วิโรจน์  กรดนิยมชัย
23 กันยายน 2551

สหรัฐอเมริกาฟองสบู่แตกในช่วง วันที่ 27 พฤศจิกายน 2008

          ผมอยากจะตั้ง Milestone เรื่องนี้เอาไว้นับถอยหลังก่อนที่จะถึงวันนั้น  แล้วจึงค่อยมาพิจารณาปัจจัยต่างๆว่ามีอะไร และจะเป็นอย่างไรต่อไปบ้าง

          เนื่องจากบทความนี้เพิ่งลงในหนังสือ BLUE CHIP ฉบับนี้เป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้อ่านได้มีข้อมูลพื้นฐานของดวงชะตาโลกในปี 2551 ประกอบการอ่านและทำความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเนื้อหาสาระของบทความนี้ ดังนั้น ผมจะอธิบายภาพดวงชะตาโลกในปี 2551 โดยสรุป ดังนี้

          “ในปี 2551 หรือ 2008 นี้ มีปรากฏการณ์อุปราคา 4 ครั้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนสิงหาคม โดยเป็นสุริยุปราคาและจันทรุปราคา เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งปรากฏการณ์อุปราคานี้ปรากฏขึ้นในราศีกุมภ์ และราศีสิงห์ ซึ่งเป็นราศีของ ความพลิกผัน เหตุการณ์ฉับพลัน การลงทุน การเป็นผู้นำ ดังจะเห็นภาพการเมืองในระดับประเทศ มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำในหลายประเทศ มีพิบัติภัยจากธรรมชาติที่ทำลายทรัพย์สินและชีวิตของประชากรในหลายประเทศ และกว่าจะพ้นปี 2551 นี้ไป จะยังมีภัยพิบัติรุนแรงเกิดขึ้นได้อีก ผู้นำในอีกหลายประเทศ จ่อคิวที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอีกด้วย และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551ที่ผ่านมาได้มีปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง เริ่มตั้งแต่ แคนาดา ผ่านไปทางตอนเหนือของกรีนแลนด์ มหาสมุทรอาร์คติก ผ่านกลางประเทศรัสเซีย มองโกเลีย และไปสิ้นสุดที่ประเทศจีนเมื่อตะวันตกดิน จะพบว่า เกิดแผ่นดินไหวและน้ำท่วมในหลายประเทศที่แนวคราสพาดผ่าน แม้แนวการเกิดคราสจะไม่ได้พาดผ่านสหรัฐอเมริกาโดยตรง แต่ก็สามารถเห็นการเกิดคราสครั้งนี้ได้ ประกอบกับประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งตั้งอยู่บนเส้น LONGITUDE ที่อยู่ตรงข้ามกับประเทศไทย (สังเกตได้จากการที่ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามีเวลาต่างกัน 12 ชั่วโมง) เหตุการณ์ที่เคยเกิดในประเทศหนึ่งมักจะเกิดขึ้นในอีกประเทศด้วย เพียงแต่ว่า ระยะเวลาความห่างของเหตุการณ์นั้นจะขึ้นอยู่กับ วงรอบการเกิดซ้ำของปัจจัยบนฟ้า (ตำแหน่งดาวทางดาราศาสตร์) หากมองย้อนกลับไปเมื่อปี 2540 ที่เกิดเหตุการณ์ “ต้มยำกุ้ง” ที่ประเทศไทยต้องพบหายนะจากธุรกิจเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์แล้วลุกลามไปจนทำให้สถาบันการเงินต้องล้มละลายเป็นจำนวนมาก จนถึงวันนี้เป็นเวลา 11 ปี ซึ่งเป็น “วงรอบสุริยะ Solar Cycle” สหรัฐอเมริกาจึงได้เผชิญปัญหาเช่นเดียวกับที่ประเทศไทยเคยประสบมา และแม้กระทั่งวิธีคิดที่จะแก้ปัญหา สหรัฐอเมริกาก็ยังคิดจะใช้วิธีเดียวกับที่ประเทศไทยเคยใช้มาแล้ว ด้วยการที่รัฐบาลเข้ามาซื้อหนี้เน่า และจัดให้มีหน่วยงานพิเศษเพื่อบริหารสินทรัพย์เหล่านี้ ซึ่งขณะนี้ “แผล” เพิ่งเริ่มต้นและจะทวีความรุนแรงไปเรื่อยๆจนกระทั่ง ฟองสบู่แตกในช่วง วันที่ 27 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ (อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่ www.horauranian.com)”

ดวงชะตาโลกในเดือนตุลาคมนี้

          นับจากวันที่ 29 กันยายน – 28 ตุลาคม 2551 มีปัจจัยบนฟ้าที่บอกถึง การสลายตัว การล่มสลาย ความคลุมเครือ สภาวะการขาดแคลนเงิน การขาดสภาพคล่องในการทำ ธุรกรรมระหว่างคู่สัญญาที่มีพันธะต่อกันในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับบุคคลต่อบุคคล บุคคลต่อองค์กร องค์กรต่อองค์กร องค์กรต่อรัฐ รัฐต่อรัฐ และระหว่างประเทศคู่ค้า นอกจากนี้แล้วยังมีปัจจัยที่บอกถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างใหญ่หลวงอันเนื่องมาจากการล้มละลายของกิจการที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจชั้นนำของโลก สิ่งที่น่าสนใจคือ ประเทศหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่ในตะวันออกกลางจะได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่หลายประเทศช่วยกันลงขันเพื่อพยุงสถาบันการเงินขนาดใหญ่ไม่ให้ล้ม

          อุบัติภัยที่จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติในช่วงเดือนนี้ ได้แก่ สภาพอากาศที่เข้าขั้นวิกฤติ ทำให้เกิดโรคระบาด การเน่าเปื่อยและสูญสลายของพืชพันธุ์ อันเนื่องมาจากการเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่

          อุบัติภัยที่จะเกิดขึ้นจากมนุษย์ ประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้ จะเป็นภัยที่คุกคามผู้หญิงและเด็ก เช่น มีอาชญากรรมเกี่ยวกับสตรี และเด็ก  ปัญหาเกี่ยวกับการทำแท้ง

          “การลอบสังหาร” อาจจะเป็นประเด็นที่ต้องติดตามว่า ใครจะตกเป็นเป้าหมาย

          ปัจจัยทางการเมืองและสังคมโลก อาจจะมีการจัดประชุมเพื่อกำหนดมาตรการ หรือการออกกฎหมาย หรือกฎระเบียบ ที่เกี่ยวกับการเกษตร ที่ดิน การประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพยุงสถานะของ กิจการเหล่านี้ไม่ให้ก่อความเสียหายต่อเศรษฐกิจของโลก ในทางการเมืองของประเทศต่างๆ พรรคการเมืองฝ่ายค้าน และผู้ที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลจะดำเนินการเชิงรุกไล่รัฐบาล ซึ่งรัฐบาลในประเทศที่มีปัญหาในทางกฎหมายจะตกอยู่ในสภาพที่ยากจะกอบกู้หรือพยุงรักษาสถานะให้ดำรงคงอยู่ได้อีกต่อไป

ดวงชะตาของประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้

          อุบัติภัยที่จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ มีปัจจัยที่บอกถึงความหายนะภัย มีการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเกิดอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง  และอุบัติเหตุทางน้ำ

          อุบัติภัยที่จะเกิดขึ้นจากมนุษย์ ประเด็น“การลอบสังหาร” อาจจะเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นได้กับบุคคลชั้นนำในทุกระดับ ตั้งแต่คนดังในสังคมท้องถิ่นชนบท จนถึงคนดังในสังคมของประเทศ น่าติดตามว่า ใครจะตกเป็นเป้าหมาย

          สถานการณ์ทางการเมือง และสังคมไทย

          ผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ไม่น่าพลิกผันไปจากผลการสำรวจของโพลต่างๆ เพราะปัจจัยที่บอกว่า ผู้ชนะการเลือกตั้งนั้น ได้แก่ “ดาวพฤหัส” ลองนับนิ้วดูสิครับว่า วันเลือกตั้งวันที่เท่าไร และวันพฤหัสเป็นวันที่เท่าไรของสัปดาห์

          การเมืองระดับประเทศ รัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่นั้น เพียงเริ่มต้นก็นับถอยหลังได้เลย เพราะ ในดวงชะตาของผู้ที่รับบทนายกรัฐมนตรีนั้น มีปัจจัยที่บ่งบอกถึงความไม่เป็นตัวของตัวเอง การขาดความเชื่อมั่น การมีความกดดันในฐานะนักการเมือง (สมมติ เช่น ถูกขอร้องแกมบังคับให้ทำงานการเมือง โดยไม่อาจขัดขืนใจได้) ซึ่งจะเป็นความกดดันต่อกันระหว่างฝ่ายต่างๆ มีความพยายามที่จะการใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเร่งให้บรรลุผลของแต่ละฝ่าย ซึ่งจะมีช่วงที่พลิกผัน ผลัดกันได้เปรียบเสียเปรียบ ต่างฝ่ายต้องเร่งระดม "มือระดับมันสมอง” เพื่อวางแผนเพื่อแก้เกมกันตลอดเวลา แต่สถานการณ์ก็ยังไม่สามารถเดินไปสู่จุดแตกหักได้อย่างสิ้นเชิงทุกฝ่าย การดำรงสถานะของรัฐบาลก็เป็นไปด้วยความยากลำบากตลอดเวลา ซึ่งจะว่าไปแล้ว รัฐบาลมีโอกาสที่จะสะดุดล้มด้วยตัวเองมากกว่าที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามกระทำ

          ด้านสังคม ประชาชนทั่วไปอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเตรียมพร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ฉับพลัน อันได้แก่ ปัญหาการเกิดอุทกภัยโดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกและและรอบอ่าวไทย ถึงภาคใต้ ที่ต้องระวังพายุ และน้ำท่วมล้นตลิ่ง ซึ่งปีนี้เป็นวงรอบการเกิดซ้ำ 19 ปี (Metonic Cycle) ของการเกิดพายุเกย์ เมื่อปี 2532 แต่อาจจะไม่ได้เกิด ณ พื้นที่เดิมก็ได้

          สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

          ความเสียหายทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาย่อมส่งผลกระทบไปทั่วโลก ประเทศไทยก็ไม่รอดพ้นจากวัฎฎะนี้ไปได้ เพียงแต่ คนไทยไม่ใช่ผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรง ในทางกลับกัน ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เหมือนที่ชาวต่างชาติเคยได้รับประโยชน์เมื่อคราว “เกิดเหตุต้มยำกุ้ง” มาแล้ว แต่ประโยชน์ที่จะได้รับนี้อาจจะตกอยู่ในมือของผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจที่เห็นช่องทางที่จะได้รับผลประโยชน์จากการสูญเสียของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอานิสงค์นี้อาจจะตกไม่ทั่วถึงมือชาวบ้าน

          ทิศทางเศรษฐกิจของไทยในเดือนตุลาคมนี้ : อาจจะมีการระดมนักวิชาการที่มาจาก “ค่ายหรือฝ่ายเดียวกัน” เพื่อรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจของโลกที่ใกล้จะสะดุดล้มในไม่ช้านี้ แต่อีกด้านหนึ่ง การพลิกวิกฤติเป็นโอกาส จะส่งผลให้ใครได้ประโยชน์ (บทเรียนจากราคาข้าวที่สูงขึ้น แล้วชาวนาได้อะไร นั่นคือตัวอย่างของคำตอบ) ค่าเงินบาทของไทย : มีเสถียรภาพที่น่าพอใจ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่จะมีจะขึ้นกับสถานการณ์ของประเทศ ไม่ใช่เกิดจากปัจจัยภายนอกประเทศ ราคาทองคำ : น่าจะมีราคาสูงขึ้นทั้งในตลาดไทยและตลาดต่างประเทศสวนทางกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา ราคาน้ำมัน : ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะไม่นิ่งมีการปรับตัวขึ้นลงตลอดเวลา แต่สำหรับราคาน้ำมันในประเทศจะมีการปรับราคาที่ไม่เป็นไปตลาดกลไกของตลาด การปรับราคาจะขึ้นกับกลุ่มอิทธิพลที่ต้องการใช้ราคาน้ำมันเพื่อประโยชน์อะไร ภาพรวมของตลาดหุ้น : นักลงทุนควรอยู่นิ่งๆ เก็บเงินสดไว้ดีกว่า ส่วนผู้ที่ติดราคาในตลาดก็ต้องทำใจไปก่อนรอเวลาตัดสินใจเมื่อการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงแล้วค่อยตัดสินใจจะดีกว่า