วิโรจน์ กรดนิยมชัย

13 มีนาคม 2550

19 มีนาคม 2550 เป็นวันที่มีปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วน (ข้อมูลทางดาราศาสตร์ ดูได้ที่ http://thaiastro.nectec.or.th) สามารถมองเห็นได้ในประเทศไทย ตั้งแต่เหนือสุดไปจนถึงภาคใต้ ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะไม่เห็นปรากฏการณ์ในครั้งนี้ แม้จะเป็นสุริยุปราคาบางส่วน ในทางโหราศาสตร์ก็ยังมีอิทธิพลต่อทุกพื้นที่ที่สามารถเห็นปรากฏการณ์นี้ได้อิทธิพลต่างๆจะปรากฏให้เห็นเป็นระยะเวลาจากนี้ไป 3 เดือนเป็นอย่างน้อย น่าจะมีการสูญเสียบุคคลชั้นนำ เช่นระดับรัฐมนตรีทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีอีก(ในสังคมโลกเราจะเห็นการชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่ ประธานาธิบดีบุช มีการเรียกร้องค่าแรงหรือค่าสวัสดิการเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจของอเมริกาเริ่มส่งสัญญาณที่ไม่ดี) เราจะได้เห็นบทบาทของผู้มีอำนาจรัฐที่แข็งกร้าว เพื่อสยบกระแสคลื่นลมที่ไม่สงบ ยุทธการด้านสื่อสารมวลชนยังมีอิทธิพลรุนแรง การสร้างข่าวเพื่อลดความน่าเชื่อถือจะโหมกระหน่ำมากขึ้น ประชาชนทั่วไปต้องมีสติในการรับรู้ข่าวสาร และคัดกรองหาความน่าเชื่อถือว่า ข่าวใดที่น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง (ทำให้นึกถึง “หนังสือพิมพ์เจ้าพระยา” เมื่อปี 2520 ที่เป็นหนังสือพิมพ์โฆษณาชวนเชื่อที่ปัญญาชนไม่ซื้ออ่าน) ความคลุมเครือต่างๆจะคลี่คลาย ความจริงจะค่อยๆเปิดเผยต่อสาธารณชนมากขึ้นเรื่อยๆ มีผลทำให้ฝ่ายผู้สูญเสียอำนาจถอยร่นไม่เป็นขบวน เราจะเห็นกระบวนการการเอาตัวรอดด้วยวิธีการต่างๆนาๆ

สถานการณ์ทางการเมืองที่งวดเข้ามานี้มีผลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก มาตรการของรัฐเพื่อรักษาค่าเงินบาทประสบความสำเร็จที่น่าพอใจ มีกระแสเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาในระบบมากขึ้นซึ่งน่าจะดีกับตลาดหลักทรัพย์ด้วย

เหตุการณ์ทั่วไป กระแส “วัตถุความเชื่อ” จะมีปัญหาเรื่องของแท้ระบาดในของปลอมจนแยกไม่ออกว่าใครแท้ใครปลอม ความเชื่องมงายในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์จะมีอิทธิพลแรงกว่าความศรัทธาในหลักศาสนา มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องศาสนาทั้งในวัดและในการร่างรัฐธรรมนูญ

สถานการณ์ตลาดหุ้น ในมุมมองทางโหราศาสตร์

ตลาดหุ้นของไทยคงจะมีมาตรการบางอย่างเพื่อเสริมความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ ตลาดหุ้นของอเมริกาน่าจะมีปัญหาวิกฤติ ทำให้นักลงทุนขนเงินออกนอกประเทศ และส่วนหนึ่งน่าจะมาลงทุนในประเทศไทย

กลุ่มที่มีอนาคตดี ได้แก่ สถาบันการเงิน พลังงาน อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์อิเลคโทรนิค บันเทิง สินค้าแฟชั่น

กลุ่มที่มีอนาคตไม่ดี ได้แก่ สื่อสาร อสังหาริมทรัพย์เหล็ก สุขภาพและโรงพยาบาล ขนส่ง สื่อสิ่งพิมพ์ พาณิชย์ ICT ท่องเที่ยว วัสดุก่อสร้าง เคมีภัณฑ์