วิโรจน์ กรดนิยมชัย
21 มกราคม 2552
วันที่ 21 แห่งปี 2552
โลกในปีนี้ได้รับอิทธิพลของการเกิดคราสถึง 6 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายของปี 2552 จะตรงกับวันที่ 1 มกราคม 2553 เวลา 02.04 น. ต่อเนื่องจากคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2552 และครั้งแรกจะตรงกับวันตรุษจีนที่ 26 มกราคม นี้ เป็นสุริยุปราคาวงแหวน แต่ในประเทศไทยจะเห็นดวงอาทิตย์เป็นรอยแหว่งบางส่วน ช่วงเวลาบ่าย 14.59 น. ภาคใต้เป็นบริเวณที่มีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุด โดยเฉลี่ยเริ่มเวลาประมาณ 16.00 น. บังเต็มที่ในเวลาประมาณ 17.00 น. และสิ้นสุดในเวลาประมาณ 18.00 น. โดยจะเห็นดวงอาทิตย์แหว่งทางซ้ายมือค่อนไปทางด้านบนเมื่อเทียบกับขอบฟ้า หลายจังหวัดทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน จะยังคงเห็นดวงอาทิตย์แหว่งอยู่เล็กน้อยในจังหวะที่ดวงอาทิตย์ตกดิน ข้อมูลจากสมาคมดาราศาสตร์ไทย http://thaiastro.nectec.or.th
การเกิดคราสครั้งนี้จะเป็นปรากฏการณ์พิเศษ เนื่องจากระยะเวลาการเกิดคราสนาน 7 นาที 56 วินาที นับเป็นระยะเวลาที่นานที่สุดครั้งหนึ่ง ในทางโหราศาสตร์นั้นจะมีอิทธิพลต่อโลกนาน 7 เดือน ก่อนและหลังการเกิดคราส ซึ่งหากจะอนุมานว่าการชุมนุมของพันธมิตร เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว ซึ่งใกล้ เคียงกับช่วงเวลาของการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของ บารัค โอบามา น่าจะอยู่ภายใต้อิทธิพลหนึ่งของคราสครั้งนี้ และต้องดูกันต่อไปว่า จากนี้ไปอีก 7 เดือนข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ดวงชะตาโลกประจำสัปดาห์นี้ : อิทธิพลของการเกิดคราสครั้งนี้ หมายถึง ความทุกข์และความเศร้าเสียใจทั่วไป (เช่นเดียวกับ 7 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนล้มตายจำนวนมากเพราะการกระทำโดยประมาท และความตั้งใจของมนุษย์ที่แบ่งฝ่ายกัน) มีผลต่อประเทศที่แนวการเกิดคราสพาดผ่าน ได้แก่ ประเทศในภูมิภาคเหล่านี้ อาฟริกา แอนตาร์คติด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ประเทศที่เห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวนได้แก่ อินเดียตอนใต้ เกาะสุมาตรา และเกาะบอร์เนียว ประเทศเหล่านี้ต้องระวังความเสียหายกับฝูงสัตว์ปีกในฟาร์ม และสัตว์น้ำ และผู้อยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลที่จะได้รับความเสียหายจากภัยต่างๆ และอิทธิพลสำคัญคือ อิทธิพลของดาวเสาร์สันโดษ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่โดดเดี่ยวห่างไกลจากดาวดวงอื่นๆในระบบสุริยะเลยทีเดียว ซึ่งน่าจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง การพลัดพรากและการสูญเสียที่มีนัยสำคัญ อาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศต่างๆตามหลัง จอร์จ บุช ภายใน 7 เดือนนับจากนี้ ตลาดหุ้นสำคัญๆของโลกอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องเฝ้าระวังว่า การใช้ข้อมูลภายในเพื่อหาประโยชน์ ได้แก่ประเทศไหนบ้างก็ต้องรอดูกันต่อไป
สถานการณ์ในประเทศไทย :
1. น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญ หรือไม่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ดีนักแก้พรรคร่วมรัฐบาล
2. อาจมีการใช้ข้อมูลหรือเอกสารปลอมเพื่อหวังผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
3. กิจกรรมและเอกสารสิทธิ์เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จะเป็นปัญหาที่มีนัยสำคัญ
4. สิ่งที่จะเป็นปัญหาได้แก่ กิจการขนส่ง การเดินทาง คมนาคม การสื่อสาร
ทิศทางเศรษฐกิจของไทยในสัปดาห์นี้ : มาตรการต่างๆเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจที่เป็นเจตนาบริสุทธิ์จะถูกแปรเปลี่ยนไปใช้ในทางตรงข้าม เช่น มีการนำไปใช้หาประโยชน์ จนเกิดความเสียหายได้ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน : แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น เงินบาทของไทย : จะอ่อนค่าลง มีผลทำให้รายได้ของรัฐและเอกชนลดลงด้วย ราคาทองคำ : ราคาทองคำเป็นช่วงที่ต้องอาศัยความไว เนื่องจากมีความผันผวนเร็ว และน่าจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาราคาสูงขึ้น ซึ่งน่าจะมีการเก็งกำไร หรือการกักตุน ราคาน้ำมัน : ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากมีการใช้เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันในประเทศเริ่มปรับสูงขึ้นด้วย ภาพรวมของตลาดหุ้นของไทย : ในระยะนี้น่าจะดูดีขึ้น แต่กลับนิ่งๆ และจะปรับตัวตามการเคลื่อนไหวของนักลงทุนและตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งน่าจะมีความผันผวน และความไม่ชัดเจน