข้างหน้าเป็นเรื่องของวงจรอุบาทว์ทางการเงินและการคลังของประเทศไทย : ปัญหาของกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทยทำท่าจะเป็นหนังเรื่องยาวที่ไม่อาจจะหาข้อยุติได้ง่าย ยกเว้นจะใช้วิธี “หักด้ามพร้าด้วยเข่า” ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการปริวรรตเงินตรา ซึ่งจะมีผลทำให้รายได้ของประเทศลดลงในทันที ผลความเสียหายจะเป็นอย่างไรคงไม่ต้องอธิบาย ตลาดหุ้น : ตลอด 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ไม่น่ามีปัจจัยที่จะทำให้มีผลเป็นบวก  นักลงทุน “ต้อง” ระมัดระวังตัวให้ดี ราคาน้ำมัน : ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวน มีแนวโน้มไปในทางที่ไม่ดีนัก ประเทศผู้ผลิตน้ำมันอาจจะมีความเห็นขัดแย้งกัน นักเก็งกำไรราคาน้ำมันก็พากันมาเก็งกำไรค่าเงินของไทย ซึ่งจะเห็นว่ามีคนเตรียมการเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว