ReadyPlanet.com
dot
dot dot
dot
เกี่ยวกับเรา Horauranian.com
dot
bulletรำลึกถึง อาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์
bulletเจตนารมณ์
bulletติดต่อเรา
bulletโหราพยากรณ์
dot
บทความ
dot
bulletเกร็ดโหรน่ารู้
bulletเจาะลึกโหรา
bulletโหราศาสตร์บ้านเมือง
bulletBlog อ.วิโรจน์
bulletแนะนำตำรา
bulletไพ่ยิปซี จักรราศี (Celestial Tarot)
bulletกระดานถามตอบ
bulletคลังบทความดวงเมืองเศรษฐกิจ 2550-2552
bulletคลังกระทู้โหราศาสตร์ที่น่าสนใจ
dot
บทความน่าสนใจ
dot
bulletประเทศไทยหลังคดียึดทรัพย์ 2553
bulletReturn of Great Depression?
bulletChange! ผู้นำยุคใหม่ของโลก
bulletเรือนชะตาจันทร์ 28 เรือน
bulletโหราศาสตร์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์
bulletเลือกฤกษ์มงคลด้วยตนเอง
bullet6 ขั้นตอนเพื่อการดูหมออย่างคุ้มค่า
bulletชนะใจคนรัก 12 ราศี
dot
เว็บไซต์ที่น่าสนใจ
dot
bulletเพจ โหราศาสตร์ยูเรเนียน โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletโหราศาสตร์ยูเรเนียน โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletCelestial Strategist Blog
bulletBlog โหราเศรษฐกิจ
bulletเว็บไซต์ที่น่าสนใจ




ชีวิตของผม กับ โหราศาสตร์ ตอนที่ 5 จุดเริ่มต้นเป็นนักพยากรณ์
วันที่ 14/09/2017  15:54:16 PM ,ผู้เข้าชม : 1422

โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย

11 กันยายน 2560


เริ่มเขียนเรื่องการเป็นอาจารย์มาได้ 1 ย่อหน้า แต่คิดได้ว่า ต้องเรียงลำดับชีวิตใหม่ เพราะ ผมเริ่มเป็นนักพยากรณ์ก่อนเป็นอาจารย์สอนโหราศาสตร์

ปี 2530 ผมเริ่มเรียนโหราศาสตร์ยูเรเนียน กับอาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์ และวิชาลายมือ กับอาจารย์ พันเอก(พิเศษ)ปรีชา แดงบุปผา อาจารย์ผู้มีพระคุณแก่ผมทั้ง 2 ท่าน

โดยปกติแล้วนอกจากกิจกรรมการเรียนการสอนโหราศาสตร์ของสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมป์ แล้ว มีบริการพยากรณ์ดวงชะตา ด้วย “นักพยากรณ์มืออาชีพ” ที่ให้บริการอยู่รอบระเบียงสมาคมฯ นักพยากรณ์แต่ละท่านมากด้วยวัยวุฒิ และมีประสพการณ์มากมาย เป็นที่เชื่อถือของลูกค้าที่มาใช้บริการทุกวัน โดยเฉพาะ วันเสาร์ และอาทิตย์ที่มีการเรียนการสอน และเป็นวันหยุดราชการ จะมีลูกค้ามากกว่าวันธรรมดาหลายเท่า ดังนั้น สมาคมโหรฯจึงต้อง “สร้าง” นักพยากรณ์ โดยนักเรียนโหราศาสตร์ที่เรียนจบไปแล้วจะสามารถนำความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพได้ ดังนั้นจึงต้องมีการ “ฝึกงานภาคสนาม”

งานกาชาดสวนอัมพร คือสถานที่ “ฝึกงานภาคสนาม” ตารางการเรียนการสอนของสมาคมโหรฯ ตรงกับตารางการเรียนของโรงเรียนทั่วไป คือ เปิดภาคเรียน เดือนมิถุนายน และปิดภาคเรียน เดือนมีนาคมของปีถัดไป ซึ่งปลายเดือนมีนาคมก็จะเป็นวันเริ่มเปิดงานกาชาดประจำปี ที่สวนอัมพร นักเรียนทุกคนมีสิทธิสมัครเข้าร่วมกิจกรรมนี้ โดย อาจารย์ปรีชา แดงบุปผา เป็นผู้ดูแลกิจกรรมนี้ ผมกับเพื่อนๆก็นึกสนุกที่จะได้ลงสนามจริงหลังจากการเรียนจบในปีแรก ชั่วโมงเรียน 8 เดือน

งานกาชาด สวนอัมพร ปี 2531 วันแรกของงาน พวกเราก็ไปที่ร้านของสมาคมโหรฯในงานกาชาด อย่าสนุกสนาน ตอนเย็นอากาศโพล้เพล้ ผมก็ได้ลูกค้ารายแรก เป็นผู้ชายหนุ่มเดินมาที่โต๊ะของผม นั่งอยู่ตรงหน้าผม ผมก็เริ่มถาม วัน เดือน ปี และ เวลาเกิด เอาแล้วสิ ผมจะเริ่มตรงไหนก่อนดี นี่คือลูกค้าที่เราไม่รู้จัก ไม่ใช่เพื่อนนักเรียนที่เราดูดวงกันเล่นๆสนุกๆ มาตลอด ผมใช้ทุกวิชาความรู้ ตั้งแต่กราฟชีวิต ดูลายมือ คำนวณดวงยูเรเนียน ผสมกันทุกอย่างเพื่อเอาตัวให้รอด เพื่อนๆยืนเชียร์ให้กำลังใจอยู่ข้างๆ จำไม่ได้ว่าดูเรื่องอะไรไปบ้าง แล้วเวลาก็ผ่านไปพร้อมกับลูกค้าที่เดินจากไป ผมไม่รู้หรอกว่า ผลการพยากรณ์เป็นอย่างไรบ้าง ลูกค้าพอใจหรือไม่ แล้ววันนั้น ผมก้ได้ลูกค้าเพียงคนเดียว

ในงานวันนั้นได้ยินเสียงอาจารย์ปรีชาเรียกลูกศิษย์รุ่นพี่ที่เรียนก่อนผม 5 คนพร้อมคำสั่งว่า “ครูขอให้พวกเธอไปช่วยงานพยากรณ์ที่ร้านสมเด็จ เพราะทางนั้นขาดนักพยากรณ์ และขอมา ให้ไปพบผู้ดูแลแล้วบอกว่า ผมให้มา”

เย็นวันรุ่งขึ้น ผมมาถึงงานกาชาด ยังไม่ทันได้นั่ง อาจารย์ปรีชาก็เดินมาหาผม พร้อมคำพูด “วิโรจน์ ช่วยครูหน่อย ครูขอให้ให้เธอไปที่ร้านสมเด็จฯ แล้วบอกว่า ครูให้มา” ผมอึ้งไปทันที “ผมเพิ่งเรียนแค่ปีเดียวนะครับอาจารย์ จะไหวหรือครับ แล้วพวกพี่ๆที่ไปเมื่อวานนี้ล่ะครับ” อาจารย์ปรีชา ตอบมาว่า “ทางร้านสมเด็จโทรมาต่อว่าครู ว่า พวกลูกศิษย์ที่ส่งมาเมื่อวานนี้ วันนี้ไม่มาเลยสักคนเดียว และไม่บอกด้วยว่าไปไหน” รุ้นพี่ที่ไปเมื่อวานนี้ ทุกคนอายุมากกว่าผมทุกคน ผมจึงต้องเก็บอุปกรณ์ของผมเพื่อไปร้านสมเด็จฯตามที่อาจารย์ปรีชามอบหมาย พอผมเดินไปถึงร้านสมเด็จฯ ผมรายงานตัวกับผู้ดูแลร้านฯ ผมเห็นสุภาพสตรีสูงวัย 4 – 5 ท่าน แต่ละท่านแต่งกายดีมาก ทุกท่านมองผมด้วยสายตากังวล เพราะในยุคนั้น หมอดูส่วนใหญ่จะมีอายุมากกว่าผมทั้งนั้น ผมในวัย 32 ปี จึงเป็นสิ่งแปลกตา และความน่าเชื่อถือเรื่องประสพการณ์จะมีหรือ ผมก็เล่าให้ฟังว่า “ผมเพิ่งเรียนมาแค่ปีเดียวครับ” ดังนั้น ผมจึงถูกทดสอบฝีมือด้วยการให้ดูดวงกับสุภาพสตรีท่านหนึ่ง วิชาที่ผมใช้ก้เช่นเดิม ทุกศาสตร์ที่ผมใช้เมื่อวาน วันนี้ก็ใช้เหมือนเดิม ผลการทดสอบ “ลูกค้ากิตติมศักดิ์” พอใจ คืนนั้นผมมีลูกค้าจำไม่ได้ว่ากี่ราย และรู้มาว่า ลูกค้าของผมทุกคน เมื่อออกจากโต๊ะของผม จะถูก “สัมภาษณ์” ทุกราย แต่ผมไม่รู้ว่าลูกค้าแต่ละท่าน ให้ความเห็นอย่างไร

22.00 น. เวลาเลิกงาน “ผู้ดูแลร้าน” เดินมาบอกผมว่า “พรุ่งนี้มาอีกนะ”

ผมจะมาถึงงานกาชาดหลัง 17:00 น . ทุกวัน เพราะผมทำงานประจำ จะมางานกาชาดได้ต้องหลังเลิกงาน 16:00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ผมกลายเป็นนักพยากรณ์ประจำร้านสมเด็จฯตลอดงานกาชาดปี 2531 และไม่ได้กลับไปร้านของสมาคมโหรฯ อีกเลยตลอดชีวิตของการเป็นนักพยากรณ์ ที่ร้านสมเด็จฯ มีนักพยากรณ์ประมาณ10 คน แต่ละคนเป็นหมอดูมากประสพการณ์ อายุมากกว่าผมทุกคน บางคนจะมาเฉพาะวันที่ตนเองว่าง บางคนก็อุทิศตนเองเพื่องานการกุศลเพื่อกาชาด คือมาทุกวัน ส่วนผมเริ่มสนุก และเริ่มเข้าที่แล้ว จึงขยันมาทุกวัน และวันสุดท้ายของงานกาชาด ผู้ดูแลร้าน ถามผมว่า ผมจะมาเร็วกว่านี้ได้มั้ย เพราะมาแต่ตอนเย็น มีเวลาดูดวงแค่ ไม่กี่ชั่วโมง และมีลูกค้ามานั่งรอทุกวัน ผมตอบว่า “ได้ครับ คือต้องทำหนังสือขอตัวผมจากที่ทำงานครับ”  และนี่คือจุดเริ่มต้นของหนังสือขอตัวผมจากภริยาองคมนตรี ประธานร้านสมเด็จ มาถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อขอตัวผมให้ไปเป็นนักพยากรณ์ในงานกาชาด  ทุกปี และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเป็นนักพยากรณ์อาชีพของผม

หมายเหตุ : ร้านสมเด็จองค์สภานายิกา สภากาชาดไทย บริเวณสวนองุ่นในสวยอัมพร ร้านพยากรณ์ดำเนินงานโดยชมรมภริยาตุลาการ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล เป็นภริยาตุลาการย่อมรู้จักกับอาจารย์ปรีชา เพราะ อาจารย์พันเอกปรีชา เป็นตุลาการศาลทหาร คือคนในแวดวงตุลาการเหมือนกัน

ชีวิตของผม กับ โหราศาสตร์ ตอนที่ 4
วันที่ 14/09/2017  15:44:11 PM ,ผู้เข้าชม : 1292

วิโรจน์ กรดนิยมชัย

2 กันยายน 2560 : 22.19 น.

ด้วยความที่ผมไม่ใช่ “ศิษย์ก้นกุฏิ” ผมจึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับประวัติชีวิตของท่าน ตลอดจน วัน เวลา ที่ท่านเดินทางไปศึกษาโหราศาสตร์ที่ Hamburg ที่ผมรับรู้บางเรื่องราวก็มาจากการบอกเล่าจากอาจารย์เอง รวมทั้งจากการพูดคุยกับ “ศิษย์รุ่นพี่” ผมทราบเพียงว่า อาจารย์พลตรีประยูร ได้รับอนุญาตจาก Hamburg ให้สามารถแปลหนังสือทุกเล่มเป็นภาษาไทยได้ ซึ่งหนังสือคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ คือผลงานชิ้นเอกของท่าน ที่ถ่ายทอดความคิดของ Hamburg มาให้นักเรียนยูเรเนียนในประเทศไทยได้มี “คัมภีร์โหราศาสตร์” ที่ดีที่สุด ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ จะเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากนักเรียนยูเรเนียนจะรู้จักคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ เฉพาะสมการดวงดาว ที่บรรจุอยู่ในโปรแกรมยูเรเนียนโดยไม่มีหนังสือคัมภีร์ฉบับ “หนังสือกระดาษ” ไว้ “อ่าน และหาความรู้ที่มากกว่า สูตรสมการดาว”

วันที่ 16 มีนาคม 2536 อาจารย์พลตรีประยูร พบอารีย์ ท่านถึงแก่กรรม และงานพระราชทานเพลิงศพของท่าน ในวันที่ 21 มีนาคม 2536 ชีวิตของท่านได้เดินทางจากราศีเมษในดวงชะตากำเนิดของท่าน ผ่านราศีมีน และกลับสู่จุดเมษบนสรวงสวรรค์ในวันวสันตวิษุวัต พอดี

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ผมกล้าบอกได้ว่า ยังไม่มีหนังสือโหราศาสตร์ยูเรเนียนในประเทศไทยที่ดีเท่ากับ หนังสือ อารัมภบทโหราศาสตร์ และ คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ มรดกความรู้ของอาจารย์ ที่ผมนำมาใช้สอนตลอด 24 ปี สอนด้วยการแนะนำแต่ละหน้าในคัมภีร์ เพื่อให้นักเรียนรุ่นหลังได้ใช้คัมภีร์อย่างเจ้าใจ และถูกต้อง ตามอย่างที่อาจารย์ได้เคยสอนนักเรียนยูเรเนียนที่สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ในช่วงที่ท่านยังสอนอยู่ ภายหลังจากที่หนังสือได้จัดพิมพ์เสร็จในปี 2531 หรือ 2532 และผมได้สอนต่อมาตลอดจนถึงวันนี้

ตอนที่แล้วผมบอกว่าจะเล่าเรื่องการสอนโหราศาสตร์ยูเรเนียน ผมก็จะเล่าต่อจากนี้

ชั่วโมงแรกของการเรียน อาจารย์จะบอกให้รู้ว่า การเรียนโหราศาสตร์นั้น ไม่ใช่เพียงการเรียนเรื่องของดวงดาวเพียงอย่างเดียว เพราะ นักโหราศาสตร์จะต้องรู้ปรัชญาที่สำคัญ และเกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ในการอ่านดวงชะตา และการพยากรณ์ จากนั้นจะอธิบายดาราศาสตร์ที่จำเป็นพอสังเขป ได้แก่ ระบบสุริยจักรวาล การโคจรของโลก และดวงดาว แล้วจึงเข้าสู่ความหมายของดวงดาว จักรราศี และเรือนชะตา การคำนวณดวงชะตาด้วยปฏิทิน EPhemeris (ผมก็สอนตามนี้) การอ่านพื้นดวงชะตา ความรู้เรื่องมุมสัมพันธ์ การอ่านดวงชะตาทั้ง Primary และ Secondary progress การใช้โค้งสุริยยาตร์ การคำนวณดวงทินวรรษ การใช้ดวง Transit ต่างๆ รวมทั้งเกร็ดความรู้โหราศาสตร์จากเหตุการณ์และสถานการณ์ปัจจุบัน จึงไม่แปลกใจที่ นักเรียนรุ่นพี่หลายคน ติดตามเรียนซ้ำๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนถึงวันที่อาจารย์ถึงแก่กรรม รุ่นพี่เหล่านั้นจึงหยุดเรียน ผมเคยถามรุ่นพี่ๆว่า ทำไมต้องเรียนซ้ำๆ คนละหลายๆปีไม่รู้สึกเบื่อกันบ้างหรือ คำตอบที่ได้คือ เพราะอาจารย์จะมีเกร็ดความรู้ที่ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละปีที่เรียน ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ผมเรียนกับอาจารย์ตั้งแต่ 30 มิถุนายน 2530 ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2536 เพราะอาจารย์ล้มป่วย และถึงแก่กรรมในที่สุด ผมจึงต้องยุติชีวิตนักเรียนยูเรเนีนนไปด้วย และผมภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของลูกศิษย์คนหนึ่งที่ได้ช่วยพาอาจารย์กลับสู่ราศีเมษเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2536

ชีวิตของผม กับ โหราศาสตร์ ตอนที่ 3
วันที่ 14/09/2017  15:40:05 PM ,ผู้เข้าชม : 1350

โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย

27 สิงหาคม 2560

เมื่อตอนที่แล้ว ผมทิ้งท้ายเอาไว้ว่าผมจะเล่า เรื่องการสอนของอาจารย์ประยูรสอน และผมนำมาสอนตามอย่างอาจารย์ เดินตามรอยของอาจารย์ ทำให้ชีวิตของผมอยู่ได้จนทุกวันนี้

ผมเป็นนักเรียนโหราศาสตร์ที่ไม่ได้คิดถึงว่า เรียนแล้วจะเอาไปทำอะไร ขอใช้เวลาว่างที่มีอย่างมีความสุขกับการเรียน และได้ความรู้ หน้าที่การงานก็มั่นคงแล้ว ไม่ลำบากอะไร ไม่ต้องดิ้นรนเป็นหมอดู และไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะต้องมายืนสอนโหราศาสตร์ แต่คงเพราะโชคชะตากำหนดที่ทำให้ชีวิตของผมต้องมาถึงจุดนี้

ทุกเช้าวันเสาร์ ถึงเที่ยง เป็นเวลาที่ผมเรียนโหราศาสตร์ กับอาจารย์ประยูร พอสอนเสร็จอาจารย์ก็จะขับรถออกจากสมาคมโหรฯ เพื่อไปสอนต่อที่โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อาจารย์ประยูรสอนร่วมกับอาจารย์จรัญ พิกุล ถึงตรงนี้ต้องเล่าถึงอาจารย์จรัญ พิกุล บ้าง ผมไม่เคยเรียนกับท่าน และไม่เคยสนทนากับท่าน เพราะท่านก็ไม่รู้จักผม แต่ผมให้ความเคารพท่านอาจารย์จรัญ ในฐานะที่ท่านเป็นอาจารย์ผู้ใหญ่ และเป็นเพื่อนกับอาจารย์ประยูร ผมยิ่งต้องให้ความเคารพเหมือนกัน (เช่นเดียวกับอาจารย์สอนโหราศาสตร์ทุกท่านในสมาคมโหรฯ ที่ถึงแม้ผมจะไม่เคยเรียนด้วย แต่ผมก็ให้ความเคารพทุกท่าน) ผมจึงไม่รู้จักอาจารย์จรัญ พิกุล รวมทั้งลูกศิษย์ของอาจารย์ที่โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ (และคงเป็นนิสัยติดตัวผมมาถึงวันทำงานด้วย ที่ผมไม่ติดตามหัวหน้าไปไหนๆด้วย เพราะถือว่า “มีหน้าที่เท่าที่ได้รับมอบหมาย และไม่เคยเลือกเส้นทางชีวิตตามที่อยากมี อยากเป็น หรืออยากได้ เพราะ ไม่เคยคิดอยากมี ไม่คิดอยากจะเป็น และไม่เคยคิดอยากได้ อะไรที่ไม่ใช่ของเราก็จะไม่ใช่ของเรา แต่ถ้าเป็นของของเรา วันหนึ่งก็จะต้องเป็นของเรา”)

ผมเป็นนักเรียนที่ไม่เคยเดินตามอาจารย์ ถ้าอาจารย์เรียก ผมยินดีทำให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้ สมัยนั้นผมคิดว่าเราเป็นเด็กใหม่ คงเข้าถึงอาจารย์ไม่ได้ เพราะทุกวันเสาร์จะเห็นลูกศิษย์หลายๆคนห้อมล้อมอาจารย์ตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาพักระหว่างชั่วโมงเรียน อาจารย์ก็ไม่ได้พัก เพราะต้องตอบคำถามสารพัดให้แก่ลูกศิษย์ทุกคน อาจารย์ประยูรจะมีวันว่างเฉพาะ วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ ถ้าไม่มีใครไปหาเพื่อให้ดูดวงชะตา แต่วันเสาร์และอาทิตย์ อาจารย์จะอยู่กับนักเรียนที่สมาคมโหรฯในวันเสาร์เช้า และตอนบ่าย กับวันอาทิตย์ทั้งวัน อาจารย์จะอยู่ที่โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ ผมจึงเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ประยูรเฉพาะที่สมาคมโหรฯเพียงแห่งเดียว

เพราะการที่ผมไม่ใช่คนที่วิ่งติดตามอาจารย์ประยูรเลย ผมจึงพูดได้ว่า ผมไม่ใช่ลูกศิษย์ใกล้ชิดอาจารย์ชนิดไปไหนไปกัน หรือ “ลูกศิษย์ก้นกุฏิ” ผมรักและเคารพอาจารย์ประยูร ด้วยการปฏิบัติบูชา คือ ยึดถืออาจารย์ คือแบบอย่างในการเป็นนักโหราศาสตร์ และในการเป็นผู้สอนโหราศาสตร์ตราบจนทุกวันนี้ มีอยู่วันหนึ่งที่ผมและเพื่อนอีกคนหนึ่ง จะไปงานพระราชทานเพลิงศพ ลูกศิษย์คนหนึ่งที่เป็นแอร์โฮสเตรสของการบินไทย ที่เสียชีวิตจากการที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุที่ กัฐมัณฑุ ประเทศเนปาล ระหว่างทางที่เรานั่งรถไปกับอาจารย์ ท่านได้คุยถึงสถานการณ์ที่โหราศาสตร์กรุงเทพ ท่านได้บอกแก่ผมว่า “คุณวิโรจน์ ก็ดูแลเฉพาะที่สมาคมโหรฯ ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับที่โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ” ผมรับคำ “ครับ” และนี่คือ สัญญาใจที่ผมรับปากกับอาจารย์ประยูร มาถึงวันนี้ แต่วันหนึ่งผมก็ต้องเดินออกจากสมาคมโหรฯ หลังจากที่ผมสอนที่สมาคมโหรตั้งแต่ปี 2536 ถึงปี 2542

จบตอนนี้ก็ยังไม่ได้เล่าเรื่อง สิ่งที่อาจารย์สอน และบอกเกี่ยวกับการไปที่โรงเรียนโหราศาสตร์ฮัมบรูก ต้องรอตอนต่อไป


#ทุกสิ่งล้วนโหราศาสตร์

#โหราศาสตร์

#ยูเรเนียน

#วิโรจน์ #กรดนิยมชัย 

ชีวิตของผมกับโหราศาสตร์ ตอนที่ 2
วันที่ 03/09/2017  15:32:54 PM ,ผู้เข้าชม : 1150

โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย

เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2560 เวลา23:23 น.

ก่อนที่ผมจะสนใจเรื่องโหราศาสตร์ เป็นเพราะ ผมมีคำถามในใจเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผมว่า "เราเกิดมาทำไม" ผมมีคำถาม แต่หาคำตอบไม่ได้ มีคนบอกว่า ไปดูหมอที่ท่าพระจันทร์สิ มีหมอดูแม่นๆนะ ผมเคยไปดูแค่ครั้งเดียว ไม่เจอหมอแม่น แค่เจอหมอไม่แม่น ที่ไม่แม่น เพราะ อ่านดวงของผม เป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่คนที่ผมรู้จักเลย

เลิกดูหมอ หาหนังสืออ่าน เพราะสมัยก่อนปี 2523 ยังไม่รู้จักว่าคอมพิวเตอร์ คืออะไร สิ่งที่จะค้นหาความรู้มีเพียง "หนังสือ" เท่านั้น ช่วงนั้นทำงานอยู่ต่างจังหวัด มีตลาดนัด วันเงินเดือนออก จะมีร้านค้ามาขายของสารพัด ทำให้ชีวิตมีอะไรทำมากกว่านอนหัวค่ำ เดินหาซื้อหนังสือ ดูแล้วดูอีก ได้มา 1 เล่ม "กราฟชีวิต" กับราคา 10 บาท อ่าน และทดลองดูดวงตัวเองตามที่หนังสืออธิบาย ได้คำตอบที่ดีกว่าที่เคยไปดูหมอ
ทดลองดูดวงให้สาวๆในที่ทำงาน ก็ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบดูดวง และจะชอบมากคือ ดูฟรี ผมก็ได้หนูทดลองเป็นกรณีศึกษาคือสาวๆเกือบหมดออฟฟิส หลายคนบอกว่าแม่น ผมก็ดูจนเชี่ยวชาญ และเก็บมาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมรอดตาย จากการเป็นหมอดูครั้งแรกในงานกาชาด ปี 2531
ปี 2528 ผมย้ายกลับมาทำงานในกรุงเทพ ก็ยังสนุกอยู่กับกราฟชีวิต จนกระทั่ง ปลายปี 2529 เจอ "พี่น้อย" พี่น้อยให้ดูดวงกราฟชีวิตให้ ก็บอกว่า "ใช้ได้" วันนั้นผมคงโชคดี เพราะพี่น้อยบอกว่า พี่ก็เรียนวิชาดูดวง แต่เป็นดวงเยอรมันนะ "อาจจะยากสำหรับน้องนะ" ผมก็ถามต่อว่า พี่เรียนที่ไหน พี่น้อยบอกว่าไปเรียนที่สมาคมโหรแห่งประเทศไทย แถวๆบางลำภู 

ผมมีเวลาว่าง เสาร์-อาทิตย์ วันหนึ่งผมก็ไปบางลำภู เพื่อไปหาสมาคมโหรฯ เพื่อจะสมัครเรียน (และนี่คือ จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้เข้ามาในรั้วสมาคมโหรแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2530 -2542)

วันที่ 24 มิถุนายน 2530 สมาคมโหรฯจัดปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ ทำให้ผมได้เห็น และรู้จักอาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์ และ อาจารย์พันเอก(พิเศษ)ปรีชา แดงบุปผา เป็นครั้งแรก ความรู้สึกตอนนั้น อาจารย์ทั้ง 2 ท่าน มาคนละแนวเลยอาจารย์ประยูร จะพูดเรียบๆ ท่าทางสุขุม จริงจัง ส่วนอาจารย์ปรีชา จะเสียงดังฟังชัด และคุยสนุกตลอดเวลา

วันที่ 30 มิถุนายน 2530 เป็นวันเปิดเทอมวันแรก เป็นวันแรกที่ผมได้สัมผัสวิชาโหราศาสตร์มาตรฐาน เป็นวันแรกที่ผมรักวิชานี้ และชอบอาจารย์ประยูร เพราะท่านสอนให้ผมรู้จักพื้นฐานของวิชาที่ผมไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ทำให้ผมมีความสนุกกับการเรียน โดยตลอดทั้ง 8 เดือนผมไม่ขาดเรียนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

--------------------------------------

#ทุกสิ่งล้วนโหราศาสตร์
#โหราศาสตร์
#ยูเรเนียน

#วิโรจน์ #กรดนิยมชัย 

ชีวิตของผมกับโหราศาสตร์ ตอนที่ 1
วันที่ 03/09/2017  15:28:29 PM ,ผู้เข้าชม : 1267

โดย อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย

13 สิงหาคม 2560

เมื่อปี 2530 ผมไปสมัครเรียนโหราศาสตร์ที่สมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยไม่รู้จักเลยว่า โหราศาสตร์ คืออะไร และมีอะไรบ้าง

คำตอบที่ได้รับเมื่อไปถึงสมาคมโหรฯ

โหราศาสตร์ไทยเต็มแล้ว

เหลือแต่โหราศาสตร์มาตรฐาน โหราศาสตร์ยูเรเนียน และลายมือ 1

ใจของผมคิดในตอนนั้น คือหากผมจะเริ่มเรียนโหราศาสตร์ ผมควรจะต้องเริ่มต้นจาก 0 ศูนย์ เพราะน่าจะเป็นการปูพื้นฐาน ก่อนที่จะไปเรียนในชั้นที่สูงขึ้น หรือวิชาอื่นๆ

ผมจึงสมัครเรียน โหราศาสตร์มาตรฐานในวันเสาร์ เวลา 8:30-10:00 น. และลายมือ 1 ในวันอาทิตย์ เวลา 8:30-10:00 น.

พอถึงวันเปิดเรียน วันเสาร์ ผมเป็นเด็กที่สุดในช่วงเวลานั้น จากที่เรียนด้วยกันจึงได้รู้ว่า รุ่นพี่ รุ่นลุง และป้า แต่ละท่านคิดตามเรียนกับอาจารย์ประยูรคนละ 10-15 ปี ทั้งนั้น ผมเป็นเด็กใหม่ และคงจะมีคนอื่นๆด้วย แต่ผมไม่ได้รู้จัก เพราะ ไปเรียนเพื่อเรียน

พอเรียน ถึง 10:00 น. ไม่เห็นมีใครลุกออกจากห้องเลย ทุกคนนั่งเรียนกันต่อ ผมก็เลยนั่งเรียนต่อไปด้วย แต่เนื้อหาวิชา อาจารย์แยกเนื้อหาระหว่างเช้ากับตอนสายต่างกันเล็กน้อยระหว่างโหราศาสตร์มาตรฐาน กับโหราศาสตร์ยูเรเนียน 

วันอาทิตย์ก็เช่นกัน เช้าเรียนลายมือ 1 พอตอนสาย ก็เป็นลายมือ 2 อาจารย์ปรีชาท่านแบ่งเรื่องของมือ ออกเป็น 2 ตอน

เรียนไปเรื่อยๆก็ซึมซับไป ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ที่เรียน พอกลับถึงบ้าน ผมก็ทบทวนอ่านเลกเชอร์ที่จดมาทุกวัน อ่านอย่างไม่รู้เบื่อ กว่าจะเข้านอนก็เลยเที่ยงคืนทุกคืน 

ชีวิตของผมในช่วงเวลานั้น ไม่มีสิ่งอื่นเลย มีแต่โหราศาสตร์ และลายมือ เท่านั้น

เรียนด้วยสนุกสนาน เพราะอาจารย์ทั้งสองท่าน แม้จะสอนคนละสไตล์ แต่ทั้งสองท่านให้ความรู้ที่สนุกและน่าสนใจมาก ที่สนใจเพราะเป็นเรื่องที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน และไม่เคยคิดว่า ชีวิตจะโชคดีเช่นนี้ ที่ได้มาพบอาจารย์ที่เก่งที่สุดถึง 2 ท่าน วันเวลาผ่านไปถึงวันนี้ ทั้งสองท่านจากไปแล้ว ผมบอกกับตัวเองและคนรอบข้างเสมอว่า ผมเสียดายที่มีเวลารับความรู้จากท่านน้อยกว่ารุ่นพี่ รุ่นลุง ป้า ที่แต่ละท่านได้รับความรู้จากอาจารย์คนละเกิน 10 ปีแทบทั้งนั้น หากอาจารย์ท่านยังอยู่ ผมขอเป็นนักเรียนตลอดไปดีกว่า เพราะเวลาที่ผมเจอปัญหา ผมมีท่านเป็นที่ปรึกษา แต่เมื่อผมต้องมาเป็นผู้สอนต่อจากท่าน เวลาที่ผมมีปัญหา หรือข้อสงสัย ผมต้องแก้ปัญหาเอง ต้องค้นคว้าเพิ่มเติมเอง เอาสิ่งที่ท่านสอนเป็นจุดเริ่มต้น แล้วค้นคว้าต่อยอดมาจนทุกวันนี้

ผมได้เรียนกับอาจารย์พลตรีประยูร เพียง 7 ปี แต่เรียนลายมือกับท่านอาจารย์ปรีชาประมาณ 4 ปี (ผมสามารถใช้วิชาลายมือได้ดีพอสมควร และถึงวันนี้ก็ยังอ่านลายมือได้ดีกว่าเดิม เพราะใช้หลักโหราศาสตร์ผสานเข้าไปด้วย) เพราะคิดว่า ผมน่าจะชอบโหราศาสตร์ยูเรเนียนมากกว่า เพราะมีการนำหลักปรัชญามาใช้ในการอ่าน และพยากรณ์ดวงชะตาด้วย

--------------------------------------

#เพราะทุกสิ่งล้วนโหราศาสตร์

#โหราศาสตร์ยูเรเนียน

#โหราศาสตร์

หน้า 2/7
[ก่อนหน้า]   1 2 3 4 5 6 7  [ถัดไป]
[Go to top]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.
eXTReMe Tracker